เก็บให้ครบก่อนโอลิมปิกครั้งหน้า… ลิสต์ 10 จุดน่าเช็คอินก่อนบินไปเชียร์ #Olympics2024

การอยู่บ้านต่อเนื่องยาวนานอาจจะทำให้คิดถึงบรรยากาศความตื่นเต้นของการแพ็คกระเป๋าเพื่อออกเดินทางไปท่องโลก หลายคนก็อาจจะมีจุดหมายปลายทางในฝันที่อยากจะเดินทางไปให้ได้หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดบรรเทาลง แต่ถ้าคุณอยากจะเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังไม่มีแผนที่จะไปไหน ‘ปารีส’ ก็เป็นอีกหมุดหมายที่มีทั้งวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่น่าสนใจให้ได้ท่องเที่ยวเรียนรู้ อีกทั้งในปี 2024 ปารีสยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก กีฬามวลชนโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และนี่คือ 10 จุดแลนด์มาร์กของกรุงปารีสที่ต้องไปเยือนก่อนปี 2024

บรรยากาศสวยงามของหอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งปารีส / ภาพ: Architectural Digest

หอไอเฟล

จะเป็นที่ไหนไปเสียได้ เมื่อนึกถึงปารีส…แน่นอนว่าจุดแลนด์มาร์กสำคัญก็ต้องเป็นหอไอเฟลอย่างแน่นอน หอไอเฟลตั้งอยู่บนช็องเดมาร์ ใกล้กับแม่น้ำแซน โดยสถาปัตยกรรมนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าโลกในปี 1889 เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ด้านสถาปัตยกรรม วิทยาการ และเทคโนโลยีของฝรั่งเศส ปัจจุบันหอไอเฟลมีผู้มาเยี่ยมชมทั่วโลกเฉลี่ยปีละกว่า 6,000,000 คน

ถนนช็องเซลีเซ ถนนที่ได้ชื่อว่าสวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก / ภาพ: Worls travel trips

ถนนช็องเซลีเซ

ถัดจากหอไอเฟลไม่ไกลนัก คุณจะได้พบกับหนึ่งในถนนที่ได้รับการขนานนามว่าสวยที่สุดในโลก และยังเป็นถนนที่มีอัตราการเช่าพื้นที่แพงที่สุดในยุโรป ถนนช็องเซลีเซเป็นย่านศูนย์รวมของร้านกาแฟ โรงละครเก่าแก่ และร้านค้าซูเปอร์แบรนด์ต่างๆ ก็ถูกรวมเอาไว้ที่นี่ จึงไม่แปลกใจที่ไม่ว่านักช้อปจากมุมไหนของโลก เมื่อได้มาที่ปารีสจะต้องมาแวะเดินเก็บบรรยากาศความหรูหราบนถนนเส้นนี้ (และอาจได้ไอเท็มเด็ดของแบรนด์ดังติดไม้ติดมือไปบ้าง)

สวนสไตล์ฝรั่งเศสบริเวณหน้าพระราชวังแวร์ซาย / ภาพ: CN Traveler

พระราชวังแวร์ซาย

พระราชวังนี้ได้รับการยกย่องว่าวิจิตรตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทำด้วยหินอ่อนสีขาวเกือบทุกส่วน ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมาย และห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ห้องกระจก สถานที่ซึ่งใช้ลงนามสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตร และจักรวรรดิเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปัจจุบันภายในพระราชวังแห่งนี้เปิดให้เข้าชมความงดงามทั้งสถาปัตยกรรม ภาพวาดกว่า 6,000 ภาพ และรูปแกะสลักอีกกว่า 15,000 ชิ้น

ปิรามิดแก้วสัญลักษณ์หน้าบริเวณพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ / ภาพ: paris-black-cars

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

ปิรามิดแก้วที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงปารีส ณ จุดนั้นคือที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะลูฟวร์ที่เปิดให้บริการมาเกินกว่า 200 ปี จึงนับได้ว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทั้งใหญ่ สวยงาม และเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยตัวอาคารดัดแปลงมาจากพระราชวังหลวงเก่า ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะจากทั่วโลกกว่า 35,000 ชิ้น และชิ้นที่เป็นไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือภาพเขียนโมนาลิซ่า ผลงานเอกของจิตรกรชื่อก้องโลกเลโอนาโด ดาวินชี

บรรยากาศยามค่ำคืนด้านข้างมหาวิหารน็อทร์-ดาม / ภาพ: Cultural Heritage Online

มหาวิหารน็อทร์-ดาม

ที่นี่เป็นอาสนวิหารประจำอัครประมุขมณฑลปารีส เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1163 แล้วเสร็จในปี 1345 และอยู่ยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน โดยรูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบกอธิก นอกเหนือจากความเก่าแก่ของมหาวิหารแห่งนี้ การประดับประดาบริเวณหน้าต่างด้วยเทคนิคกระจกสียังถึงเป็นจุดสำคัญที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชมที่นี่ หากแต่ปัจจุบันมหาวิหารน็อทร์ – ดามอยู่ในระหว่างบูรณะเนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อปี 2019

