Vogue Thailand

RUNWAY

ปฐมบทใหม่ของ Balenciaga โดย Pierpaolo Piccioli กับความหรูหราและการผสมผสานโลกทุกใบของเมซง

Pierpaolo Piccioli ไม่ได้ทำลายภาพแฟชั่นขบถแบบหมดสิ้น หรือเลือกหยิบยกผลงานเก่าแก่มาทั้งแผง แต่เป็นการผสมผสานอย่างเคารพนับถือต่อดีไซเนอร์ผู้รังสรรค์ผลงานมาก่อนหน้านี้

โดย Nattanam Waiyahong
05 ตุลาคม 2568

     ฉากหน้าการอารัมภบทของ Balenciaga ยุคเปลี่ยนผ่านมีคำบอกใบ้ = 0 ตลอดระยะเวลาหลายเดือนจนกระทั่งโค้งสุดท้ายก่อนโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 จะเริ่มขึ้น ภาพเก่าจากคลังของเมซงถูกนำมาฉายซ้ำผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และตั้งภาพความคาดหวังถึงการหยิบยกเรื่องราวอันเป็นตำนานของ Cristóbal Balenciaga กลับมาสรรสร้างใหม่ ในขณะเดียวกันก็ยังภาพยุคสมัยต่างๆ รวมถึง Demna สะท้อนรูปแบบการย้อนศึกษาและคลุกคลีกับประวัติศาสตร์ของเมซงทุกสมัยของ Pierpaolo Piccioli แม่ทัพคนใหม่ที่พร้อมจะเนรมิตแฟชั่นในแบบที่ชวนลุ้นติดขอบรันเวย์
 

     ก่อนโชว์เริ่มเหล่าแขกเหรื่อของบาเลนเซียกาปรากฏตัวกันอย่างหนาตา ‘พีพี-กฤษฎ์’ แบรนด์แอมบาสเดอร์จากประเทศไทยก็ยังนำเสนอลุคผสามผสานกลิ่นอายดั้งเดิมจากสมัยดีไซเนอร์คนก่อน เหล่าเซเลบริตี้เองก็เป็นดั่งคำบอกใบ้ว่าปิแอร์เปาโลอาจไม่ได้โละแฟชั่นเดิมทิ้งแต่จะเลือกวิธีการหลอมรวมความกลมกลืนเข้าไปก็เป็นได้ และเมื่อโชว์เริ่มต้นเสียงเพลงสะกดหูอย่าง ‘In This Heart’ ของ Sinéad O’Connor เริ่มต้นขึ้นทันที ต่อเนื่องตลอดทั้งโชว์กับซาวด์แทร็กที่ไพเราะชวนขนลุกทั้ง ‘Can't Take My Eyes Off Of You’ (I Love You Baby) โดย Lauryn Hill เรื่อยไปจนถึง Feeling Good และเพลงบรรเลงอย่าง Redemption เซ็ตบรรยากาศของโชว์แบบอยู่หมัดเลยทีเดียว

 
     เปิดฉากแรกของโชว์การเนรมิตแฟชั่นของปิแอร์เปาโลส่งสารทันทีว่าเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงทันควัน แต่จะสร้างสมดุลระหว่างความเป็นบาเลนเซียกาในรูปแบบต่างๆ สอดแทรกกับวิถีแฟชั่นในสไตล์ของตนเอง ทันใดนั้นลุคเซ็ตแรกก็มาพร้อมซิลูเอตความงดงามของชุดเดรสต้นแบบจากกูตูริเยร์ระดับตำนานผู้ก่อตั้งเมซงที่ถูกรีเฟรชให้ทันสมัย พร้อมกับการผสมผสานแอ็กเซสเซอรี่อย่างแว่นตาและวิธีการสไตลิ่งที่ทำให้ลูกค้าเก่า(สมัยเดมน่า)ไม่เตลิดเปิดเปิงหนีไปตั้งแต่ต้น หมวกทรงสูงปีกหน้าเรียบตรงเหมือนลูกผสมระหว่างหมวกทรงคลาสสิกกับสแนปแบ็กของวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียล หรือจะเป็นการจับคู่สีสันถุงมือ ถุงน่อง และของจำพวกเสื้อครอปตัวจิ๋ว รวมถึงกางเกงเอวต่ำที่สามารถยื้อแฟนคลับหัวขบถให้เพลิดเพลินกับคอลเล็กชั่นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว นอกจากนี้ยังมีกางเกง 3 ส่วน และไอเท็มจากยุคสมัยใหม่ที่ก้าวเข้ามาในอุโมงค์แห่งเวลาของเมซงในการเผยโฉมคอลเล็กชั่นแรกของปิแอร์เปาโล

