7 จังหวัดภาคกลางมีอะไรน่าเที่ยวใครยังไม่รู้ตามโว้กไปดูกัน!

นอนดูดาวสัมผัสความหนาวและกินข้าวแช่ที่เชียงใหม่ก็เคย ดำน้ำดูปะการังกินอาหารทะเลที่ภูเก็ตก็ทำมาแล้ว หรือแม้แต่จะดูการละเล่นผีตาโขนพร้อมจกข้าวเหนียวส้มตำก็เคยแล้วอีก ไปมาเกือบครบทุกภาคแล้ว แล้วภาคกลางของประเทศไทยเราล่ะ เคยหรือยัง? วันนี้โว้กประเทศไทยขออาสาเป็นไกด์พาเที่ยวภาคกลางของเมืองไทยที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามไป ทั้งที่ความจริงแล้วภาคกลางเองก็สวยและมีเอกลักษณ์ไม่ต่างจากภาคไหนๆ เลยด้วยซ้ำ ใครยังไม่เคยไปและไม่เคยรู้ว่าภาคกลางเรามีอะไรเด่นนอกจากหาดพัทยา และไก่เหลืองที่บางแสนแล้วล่ะก็ตามกันมาด่วนๆ มาดูกันว่าภาคกลางเรามีอะไรดี ที่ไหนน่าเที่ยว อะไรน่ากิน และมุมไหนน่าแชะภาพไปลงเฟสบุ๊คและไอจีกันบ้าง

เริ่มจังหวัดแรกกันที่ “สมุทรสงคราม” เบิกฤกษ์ลุยเที่ยวที่จังหวัดนี้ด้วยตลาดน้ำอัมพวากันเป็นที่แรกกับร้านอาหารเด็ดมากมาย ช้อปปิ้งของฝากและของตกแต่งหลากหลายรูปแบบพร้อมชมสถาปัตยกรรมบ้านเก่าตามริมสองข้างถนน ต่อกันที่อีกหนึ่งตลาดขึ้นชื่อไม่แพ้กันกับตลาดร่มหุบบนทางรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม เลือกซื้อของสดจากเกษตรกรพื้นบ้าน และอย่าลืมแต่งตัวชิคๆ ไปโพสท่าเก๋ๆ กลางรางรถไฟพร้อมแชะภาพลงโซเชียลมิเดียเสียหน่อย แต่หากใครอยากชิคกว่าเดิมเราแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายรูปอย่างนาเกลืออันขึ้นชื่อของจังหวัด แวะทานมื้อเที่ยงด้วยขนมจีนซาวน้ำหรือหอยหลอดผัดฉ่ากันก่อน และแน่นอนว่ามาถึงดินแดนของปลาทูทั้งทีจะไม่ซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือลองลิ้มชิมรสก็ฟังดูเหมือนจะมาไม่ถึง และอย่าลืมแวะซื้อเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ลวดลายงดงามวิจิตรศิลป์กลับไปด้วยล่ะ

เบนเข็มกันมาที่จังหวัด “ราชบุรี” กันบ้างของดีจังหวัดนี้ไม่ใช่แค่โอ่งหรือตลาดน้ำดำเนินสะดวกเพียงเท่านั้น หากเมืองเก่าเมืองแก่นี้โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว เพราะงั้นสามารถชื่นชมพิพิธภัณฑ์รวบรวมหนังใหญ่อันเป็นมรดกแห่งวัฒนธรรมของคนไทย ที่เป็นการแสดงชั้นสูงโดยรวบรวมเอาศิลปะหลากหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ต่อกันด้วยอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรีที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตของจังหวัดไว้ให้คนรุ่นหลัง หากเพลิดเพลินกับสถานที่ประวัติศาสตร์เชิงความรู้ไปแล้วลองแวะสถานที่สำหรับเด็กยุคใหม่อย่าง CAT Town กับสตรีทอาร์ทสุดเท่ที่เต็มไปด้วยลวดลายกราฟฟิตี้สีสันสดใส หรือจะเลือกไปยืนเก๋ๆ ตรงถนนข้างหอศิลป์ร่วมสมัยเถ้าฮงไถ่ ชิมก๋วยเตี๋ยวไข่ยางมะตูมฉ่ำๆ ก่อนขับรถกลับบ้านอย่าลืมเลือกซื้อเค้กโอ่งมังกรขึ้นชื่อเป็นของฝาก

เอกลักษณ์ของจังหวัด “สุพรรณบุรี” ไม่ได้มีแค่ขนมสาลี่ที่ใครหลายต่อหลายคนชอบซื้อกลับบ้านติดไม้ติดมือกลับไปเท่านั้น หากจังหวัดนี้บอกเล่าเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ผ่านวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ใครสายไหว้พระทำบุญเหมาะควรอย่างยิ่งกับจังหวัดนี้เริ่มด้วยวัดเขาใหญ่ วัดป่าเลไลยก์ และวัดแคสะท้อนอารยะที่ยังหลงเหลืออยู่ในสถานที่เหล่านี้ แดดร่มลมตกเข้าหน่อยเปลี่ยนสถานที่ไปเดินเล่นที่ตลาดสามชุกหาของอร่อยกินพร้อมชื่นชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของบ้านเรือนต่างๆ หากยังไม่จุใจกับบ้านเรือนเก่าที่สามชุก เรามีย่านชุมชนริมคลองแม่น้ำท่าจีนเรียงรายอีกหลายหลังให้ได้ชื่นชมกัน ก่อนเลี้ยวรถกลับแวะซื้อปลาม้าแดดเดียวของขึ้นชื่อและขนมสาลี่ติดมือกลับไปด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่ถึงถิ่นสุพรรณ