เซตติ้งแฟชั่นโชว์ชาเนลที่จัดอยู่ในก็องปาแล / ภาพ: Courtesy of Chanel

กร็องปาเลส์

หากเป็นผู้ที่ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่นอาจจะพอคุ้นเคยชื่อกร็องปาเลส์มาพอสมควร เพราะสถานที่นี้เป็นโลเคชั่นหลักที่แฟชั่นเฮาส์ชาเนลมักจะเลือกใช้เป็นสถานที่จัดแฟชั่นโชว์ แต่นอกเหนือจากความผูกพันกับวงการแฟชั่น ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสทั้งเป็นสถานที่จัดนิทรรศการโลก เคยผ่านการใช้งานเป็นโรงพยาบาลทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และยังเคยถูกยึดครองโดยเยอรมนีเพื่อใช้จัดนิทรรศการโฆษณาชวนเชื่อของนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย

สองสัญลักษณ์แห่งฝรั่งเศสในเฟรมเดียวกัน บอกเล่าความรุ่งเรืองของประเทศได้เป็นอย่างดี / ภาพ: CN Traveler

ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส

อนุสรณ์สถานสำคัญที่ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการสดุดีแก่วีรชนที่ร่วมออกรบเพื่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุสงครามนโปเลียน โดยประตูชัยแห่งนี้ถูกประดับตกแต่งด้วยรูปแกะสลัก และรูปสลักนูนต่ำที่อ่อนช้อยสวยงาม นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้สามารถขึ้นลิฟต์ไปที่บริเวณยอดของส่วนโค้งประตูชัย ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่งในปารีส

ฟงแตง เดอ ลา คองคอร์ด น้ำพุที่ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสคองคอร์ด / ภาพ: Unjourdeplusaparis

จัตุรัสคองคอร์ด

จัตุรัสที่เป็นจุดสำคัญของการปฏิวัติฝรั่งเศส เพราะที่นี่เป็นลานประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเน็ตด้วยเครื่องประหารกิโยติน และที่นี่ยังเป็นจุดการเกิดสงครามกลางเมืองด้วย แต่ในปัจจุบันภาพของจัตุรัสคองคอร์ดเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิคที่สวยงาม มีเสาโอเบลิสก์ที่เป็นสัญลักษณ์ทางพันธมิตรระหว่างฝรั่งเศส และอียิปต์ตั้งตระหง่าน และยังมีน้ำพุฟงแตน เดอ ลา คองคอร์ด ฉากปิดเรื่อง The Devil Wears Prada ที่แอนเดรียเลือกที่จะเชิ่ดใส่ราชินีน้ำแข็งอย่างมิแรนด้า และกลับไปใช้ชีวิตในแบบของเธอเอง

สวนส่วนเล็กๆ ที่งดงามจากบริเวณสวนลุกซ็องบูร์อันยิ่งใหญ่ / ภาพ: Things to do

สวนลุกซ็องบูร์

ที่นี่คือสวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในปารีส รูปแบบการจัดสวนเริ่มแรกมาจากความคิดริเริ่มของพระนางมารี เดอ เมดิซี ที่ต้องการสร้างพระราชวังพร้อมกับสวน โดยต้องการสวนที่จัดตกแต่งอย่างในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นบ้านเกิดของพระนาง ปัจจุบันสวนแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 224,000 ตารางเมตร โดยเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ โรงละครหุ่นกระบอก ลานดนตรี เรือนกระจกสำหรับปลูกพืช สวนกุหลาบ สวนผลไม้ และอีกมากมายที่คุณสามารถทำกิจกรรมภายในสวนนี้ทั้งวัน

สลับบรรยากาศความแปลกใหม่กับสุสานใต้ดินใจกลางกรุงปารีส / ภาพ: Catacombes

สุสานใต้ดินคาตาคอมส์

ปรับโหมดหลอนที่จุดเช็คอินแห่งสุดท้าย สุสานใต้ดินคาตาคอมส์คืออุโมงค์ใต้ดินที่รวบรวมโครงกระดูกของมนุษย์เอาไว้กว่า 6 ล้านร่าง ถูกจัดแสดงเรียงเต็มกำแพงทั้งสองข้างทางตลอดความยาวอุโมงค์ สาเหตุที่เกิดสุสานใต้ดินเช่นนี้เนื่องจากในสมัยศตวรรษที่ 18 สุสานของทางการ และสุสานบริเวณชานเมืองปารีสไม่สามารถรับรองศพเพิ่มได้อีก อุโมงค์ใต้ดินแห่งนี้ที่ถูกใช้เป็นเหมือง และช่องขนส่งของเก่าจึงได้ถูกแปรสภาพให้เป็นสุสานเพื่อความสะดวกสำหรับจัดการศพ และเมื่อเวลาผ่านไปศพก็เต็มไปทั้งอุโมงค์ ทางการปารีสจึงได้ปิดเพื่อปรับปรุง และได้เปิดให้ทำการใหม่ในฐานะสุสานใต้ดินที่สามารถเข้าเยี่ยมชมได้

 

ปารีสไม่ใช่มีแค่เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น และความล้ำสมัยเท่านั้น หากแต่ยังมีสถานที่อันเป็นหมุดหมายของประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่สุดวิจิตร อีกทั้งยังมีสถานที่ที่ชวนสยองขวัญอยู่รวมกันอย่างลงตัวในใจเมืองหลวงเช่นนี้ นี่ก็อาจจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ทุกคนที่ไปปารีส มักจะตกหลุมรักเมืองหลวงแห่งนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น