     ‘เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงและความสง่างาม’ เหมือนเป็นองค์ประกอบทางความคิดของปิแอร์เปาโลอยู่เสมอ และแสดงให้เห็นในโชว์นี้เช่นเคย แม้จะมาสานต่อกับรูปแบบแฟชั่นโครงสร้างผิดเพี้ยนท้าทายของสังคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม ชุดเดรสจับระบาย กระโปรงบอลลูน งานปักประดับ รวมถึงการเลือกซิลูเอตของชุดที่ใช้ความเฉียบคมขับเสน่ห์เรือนร่างของผู้หญิงออกมาได้อย่างเต็มที่ การที่ปิแอร์เปาโลได้รับฉายาแบบเล่นๆ ว่า ‘ดีไซเนอร์ที่รักผู้หญิง’ จึงไม่ใช่เรื่องอื่นไกลในโชว์ครั้งนี้ มากไปกว่านั้นเผยเทคนิคการจับเดรปผ้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อสะท้อนความยอดเยี่ยมของงานฝีมืออันเก่าแก่ของโลกแฟชั่นที่เดินทางผ่านกาลเวลามาได้อย่างอมตะนิรันดร์

     รายละเอียด 3 มิติบนชุดคืออีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญ ปิแอร์เปาโลสร้างสรรค์วิธีการปรับใช้รายละเอียดอย่างฟริงก์ การประดับดอกไม้ และขนนก เพื่อเสริมมิติลูกเล่นเข้าไปในเสื้อผ้า ตั้งแต่เสื้อเบลาส์ กระโปรง ชุดเดรส รวมถึงงานนิตแวร์ที่ปรากฏมาน้อยนิดแต่สะกดตาด้วยสีสันและลวดลายจัดจ้านเพียงลุคเดียวในโชว์ ที่เหลือให้ทรวดทรงของเสื้อผ้าและการจับคู่สีเรียบทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งลายกราฟิก ไร้ซึ่งโลโก้ ไร้ซึ่งสปอร์ตแวร์ ตรงจุดนี้เองที่ดีไซเนอร์มากประสบการณ์สื่อสารว่ากำลังเปลี่ยนยุค แต่ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบอื่นๆ ทำให้ผู้ชมและลูกค้าต่างหลงใหลไปในโลกแห่งความสวยงามโฉมใหม่โดยไม่ตะขิดตะขวงแล้วเรียบร้อย
 

     ปิดขมวดปมสุดท้ายจะเห็นว่าทั้งโชว์ปิแอร์เปาโลแสดงความเคารพต่อดีไซเนอร์คนก่อนๆ ในหน้าประวัติศาสตร์เมซงด้วยความนับถือ โชว์รีมิกซ์เมดเล่ย์ที่เปรียบดั่งสูตรสำเร็จการเดบิวต์ ก็เป็นเครื่องมือที่ปิแอร์เปาโลใช้เช่นกัน วันนี้ Cocoon Coat กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งด้วยวิธีการมิกซ์แอนด์แมตช์ ในขณะเดียวกันเสื้อผ้าสะท้อนตัวตนขบถในแบบฉบับเดมน่าก็ยังปรากฏให้เห็นอยู่เด่นชัด คล้ายกับว่าโชว์นี้กำลังจะกล่าวถึงจุดจบและจุดเริ่มต้นของบาเลนเซียกาแบบครบถ้วนสมบูรณ์ดั่งคำกล่าวของปิแอร์เปาโลว่า “คอลเล็กชั่นเกิดขึ้นเพราะพวกเรานึกถึง มองเห็น และต้อนรับคนอีกคน” เช่นเดียวกับภาพที่โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียเป็นเซ็ตแรก โดยเป็นภาพชุดแต่งงานผ้าไหมกาซาร์และหมวกจากปี 1967 บันทึกโดย Jean Kublin ที่ระบุว่าชื่อว่า ‘The End and the Beginning’

ภาพ : Courtesy of BALENCIAGA / Vogue Runway / Daan Sachdev
กราฟิก : สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์
ปฐมบทใหม่ของ Balenciaga โดย Pierpaolo Piccioli กับความหรูหราและการผสมผสานโลกทุกใบของเมซง