Vogue Thailand

LIFESTYLE

VOGUE SCOOP | เดินทางไปกับเหล่าเอดิเตอร์โว้ก เก็บความประทับใจจากงาน High Jewellery ประจำปี 2025

การเดินทางครั้งใหม่ของเหล่าเอดิเตอร์ Vogue Thailand เพื่อเก็บภาพความประทับใจในงาน High Jewellery ประจำปี 2025

โดย Vogue Thailand
17 กันยายน 2568

เรื่อง: กุลวิทย์ เลาสุขศรี, ฐาดิณี รัชชระเสวี, นาทนาม ไวยหงษ์

เรียบเรียง: อมันดา อัมพรมหา

กราฟิก: สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์

 

     การเดินทางครั้งใหม่ของเหล่าเอดิเตอร์โว้กเพื่อเก็บภาพความประทับใจในงาน High Jewellery ประจำปี 2025 ที่แบรนด์ต่างๆ ต่างนำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษและความเป็นเลิศในทุกมิติของเครื่องประดับชั้นสูง

 

 

 

Article

'กุลวิทย์ เลาสุขศรี' Editor in Chief

CHAUMET

Marbella, Spain

Jewels by Nature

คอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูงจากแบรนด์ฝรั่งเศส Chaumet ที่ร้อยเรียงความงามจากรูปทรงของดอกไม้ในธรรมชาติ สอดประสานอัญมณีน้ำงามและรสนิยมแบบปารีเซียง ความพิเศษของปีนี้คือการพาสื่อมวลชนและลูกค้าไปไกลถึงเมืองมาร์เบยา ประเทศสเปนเพื่อดื่มด่ำกับคอลเล็กชั่นที่มีธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจ


Stunning Piece

'True Blue' ไม่รู้ว่าเพราะสีน้ำเงินเป็นสีประจำแบรนด์ หรือเพราะไพลินศรีลังกาขนาด 36.44 กะรัตเป็นอัญมณีที่แพงที่สุดในคอลเล็กชั่น เพราะตัวเองรวมถึงแขกที่ไปร่วมงานหลายคนต่างก็ชื่นชอบสร้อยคอ Carnation ที่ประดับเพชรและไพลินแทรกดอกคาร์เนชั่นพร้อมไพลินเม็ดงามห้อยอยู่กึ่งกลาง สะท้อนรสนิยมการออกแบบของแบรนด์ที่นำเอาธรรมชาติมาช่วยเสริมอัญมณีให้โดดเด่นยิ่งขึ้น


Natural Selection

เมซงโชเมต์ย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์การออกแบบของแบรนด์ในกลุ่มงานออกแบบที่เกี่ยวเนื่องกับพืชพรรณและสิ่งมีชีวิตเพื่อเชื่อมโยงกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เช่น กุหลาบป่า ต้นไผ่ กล้วยไม้ ใบโคลเวอร์ แม้กระทั่งผึ้งป่าตัวจิ๋ว ทุกงานดีไซน์ตั้งใจให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด โดยแฝงแนวคิดความตระหนักเรื่องพืชพรรณและสัตว์ต่างๆ ที่กำลังถูกคุกคามหนักขึ้นเรื่อยๆ


Queen of the Night

'ซองเฮเคียว' แบรนด์แอมแบสซาเดอร์ของแบรนด์ผู้หยุดทุกสายตาในคืนนั้นด้วยรอยยิ้มของเธอ รอบนี้เธอเปลี่ยนลุคใหม่เป็นผมบ๊อบสั้นมีกลิ่นอายผู้หญิงเนิร์ด เมื่อแมตช์กับชุดราตรีและสร้อยไพลินเส้นเด่น แน่นอนว่านี่คือนัยของแบรนด์ที่บอกเราว่าผู้หญิงคนไหนจะเด่นที่สุดในงานคืนนี้


Light Up

ตามปกติการจัดแสดงเครื่องเพชรในงานต่างๆ นิยมจัดในห้องที่มืดแล้วใช้การจัดไฟนำสายตา แต่ที่สเปนหน้าร้อนนี้แบรนด์เลือกแสงแดดสดใสให้ส่องกระทบไฮจิวเวลรีโดยตรง แม้บางช่วงอาจจะถูกเมฆบังบ้าง หรือแสงแดดส่องกระทบเพชรมากเกินไปบ้าง แต่นี่คือเสน่ห์ความงามตามธรรมชาติที่โชเมต์ตั้งใจดีไซน์