ด้วยชัยชนะจากการกรำศึกมาหลายครั้ง จังหวัดต่อไปจึงถูกเรียกว่า “ชัยนาท” จังหวัดนี้ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของภาคกลางเลยก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยพืชพรรณและสมุนไพรนานาชนิด แน่นอนว่าจังหวัดนี้เป็นเมืองแห่งสมรภูมิรบย่อมต้องมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลงเหลืออยู่ด้วยพระปรางค์กลีบมะเฟือง วัดพระมหาธาตุหรือวัดหัวเมืองกับพระพุทธรูปศิลปะแบบลพบุรีและอยุธยาตอนต้น หลังจากเดินเที่ยวสายบุญแล้ว เปลี่ยนไปเป็นสายกินพร้อมเดินเล่นที่ตลาดสรรพยาชมวิถีชีวิตและอุดหนุนสินค้าท้องถิ่น หรือหากใครอยากเลือกทานมื้อใหญ่ก็จัดเต็มกับยำส้มโอที่เสิร์ฟคู่กับใบชะพลู มะพร้าวคั่วและกุ้งแห้ง และหากใครยังไม่รู้จักของดีเมืองชัยนาทเราแนะนำขนมเปี๊ยะกุยหลี หรือขนมหน้างาไส้ถั่วไข่เค็มรสชาตินุ่มลิ้น หอมและมัน

“ลพบุรี” หากเป็นที่รู้จักแค่เมืองลิงคุณคิดผิด เพราะจังหวัดลพบุรีมีดีมากกว่าแค่นั้น เราขอเริ่มต้นทริปด้วยอาหารการกินก่อนด้วยแกงคั่วเห็ดเผาะปลากราย พร้อมเดินเล่นที่ตลาดเช้าถนนฝรั่งเศสกินเล่นของจุบจิบและชมวิถีชีวิตชาวเมือง ก่อนเข้าชมพระปรางศ์สามยอดและเทวสถานปรางศ์แขก หรือจะเลือกชมความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมในพระนารายณ์ราชนิเวศ นอกจากนี้ลพบุรียังเป็นที่ซ่อนตัวของผ้ามัดหมี่ชั้นดีที่ทอลายพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยพวน เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกซื้อผ้าสักผืนเก็บไว้ไปตัดสักชุดสองชุด ในขณะเดียวกันเมืองนี้ยังมีการท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ได้ลองอีกด้วย โดยมีความโดดเด่นที่อาชาบำบัด เพื่อช่วยให้เหล่าเด็กๆ ได้ฝึกสมาธิบนหลังม้า ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าสนใจเลยทีเดียว

อีกหนึ่งสายบุญคนชอบไหว้พระเราแนะนำจังหวัด “สิงห์บุรี” กับวัดชื่อดังที่ทุกคนเคยได้ยินอย่างวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร ชื่นชมความสวยงามของพระพุทธศาสนาอย่างพระแก้วที่เป็นพระหล่อนั่งขัดสมาธิเพชรที่ประดิษฐานภายในวัด เดินเล่นในวัดต่อเพื่อชื่นชมความยิ่งใหญ่อันเป็นที่เคารพบูชาของคนเมืองอย่างพระพุทรูปไสยาสน์ ปางโปรดอสุรินทราหู และพระเจดีย์หน้าวิหารอันเรืองรองและส่องแสงด้วยทองคำเปลว สงบจิตสงบใจพร้อมอิ่มบุญแล้วก็ไปอิ่มท้องกันต่อด้วยกุ้งแม่น้ำเผาตัวโตเนื้อแน่นไข่เยิ้ม คล่องคอด้วยน้ำต้มยำรสแซ่บอย่างปลาช่อนแม่ลาต้มยำ ก่อนกลับบ้านให้แวะเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ลำน้ำแม่ลาสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนที่นี้ พร้อมติดมือของฝากกินเล่นอย่างขนมเปี๊ยะเป็นอันจบทริปจังหวัดสิงห์บุรี

จังหวัดสุดท้ายในภาคกลางที่โว้กนำมาเสนอได้แก่จังหวัด “อ่างทอง” เราเริ่มมื้อเช้ากันด้วยผัดไทยกุ้งสดกับเส้นจันทร์เหนียวนุ่มรสกลมกล่อม หรือใครชอบเมนูข้าวแนะนำเป็นปูหลนรสชาติเข้มข้นทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และผักสด มีแรงจากมื้อเช้าแล้วไปตะลุยเที่ยวกันต่อด้วยวัดบ้านพรานที่งดงามด้วยการประดับผนังด้านนอกเป็นกระเบื้องเซรามิกลวดลายไทยสีฟ้า สวยขนาดนี้อย่าลืมเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกพร้อมเดินต่อชมวิหารทรงเก๋งจีนโบราณเหมือนเรือสำเภา ก่อนเลี้ยวรถกันไปที่วัดม่วง เพื่อชื่นชมบารมีและความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างพระพุทธมหานวมิทร์ศากยมุนีวิเศษชัยชาญ ปิดท้ายกันด้วยพระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทองทรงแปดเหลี่ยมเป็นศิลปะแบบศรีลังกาที่ทองนวลอร่ามตา และแน่นอนว่าเที่ยวต่างจังหวัดแบบนี้จะไม่มีของฝากกลับไปให้คนที่บ้านก็คงจะไม่ได้ เพราะงั้นจัดเลยกับขนมเกสรลำเจียก ขนมพื้นบ้านของจังหวัดอ่างทอง