Bottega Veneta Spring/Summer 2026 Louise Trotter

RUNWAY

วิเคราะห์ผลงานเดบิวต์ของ Louise Trotter ที่ Bottega Veneta ความสำเร็จของผู้หญิงในวงการแฟชั่น!

ในวันที่เกมเก้าอี้ดนตรีแฟชั่นผลักไสผู้หญิงออกไปจากตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของแบรนด์ Louise Trotter คือตัวแทนของความสำเร็จของดีไซเนอร์หญิง ที่พิสูจน์แล้วว่าตำแหน่งผู้นำไม่ได้สงวนเอาไว้แค่สำหรับเพศชายเสมอไป

โดย Peeranat Chansakoolnee
28 กันยายน 2568

     ย้อนกลับไปบนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 78 ประจำปี 2025 ผลงานของ Louise Trotter หัวเรือใหญ่คนใหม่ของ Bottega Veneta และยังนับเป็นหนึ่งดีไซเนอร์หญิงเพียงไม่กี่คนที่เหลือรอดจากเกมเก้าอี้ดนตรีแฟชั่น ได้ออกสู่สายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยครั้งนั้นถูกสวมใส่โดย Julianne Moore นักแสดงหญิงมากความสามารถ กับชุดกระโปรงยาวสีดำขลับไหล่ปาดมัดปมจากหนัง ไขว้ปล่อยสายหนังที่ถูกกรีดเป็นเส้นสายฟริ้นจ์ขนาดยาวไปด้านหลัง ที่แม้ว่าจะไม่หวือหวา แต่เหล่าสาวกแบรนด์และคนแฟชั่นต่างก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า Bottega Venta และงานฝีมืออิตาเลียนที่ถูกเปลี่ยนมือไปนั้น ยังปลอดภัยอยู่ในความดูแลของดีไซเนอร์หญิงที่ยังเห็นคุณค่าของงานหนังฝีมืออันเป็นอัตลักษณ์สำคัญของแบรนด์

     แม้ว่าลุคบนพรมแดงครั้งนั้นจะดูเรียบนิ่ง เช่นเดียวกับแนวทางของแบรนด์ และยังทำให้คนไม่แน่ใจในทิศทางของดีไซเนอร์หญิงที่เพิ่งขึ้นมาเป็นผู้นำแบนรนด์ Bottega Veneta หมาดๆ แต่ผ่านมาเพียงไม่นาน ในช่วงมิลานแฟชั่นวีก ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2026 ซึ่งเป็นเวลาในการเดบิวต์คอลเล็กชั่นแรกให้กับแบรนด์ Bottega Veneta ของ Louise Trotter นั้น กลับได้รับเสียงปรบมือและเสียงตะโกนว่า Bravo อย่างกึกก้องให้กับผลงานเกือบ 80 ลุคที่โชนแสงท่ามกลางรันเวย์อันทอดยาว ที่ระย้าด้วยประติมากรรมงานฝีมือกลางรันเวย์ เล่นล้อไปกับดีเอ็นเอของแบรนด์อย่างกลมกล่อม

     ความน่าสนใจของผลงานดบิวต์ของ Louise Trotter ที่แบรนด์ Bottega Veneta นั้นคือการยังคงยึดถือแก่นสำคัญของแบรนด์ที่เป็นมรดกตกทอดมาอย่างยาวนานคือ Craftsmanship หรือ งานหนังฝีมืออิตาเลียน ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของแบรนด์จากรากเหง้าจนถึงปัจจุบัน ผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์นมินิมัลด้านงานดีไซน์และการสไตลิ่งอันกลมกล่อม ไม่ว่าจะเป็น ชุดฟริ้นจ์ไวนีลงามระยับเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวของนางแบบ ที่กลายเป็นไอเท็มเด็ดของคอลเล็กชั่นนี้ไปแล้ว ขนาดที่ว่าคนแฟชั่นทั่วโลกอยากจะได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสใกล้ๆ, การสร้างเท็กซ์เจอร์พื้นผิวหนังหลากหลายรูปแบบ เรื่อยไปจนถึงเสื้อผ้างานเทเลอริ่งเนี้ยบกริบ และที่ละสายตาไม่ได้เลยคือเหล่าแอ็กเซสเซอร์รี่ ซึ่งความพิเศษในครั้งนี้ยังอยู่ที่การสร้างบทสนทนาให้กับจิตวิญญาณของ Bottega Veneta อย่างงานถักทอหนังพิเศษที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “Intrecciato” ซึ่งถูกนำมาเล่าใหม่อีกครั้งในสเกลคลาสสิก 9 มม./12 มม, ที่มีทั้งความคลาสสิกและร่วมสมัยในคราวเดียวกัน

     แม้ว่าหลายคนจะมองว่าผลงานเดบิวต์ของ Louise Trotter นั้นยังขาดความขี้เล่นและเรื่องเล่าสอดแทรกระหว่างทางที่เป็นองค์ประกอบนอกเหนือจากเสื้อผ้าและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ที่เคยเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญในยุคของ Matthieu Blazy แต่เราต่างก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า นี่คือคอลเล็กชั่นเดบิวต์ที่สวยที่สุดลำดับต้นของซีซั่นนี้ไปแล้วเรียบร้อย สวยแบบไม่ต้องใช้การตีความให้มากมาย เพราะหลายครั้งที่เราพูดถึง “ความสวย” เพียงแค่เห็นด้วยตาเนื้อว่าสวยก็คือสวย อีกทั้งเสียงโห่ร้องตะโกนและเสียงปรบมือเกรียวกราวหลังจบโชว์ก็ยังเป็นสิ่งที่การันตีได้อย่างดีว่า งานเดบิวต์ของดีไซเนอร์หญิงคนนี้ประสบความสำเร็จขนาดไหน

     อนึ่ง ในห้วงความคิดของผู้เขียนเอง เมื่อมองผ่านเลนส์การเคลื่อนไหวแบบสตรีนิยม อย่างที่หลายคนทราบกันเป็นอย่างดีว่า เกมเก้าอี้ดนตรีที่เกิดขึ้นในโลกแฟชั่นจนเกิดเป็นเหตุการณ์แสนชุลมุนมาจนถึงตอนนี้ ได้ผลักไสดีไซเนอร์หญิงออกไปจากตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของแบรนด์หลายชีวิต (และดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นแห่งนี้ ที่ทั้งสร้างมลพิษ และทิ้งแรงงานผู้หญิงไว้ข้างหลังอย่างน่าสมเพช ก็ยังคงไม่สะทกสะท้านอะไร) ความสำเร็จครั้งนี้ของ Louise Trotter จึงไม่ใช่แค่ความสำเร็จในนามของดีไซเนอร์หัวเรือใหญ่คนใหม่ของแบรนด์ Bottega Veneta เท่านั้น แต่คือความสำเร็จของผู้หญิงในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตำแหน่งผู้นำไม่ใช่พื้นที่ที่สงวนไว้สำหรับเพศชายเท่านั้น...

ภาพ : Vogue Runway