 

 

 

Article

'ฐาดิณี รัชชระเสวี' Managing Editor
PIAGET
Barcelona, Spain


     เพียเจต์เป็นแบรนด์ที่เฉลิมฉลองงานศิลปะอย่างชัดเจน จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์เลือกเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปนเป็นหมุดหมายในการจัดแสดงคอลเล็กชั่นเครื่องประดับประจำปี 2025 ที่ชื่อว่า Shapes of Extraleganza นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงสถานที่เข้ากับคอนเซปต์ของคอลเล็กชั่นได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้ทั้งบรรยากาศและเข้าใจการร้อยเรียงเรื่องราวของเครื่องประดับแต่ละชิ้นว่าต้องการส่งมอบความรู้สึกแบบไหนให้ผู้เข้าชม


Place and Space

'Casa Corbero' ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเดินเข้าไปชมก็ได้ เป็นที่ที่เหมาะกับคอลเล็กชั่นด้วยรูปทรงของตึกที่มีหน้าต่างโค้งมน ล้อไปกับผลงานต่างๆ ที่เมซงนำเสนอ เป็นความน่าทึ่งที่เชื่อมโยงองค์ประกอบทางศิลป์เข้าไว้ด้วยกัน ราวกับว่าสถานที่ที่เลือกนี้คือชิ้นงานหนึ่งที่เมซงต้องการนำเสนอ นอกจากนี้สถานที่ต่างๆ ที่แบรนด์เลือกสรรไว้ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวแบบเดียวกันตลอดทั้งทริป ทำให้รู้สึกถึงความพิถีพิถันแบบไม่หลุดคอนเซปต์ เพื่อให้ผู้เข้าชมสัมผัสประสบการณ์อย่างลึกล้ำผ่านสถานที่เหล่านั้น


Colours and Gems

ส่วนตัวคิดว่าเพียเจต์เป็นแบรนด์ที่ใช้สีและอัญมณีได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงองค์ประกอบของงานดีไซน์ที่มีทั้งกลิ่นอายวินเทจและความทันสมัยอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน อัญมณีที่เมซงเลือกมาช่วยเสริมงานดีไซน์ให้ดูโดดเด่น ทั้งยังบอกถึงงานฝีมือที่ประณีตเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์

 

Charms of Barcelona

เป็นเมืองที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะชอบงานศิลปะที่แปลกตาของเมือง โดยเฉพาะงานของ Antoní Gaudi ที่สอดแทรกอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ จนถึงใหญ่ๆ อย่างโบสถ์ Sagrada Família ที่รออยู่ว่าเมื่อไรจะเสร็จสมบูรณ์ และตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเห็นเวอร์ชันที่สมบูรณ์กับตาตัวเองให้ได้สักวัน

 

Apo Nattawin

เป็น Global Brand Ambassador คนหนึ่งที่ร่วมทริปด้วยแล้วรู้สึกชื่นชมความทุ่มเทในการทำงานมาก อาโปไม่เพียงนำเสนอเครื่องประดับและนาฬิกาของเมซง แต่ยังทำหน้าที่เป็นลูกค้าตัวจริงของแบรนด์ มีความรู้และความเข้าใจในตัวแบรนด์มากๆ ทำให้เขานำเสนอเรื่องราวของแบรนด์โดยไม่ขาดตกบกพร่อง ที่สำคัญคืออาโปมีความเป็นกันเองกับสื่อทั่วโลก เป็นมิตรและใจดี จริงจังและตั้งใจมาก


Endless Emotion

เป็นชิ้นงานที่รู้สึกว่ามีความมหัศจรรย์ทั้งการสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการใช้สี ทำให้ลืมคำว่านาฬิกาตั้งโต๊ะไปเลย เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือประติมากรรมที่บอกเวลาได้ ชอบการคิดนอกกรอบโดยมีชิ้นงานศิลปะในอดีตเป็นแรงบันดาลใจ งานชิ้นนี้จึงทำให้รู้สึกเหมือนเป็นชิ้นงานวินเทจที่มีความร่วมสมัย และมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งงานที่ดูล้ำสมัยเมื่อได้ย้อนกลับมาดูใหม่ในอนาคต

