แนะนำแนวทางจัดกระเป๋าเดินป่าสำหรับมือใหม่หัดลุย
รวมของจำเป็นที่ควรจัดใส่กระเป๋าเมื่อไปเดินป่า
การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่เราจะได้ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติและได้ผ่อนคลาย โดยสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวก่อนเดินทางคือการจัดกระเป๋าให้เหมาะสม มีอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นครบถ้วน เพื่อให้การเดินป่าเป็นไปอย่างปลอดภัยและสนุกสนาน ซึ่งจะต้องเตรียมอะไรและใช้เทคนิคใดบ้าง โว้กก็นำมาบอกต่อกับขั้นตอนในการจัดกระเป๋าเดินป่าที่มือใหม่หัดลุยควรรู้
1. เลือกกระเป๋าเป้ที่เหมาะสม
ขนาดและประเภทของกระเป๋าเป้ที่เลือกจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความยากของการเดินทาง โดย สำหรับการเดินทางแบบวันเดียวหรือแบบค้างคืน กระเป๋าเป้ที่จุขนาด 20-30 ลิตรถือว่าเพียงพอแล้ว แต่สำหรับการเดินทางหลายวัน กระเป๋าเป้ขนาด 40-60 ลิตรจะเหมาะสมยิ่งกว่า นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าเป้มีสายสะพายไหล่และสายคาดเอวที่ปรับได้เพื่อความสบายและความทะมัดทะแมง
2. จัดเตรียมสิ่งของจำเป็น
สิ่งของจำเป็นที่ควรจัดใส่กระเป๋าเมื่อไปเดินป่าจะประกอบไปด้วยสิ่งของเพื่อการอยู่รอด การนำทาง ความปลอดภัย และการดูแลตนเองขั้นพื้นฐาน ได้แก่
- น้ำ: น้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อคนต่อวัน
- อาหาร: อาหารที่มีพลังงานสูง เช่น บาร์เพิ่มพลังงาน ถั่ว และผลไม้แห้ง
- ชุดปฐมพยาบาล: รวมถึงผ้าพันแผล ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด
- ไฟฉาย: พร้อมแบตเตอรี่สำรอง
- แผนที่และเข็มทิศ: หรืออุปกรณ์ GPS
- มีด: สำหรับตัดเชือกหรือเตรียมอาหาร
- เสื้อผ้า: เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีและกันน้ำได้ในกรณีที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
- รองเท้าเดินป่า: รองเท้าที่รองรับข้อเท้าและกันน้ำได้
- อุปกรณ์กันฝน: เช่น เสื้อกันฝนหรือผ้าคลุมกันฝน
- ของใช้ส่วนตัว: เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และกระดาษชำระ
WATCH
3. เทคนิคการจัดกระเป๋า
เมื่อมีของจำเป็นครบถ้วนแล้ว ให้จัดกระเป๋าโดยแยกตามประเภทต่อไปนี้
- ของหนัก: วางของหนัก เช่น น้ำและอาหาร ไว้ใกล้กับหลัง
- ของที่ใช้บ่อย: วางของที่อาจต้องใช้บ่อย เช่น ไฟฉายและแผนที่ ไว้ที่ด้านบนของกระเป๋า
- ของที่ไม่จำเป็น: วางของที่ไม่จำเป็นต้องใช้บ่อย เช่น เสื้อผ้าสำรอง ไว้ที่ด้านล่างสุดของกระเป๋า
- ของเปียก: แยกของเปียก เช่น เสื้อผ้าที่เปียกเหงื่อ ไว้ในถุงกันน้ำ
- ของมีค่า: เก็บของมีค่า เช่น เงินและเอกสารสำคัญ ไว้ในกระเป๋าคาดเอวหรือกระเป๋าซ่อน
4. ลองปรับกระเป๋าเป้และฝึกเดิน
เมื่อจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว ให้ลองปรับกระเป๋าเป้ให้พอดีกับร่างกาย โดยปรับสายสะพายไหล่และสายคาดเอวให้กระชับ แต่ไม่แน่นจนเกินไป รวมถึงให้ฝึกเดินด้วย ทั้งหมดก็เพื่อตรวจเช็กความคล่องตัว และอื่นๆ เช่น
- ความสบาย: การปรับกระเป๋าให้พอดีกับร่างกายช่วยลดความเมื่อยล้าและอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแบกของหนักเป็นเวลานาน
- การกระจายน้ำหนัก: การปรับสายสะพายไหล่และสายคาดเอวอย่างเหมาะสมจะช่วยกระจายน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดที่หลังและไหล่
- การทรงตัว: การปรับกระเป๋าให้กระชับกับหลังจะช่วยให้คุณทรงตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินบนพื้นที่ไม่เรียบหรือลาดชัน
- การเข้าถึงสิ่งของ: การปรับกระเป๋าให้เข้าถึงสิ่งของที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น เช่น น้ำและของว่าง จะช่วยให้สะดวกต่อการหยิบใช้งาน ไม่ต้องรื้อกระเป๋าไปทั้งใบ
- การป้องกันการเสียดสี: การปรับกระเป๋าให้กระชับจะช่วยลดการเสียดสีระหว่างกระเป๋ากับร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันการระคายเคือง
5. เคล็ดลับเพิ่มเติม
ควรนำของให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อลดน้ำหนักไม่ให้มากจนอาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าเมื่อต้องเดินเป็นเวลานาน รวมถึงยังแนะนำให้ใช้ถุงกันน้ำเพื่อปกป้องของมีค่าจากความเปียกชื้น อีกอย่างที่สำคัญคือควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางและเตรียมพร้อมสำหรับทุกสภาวะ สุดท้ายอย่าลืมที่จะแจ้งแผนการเดินทางให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวทราบก่อนด้วย
WATCH