 

 

 

Article

'จงกล พลาฤทธิ์' Fashion Director
CARTIER
Stockholm, Sweden

     คาร์เทียร์เชิญสื่อไปร่วมค้นหาความสมดุลระหว่างศิลปะกับธรรมชาติในบรรยากาศของฤดูร้อนที่แสนสดใส ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ผ่านการเปิดตัวคอลเล็กชั่น En Équilibre ทริปครั้งนี้ไม่ใช่แค่การชมเครื่องประดับชั้นสูง แต่ยังได้เรียนรู้ปรัชญาของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลมิดซัมเมอร์การเดินทางครั้งนี้หลอมรวมทุกองค์ประกอบจนเป็นประสบการณ์ที่ทั้งตราตรึงและเหนือความคาดหมาย


Destination

เมื่อพูดถึงทริปที่จัดโดยแบรนด์จิวเวลรีระดับโลก จุดหมายปลายทางเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ คาร์เทียร์เลือกกรุงสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของประเทศสวีเดนเป็นฉากหลังในการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ในช่วงเทศกาลมิดซัมเมอร์ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนเฉลิมฉลองธรรมชาติและการมีชีวิตอยู่ ฤดูร้อนในสแกนดิเนเวียไม่เหมือนที่ไหน การได้อยู่ท่ามกลางแสงสว่างอบอุ่นและผู้คนที่ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างจริงจังทำให้เราเข้าใจแก่นแท้ของผลงานจิวเวลรีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ความสมดุลของดีไซน์ แต่คือความสมดุลของชีวิต การอยู่ร่วมกันในชุมชน และความกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง


Collection En Équilibre

คอลเล็กชั่นล่าสุดของคาร์เทียร์แสดงให้เห็นการรังสรรค์ผลงานอย่างประณีตและเฉียบคม ด้วยเส้นสายที่สะท้อนรูปทรงของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ สัตว์ป่า พรรณพฤกษา และพลังงานที่เคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ ชิ้นที่ชอบที่สุดคือสร้อยคอ Panthère ที่ใช้มรกตสีเขียวเจียระไนอย่างประณีต ใช้เทคนิค Open Setting ช่วยให้ชิ้นงานดูพลิ้วและมีมิติ ทั้งยังผสานกลิ่นอายศิลปะอินเดียแบบดั้งเดิมกับโครงสร้างร่วมสมัยได้อย่างสง่างาม


Experience Design

คาร์เทียร์ไม่เพียงจัดแสดงเครื่องประดับ แต่ยังสร้างโลกให้เราเข้าไปอยู่ในนั้น การล่องเรือผ่านหมู่เกาะน้อยใหญ่ของสตอกโฮล์มจนถึงเกาะส่วนตัวเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด พร้อมสำหรับการรับรู้ความงามอย่างลึกซึ้ง เมื่อเท้าแตะพื้นเกาะกลางป่าเขียวขจี ท่ามกลางแสงแดดที่ลอดผ่านใบไม้ เหล่านางแบบก็ค่อยๆ ปรากฏตัวพร้อมเครื่องประดับคอลเล็กชั่นใหม่ในลุคที่แลดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง

 

Picnic Brunch

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็นสวีเดนคือมื้อปิกนิกบรันช์บนเกาะส่วนตัว อาหารเรียบง่ายทำจากวัตถุดิบสดใหม่เต็มไปด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ทุกคนได้นั่งพูดคุย ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และใช้เวลาร่วมกันอย่างเป็นกันเอง เป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกพิเศษยิ่งกว่ามื้อหรูหราในห้องจัดเลี้ยง มันคือการใช้ชีวิตแบบสมดุลอย่างแท้จริง เปี่ยมไปด้วยความหมาย ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวสวีเดนอย่างใกล้ชิด

 

Celebrity Moment

โมเมนต์ที่ประทับใจคือการได้ร่วมโต๊ะดินเนอร์กับ Anna Sawai นักแสดงสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ที่ทั้งน่ารัก เป็นกันเอง มีพลังของความอบอุ่นและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน การได้พูดคุยกับเธอไม่เพียงเปิดมุมมองใหม่ในเรื่องวัฒนธรรมและจุดเริ่มต้นของเธอในฐานะนักแสดงระดับโลก แต่ยังทำให้เราได้สัมผัสกับพลังของผู้หญิงเอเชียที่มีความละมุนแบบญี่ปุ่น แต่มีความมั่นใจและรักอิสระ รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกด้าน

 

 

 

Article

'กุลวิทย์ เลาสุขศรี' Editor in Chief
VAN CLEEF & ARPELS
Glasgow, Scotland

     Van Cleef & Arpels เลือกเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เพื่อเปิดตัวคอลเล็กชั่นเครื่องประดับไลน์ใหม่รูปทรงดอกไม้ที่เปี่ยมด้วยความหมายพร้อมดีไซน์สุดประณีตตามแบบฉบับของเมซง คอลเล็กชั่นนี้มีแรงบันดาลใจเป็นดอกไม้นานาพรรณ สถานที่จัดแสดงคือ Dumfries House คฤหาสน์ที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในเขตนี้ด้วยพื้นที่ 2,000 เอเคอร์ มีปราสาทและกลุ่มบ้านย่อยๆ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 กระจายตัวสลับกับสวนสวย เรือนกระจก และกำแพงหินที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการตกแต่งอย่างมีรสนิยม

 

Beyond Heritage
ชื่อคอลเล็กชั่น Van Cleef & Arpels Rose Garden มาจากชื่อดอกไม้ที่แบรนด์เห็นคุณค่าและให้ความสำคัญจึงมีการอนุรักษ์ความหลากหลายของดอกไม้ชนิดนี้อย่างจริงจังโดยได้รับเงินสนับสนุนจาก Dumfries House ภายใต้การดูแลของ King’s Foundation ในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 (พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดสวนนี้ด้วย) สะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแบรนด์กับราชวงศ์วินด์เซอร์ผู้เป็นทั้งลูกค้าและแรงบันดาลใจในการสร้างชิ้นงานโดยมีดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์สำคัญ

 

Favourite Pieces
ประทับใจนาฬิกา Fleurs d’Hawaï Secret Watches มากที่สุด ด้วยความลงตัวของสีเหลืองของซิทรินกับประกายของทองคำ ความงามของหน้าปัดเปลือกหอยมุกและเพชร คิดว่าคนชอบจิวเวลรีน่าจะถูกใจเพราะสามารถพลิกแพลงดัดแปลงวิธีการใส่ได้หลายแบบ จะใส่เป็นนาฬิกาข้อมือ จี้ห้อยคอ หรือเข็มกลัดก็ได้หมด อีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่ประทับใจคือ Flower Lace ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเข็มกลัดทองคำในยุค 1930 นำมาปรับดีไซน์ใหม่โดยลดขนาดลง เส้นโค้งของทองคำและเกสรเพชรร้อยเรียงกันอย่างซับซ้อนในลักษณะบิดริบบิ้นหรือลูกโป่งบิดจนเป็นโครงดอกไม้

 

Charms of Gems
ส่วนตัวหลงใหลในอัญมณีอยู่แล้ว การได้เห็นอัญมณีในคอลเล็กชั่นนี้จึงรู้สึกประทับใจ เช่น ชิ้นที่ชื่อ Fleurs d’Hawaï นำเสนออัญมณีเนื้ออ่อนหลากสีสันอย่างโรโดไลต์ ซิทริน แอเมทิสต์ เพริดอต และอะความารีน บนแหวน จี้ ตุ้มหู และนาฬิกา พร้อมตัวเรือนที่น้ำหนักเบาและโค้งเว้าไปตามกลีบดอกไม้เพิ่มความประณีตให้กับชิ้นงานและเปิดให้แสงส่องผ่านอัญมณีสีหวานมากขึ้น

 

Personal Impression
กำแพงจัดแสดงชิ้นงานวินเทจของแวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ ดอกพีโอนี ดอกคามีลเลีย และดอกยาสูบ รวมถึง Rose de Noël ฉบับวินเทจจากวัสดุหลากหลาย ตั้งแต่ปะการังไปจนถึงไม้แกะสลัก บ่งบอกถึงความหลงใหลในดอกไม้ของเมซง ถัดไปไม่ไกลคอลเล็กชั่น Fleurs d’Hawaï และ Flower Lace ก็จัดแสดงอยู่ด้วยกันโดยไม่แบ่งแยก เหมือนสวนสไตล์อังกฤษที่รวมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ นานาสีสันไว้ด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นการนำเสนอแบบนี้จากเมซงที่มีความเป็นฝรั่งเศสสูง

 

Grand Souvenir
ชอบความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเมซง ตั้งแต่การ์ดเชิญ เอกสาร ฉากหลัง และกระดาษห่อของขวัญที่มีเส้นสายหลากสีของ Alexandre Benjamin Navet ศิลปินมัลติมีเดียและนักวาดภาพประกอบชาวปารีเซียงที่มาเพิ่มความสดใสและพลังการมองโลกในแง่บวกได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

 

Article

'ฐาดิณี รัชชระเสวี' Managing Editor
BVLGARI
Taormina Sicily, Italy

 

     บุลการีจัดแสดงคอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูง Polychroma ที่เมือง Taormina บนเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี นอกจากชิ้นงานตระการตากว่า 250 ชิ้นที่สร้างความตื่นตาแล้ว ยังได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ครบถ้วน เป็นอีกหนึ่งทริปที่ลืมไม่ลง


Location

สถานที่จัดงานสวยงามและนำเสนอเรื่องราวของเมซงได้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศสบายๆ เห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกว้างสุดลูกหูลูกตา สีของน้ำทะเล ภูเขา ดอกไม้ รวมถึงสีสันของศิลปะบนเกาะซิซิลี ถ่ายทอดที่มาของสีสันอัญมณีในคอลเล็กชั่นได้อย่างชัดเจน Taormina เป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับไฮเอนด์ ล้อมรอบไปด้วยคนพื้นเมือง คนอิตาลีมีความเป็นกันเอง เอะอะ สนุกสนาน มีพลังบวก ทั้งยังมีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเฉพาะการเล่นลายและสี การที่เมซงพาไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ บนเกาะก่อนไปชมโชว์ถือเป็นการปูเรื่องที่ดีทำให้ทริปนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ


Sicily Artist

ในปีนี้แบรนด์เปิดประสบการณ์ใหม่ให้สื่อมวลชนและลูกค้าโดยพาไปแกลเลอรีเพื่อชมการแสดงงานของศิลปินคนดังแห่งซิซิลีคือ Alessandro Florio ที่เต็มไปด้วยสีสันและจิตวิญญาณความดิบเถื่อน ขณะเดียวกันก็มีความทันสมัยและสนุกกับการเล่นกับลวดลายกราฟิก ซึ่งทางเมซงนำผลงานของเขามาประกอบรวมกับชิ้นงานได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ยังพาไปชมบ้านของศิลปินพื้นเมืองซิซิลีที่เต็มไปด้วยงานวาดและงานฝีมือตั้งแต่อดีต ทำให้เห็นรากเหง้าที่มาของศิลปะบนเกาะได้อย่างชัดเจน

 

Italian Tables

อาหารบนเกาะเป็นอาหารอิตาลี มีความหลากหลาย รสชาติแตกต่างจากที่โรมและเวนิส เน้นอาหารทะเล ผัก และผลไม้สด บรรยากาศในการรับประทานอาหารที่นี่ค่อนข้างสนุกและผ่อนคลาย ตั้งแต่ร้านอาหารระหว่างทางเดินขึ้นเขาในย่านท่องเที่ยวจนถึงร้านหรูแบบไฟน์ไดนิ่งระดับห้าดาว

 

Mix of Jewelleries Pieces

ชอบที่การมาชมเครื่องประดับชั้นสูงในครั้งนี้ไม่ได้เห็นแค่เครื่องประดับหรือนาฬิกา ยังมีกระเป๋าประดับอัญมณีที่ออกแบบโดย Mary Katrantzou ไปจนถึงน้ำหอมที่ดูอลังการ หรูหรา ตั้งแต่ขวดจนถึงกลิ่น เรียกได้ว่าเมซงทำถึงแบบครบเครื่องจริงๆ

 

Women Empowering

บุลการีเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่มีคนดังมาร่วมงานเยอะมาก การได้พบ Global Brand Ambassador หลายๆ คนที่มานำเสนอเครื่องประดับในมุมมองที่แตกต่างทำให้รู้สึกว่าเข้าใจเครื่องประดับชั้นสูงง่ายขึ้น ขณะเดียวกันการเห็นผู้หญิงเก่งหลายๆ คนที่มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันแต่ทรงพลังเหมือนกันยังทำให้ได้แรงบันดาลใจกลับมาเต็มเปี่ยม

 

 

 

Article

 'นาทนาม ไวยหงษ์' Senior Digital Fashion Writer and Watch Expert
OMEGA
Kyoto, Japan


     เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับแบรนด์แฟชั่น จิวเวลรี และนาฬิการะดับแถวหน้าของโลก และ Omega ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เนรมิตบรรยากาศการเปิดตัวนาฬิกาโฉมใหม่ที่เมืองนี้ได้อย่างน่าประทับใจ อิงศิลปวัฒนธรรมเข้ากับคอนเซปต์ My Little Secret ความลึกลับที่ชวนให้ค้นหาและความตื่นเต้นที่น่าติดตาม

 

The City

เมืองเกียวโตเป็นเมืองที่เงียบสงบแต่มีเอกลักษณ์ นั่นก็คือความเป็นระเบียบเรียบร้อย วัฒนธรรมเก่าแก่ดั้งเดิม สถาปัตยกรรม และองค์ประกอบของเมือง


The Event

โอเมก้าเลือกวัด Shogunzuka Seiryuden เป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวนาฬิกาสำหรับผู้หญิง 'Aqua Terra' ขนาดหน้าปัด 30 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ล่าสุด บรรยากาศของวัดสะท้อนวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมครบถ้วนทุกองค์ประกอบ ภาพวิวทิวทัศน์บนเนินเขาก่อนแสงอาทิตย์จะลาไปช่วยเสริมบรรยากาศอันน่าประทับใจให้งานเป็นอย่างยิ่ง


The Pieces

'Aqua Terra' หน้าปัด 30 มิลลิเมตรคือนางเอกของทริป ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งขนาดหน้าปัด รูปทรง สีสันและวัสดุหลากหลายตอบโจทย์รสนิยมครบถ้วน นอกจากความสวยงามภายนอกแล้ว ภายในยังขับเคลื่อนด้วยกลไก Omega Co-Axial Master Chronometer Calibre 8750 และ 8751 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำ มีให้เลือกทั้งสเตนเลสสตีลและ 18k Sedna Gold กับ 18k Moonshine Gold วัสดุทองคำสุดพิเศษซึ่งเป็นไฮไลต์ของรุ่น


The Ambassadors

นอกจากบรรยากาศของเมืองเกียวโตแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของงานในครั้งนี้ก็คือเหล่าแบรนด์แอมแบสซาเดอร์หญิงทั้งห้าคนจากแวดวงต่างๆ ได้แก่ Ashley Graham, Danielle Marsh, Tems, Ariana DeBose และ Marisa Abela ตอกย้ำภาพความยิ่งใหญ่และการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงดังที่โอเมก้ามุ่งมั่นที่จะผลักดันผู้หญิงและนาฬิกาสำหรับผู้หญิงให้มีบทบาทในเวทีสากลเสมอมา


The Star from Thailand

งานนี้ 'ออม-กรณ์นภัส' แขกคนสำคัญจากประเทศไทยเป็นดาวเด่นและถูกจับตามองตลอดทริป ออมเป็นตัวแทนของผู้หญิงรุ่นใหม่มากความสามารถเข้ากับคอนเซปต์การเปิดตัวนาฬิกาโฉมใหม่ 'Aqua Terra' หน้าปัด 30 มิลลิเมตร นับเป็นอีกครั้งที่ได้เห็นรัศมีความเฉิดฉายของออมที่ส่งสารออกมาว่าเธอพร้อมแล้วที่จะก้าวไปสู่ระดับสากล

 

 

 

Article

'กุลวิทย์ เลาสุขศรี' Editor in Chief
LOUIS VUITTON
Mallorca, Spain


     งานเปิดตัวเครื่องประดับชั้นสูง Virtuosity ของ Louis Vuitton จำนวน 110 ชิ้นที่เฉียบคมทั้งมิติของดีไซน์ กรรมวิธีการสร้างสรรค์ และอัญมณีที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลก หลุยส์ วิตตองพาแขกเดินทางสู่เกาะมาจอร์กาสถานที่ตากอากาศระดับไฮเอนด์ของสเปนเพื่อร่วมชมคอลเล็กชั่นในปีนี้


My Favourite Piece

'The Eternal Sun' สร้อยคอดีไซน์เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยพลังแห่งอนาคต โครงเกลียวทองคำโอบรอบลำคอ คั่นด้วยสร้อยเพชรแฟนซีสีเหลือง 27 เม็ดที่สามารถถอดแยกได้ เพชรสีเหลืองเม็ดเดียวก็ว่าหายากแล้ว นี่ต้องใช้เพชรสีเหลืองที่ขนาดและคุณภาพใกล้เคียงกันด้วย! ปิดท้ายด้วยเพชรทรงกลมสีเหลือง 14 กะรัตเปล่งประกายอย่างสง่างามสมชื่อพระอาทิตย์ที่ไม่มีวันอับแสง


Crafts & Innovation

'LV Monogram Star' รูปทรงเพชรที่ประกอบด้วยเหลี่ยมเจียระไน 53 มุมพร้อมปลายแหลมทรงดาว ความยากของการทำเพชรรูปทรงนี้ก็คือการตัดเข้าไปในเนื้อเพชร เพราะธรรมชาติของเพชรจะต้องเจียระไนเป็นมุมจากด้านนอกจนได้ทรงที่น่าพอใจ แต่ที่หลุยส์ วิตตองด้วยจินตนาการและเทคโนโลยีชั้นยอดจึงสามารถผลักดันให้เกิดนวัตกรรมการเจียระไนรูปทรงใหม่สำหรับเครื่องประดับชั้นสูง

 

Dear Darling

ญาญ่า อุรัสยากับหลุยส์ วิตตองนั้นมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นอย่างที่หลายคนทราบดี รอบนี้ความสดใสของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่วยส่งให้นางเอกสาวในชุดสีม่วงหรูหราแต่ดูผ่อนคลายมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ดึงดูดสายตาของแขกในงานไม่แพ้สร้อยคอแซปไฟร์หลากสีที่เธอสวมเลย

 

Super Sharp

ด้วยรากฐานที่เป็นแบรนด์เครื่องหนังและแฟชั่น มุมมองการทำแฟชั่นโชว์ของหลุยส์ วิตตองจึงไม่เหมือนแบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงแบรนด์อื่น นางแบบหน้าเฉี่ยว เสื้อผ้าเย้ายวน จังหวะการเดินที่สั้น แข็งแรง กระฉับกระเฉง และเสียงดนตรีจากวงออร์เคสตร้าทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงของ Louis Vuitton High Jewellery นั้นมั่นใจไม่เคอะเขินแม้แต่น้อยเมื่อต้องสวมเครื่องประดับชิ้นใหญ่ตระการ ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย


Destination Selected

ปราสาท Castell de Bellver สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 มีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร ด้วยรูปทรงกำแพงปราสาทที่เป็นทรงกลมขนาดใหญ่ หลังคาเปิดโล่งเห็นท้องฟ้า เหมาะแล้วที่แบรนด์จะสร้างเวทีไว้กลางลานโล่ง แล้วใช้ระเบียงโดยรอบปราสาททั้งสองชั้นเป็นรันเวย์โชว์เครื่องประดับแห่งอนาคต

 

 

(สามารถอ่านเรื่อง Editor's Journey บรรณาธิการโว้กทั้ง 6 มาแบ่งปันประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ ได้ที่นี่)