LIFESTYLE
เปิดวิธีจัดบ้านตามสไตล์ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมจาก ‘Wes Anderson’ไขรหัสทุกปัจจัยที่จะทำให้บ้านหลังเก่าสวยงามเหมือนฉากในภาพยนตร์ของผู้กำกับชั้นครู |
เรื่อง: Radhika Seth
ใครบ้างจะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเวส แอนเดอร์สัน? ด้วยการสร้างภาพยนตร์เรื่องยาวถึง 10 เรื่อง ในช่วงเวลากว่าสองทศวรรษ ศิลปินในแวดวงภาพยนตร์ผู้นี้ได้ปั้นแต่งโลกแห่งจินตนาการที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสมมาตรและสีสันโทนพาสเทลที่ทำให้ผู้ชมหลุดลอยไปจากโลกแห่งความเป็นจริงมานักต่อนัก ไหนจะภาพยนตร์คอมเมดี้แห่งปีอย่าง The French Dispatch ซึ่งดำเนินเรื่องในเมืองๆ หนึ่ง (ที่ไม่มีอยู่จริง) ในประเทศฝรั่งเศส บอกเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มนักข่าวที่คอยติดตามเรื่องราวอันน่าแปลกประหลาด ตั้งแต่ JKL Berensen (ทิลด้า สวินตัน) รายงานเรื่องศิลปิน (เบนิซิโอ เดล โทโร่) ผู้เพ้นท์ภาพแอปสแตรกบนผนังของคุกที่เขาถูกคุมขัง ไปจนถึง Lucinda Krementz (ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์) ตามติดเรื่องราวการประท้วงของนักศึกษา นำทีมโดยนักเล่นหมากรุกมืออาชีพ (ทิโมธี ชาลาเมต์) ทั้งหมดทั้งมวลนี้ อินทีเรียของทุกฉากทุกตอนยังคงติดตาตรึงใจผู้ชมได้ตามคาด: ผนังสีเหลืองเลม่อน, วอลเปเปอร์ลวดลายต่างๆ, โซฟาสไตล์โมเดิร์นยุคกลาง, โต๊ะยุคเก่า, โทรศัพท์แบบหมุน, กล้องฟิล์ม, และพิมพ์ดีดสีลูกกวาด
หนึ่งในผู้รับผิดชอบด้านองค์ประกอบของภาพในภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้ตกแต่งฉากอย่าง Rena DeAngelo เธอเป็นที่รู้จักจากการสรรหาองค์ประกอบของฉากสไตล์ย้อนยุคที่ดูร่วมสมัยจนได้รับรางวัลเอมมี่จากซีรีส์เรื่อง Mad Men และได้รับการเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Bridge of Spies “สำหรับ The French Dispatch เราตั้งใจจะจัดฉากให้มีกลิ่นอายของช่วงหลังสงครามในกรุงปารีส” เธอเล่าให้โว้กฟัง และอธิบายเพิ่มเติมว่าฉากที่ว่านี้จะต้องดูเหมือนสถานที่ที่มีผู้อยู่อาศัยมาก่อนและผ่านยุคผ่านสมัยมาพอสมควร “แม้จะไม่ใช่ภาพของปารีสที่สุดแสนจะโรแมนติกอย่างที่เห็นตามโปสการ์ด แต่ก็เป็นภาพที่มีความสวยงามในแบบของมัน” เมื่อเธอและทีมงานเดินทางไปถึงเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส พวกเขาเริ่มหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายทำและเสาะหาเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับยุคสมัยของภาพยนตร์จากตลาดนัดขายของเก่า และเมื่อทีมงานเดินทางไปถึงย่าน Angoulême ซึ่งได้กลายมาเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขาได้พบกับโกดังที่เต็มไปด้วยของเก่า ซึ่งเจ้าของนำมาเทขายก่อนเตรียมปิดกิจการ “ฉันเจอสิ่งของหลายอย่างมากๆ และยังมีสิ่งอื่นๆ ที่สร้างจากสิ่งของที่หามาได้” เธอเสริม “ฉันภูมิใจกับผลลัพธ์ของมันมาก”
ถ้าอย่างนั้นแล้ว The French Dispatch จะสร้างแรงบันดาลใจในการแปลงโฉมห้องของคุณได้อย่างไรบ้าง? DeAngelo แชร์ทิปส์ต่างๆ รวมถึงเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของฉากอันน่าตื่นตาตื่นใจทางด้านล่างนี้แล้ว
Wally Wolodarsky, Bill Murray และ Owen Wilson ในโลกโทนซีเปียจากภาพยนตร์เรื่องThe French Dispatch / ภาพ: SEARCHLIGHT PICTURES. © 2020 TWENTIETH CENTURY FOX FILM CORPORATION
เรียนรู้จากหนังฝรั่งเศสยุค ‘50s และ ‘60s
“เวสมอบลิสต์หนังฝรั่งเศสที่เขาชื่นชอบให้พวกเราไปศึกษา” DeAngelo อธิบาย ทั้ง The 400 Blows (1959) โดย François Truffaut, The Red Balloon (1956) โดย Albert Lamorisse, รวมถึง Masculin Féminin (1966) และ Bande à part (1964) โดย Jean-Luc Godard เธอเสริมว่าแรงบันดาลใจของ Le Sans Blague คาเฟ่สีเหลืองสว่างสดใสใน The French Dispatch เกิดจากคาเฟ่ในเรื่อง Bande à part ที่ Anna Karina, Sami Frey, และ Claude Brasseur ออกสเต็ปในฉากเต้นไปพร้อมๆ กัน “ฉันชื่นชอบการตกแต่งด้วยแก้วและกระจกเป็นอย่างมาก” เราขอแนะนำให้คุณรับชมภาพยนตร์สุดคลาสสิกที่ว่ามานี้เพื่อเป็นไอเดียในการรีโนเวทห้องครัวหรือห้องรับประทานอาหารให้ดูสวยงามตามแบบฉบับชาวปารีเซียง
คัดสรรวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจ
ตั้งแต่วอลเปเปอร์ลายม้าลายในห้องนอนของ Margot Tenenbaum ไปจนถึงลายพริ้นท์สีสันสดใสในรถไฟจากภาพยนตร์เรื่อง The Darjeeling Limited แอนเดอร์สันเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่ชื่นชอบวอลเปเปอร์ลวดลายฉูดฉาดไม่เหมือนใคร ใน The French Dispatch ดีไซน์ที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดเห็นจะเป็นฉากในห้องน้ำที่ Lucinda Krementz เผชิญหน้ากับ Zeffirelli – ลวดลายโดดเด่นที่ดูใกล้เคียงกับเหลี่ยมมุมของดอกไม้ “เราค้นพบวอลเปเปอร์ลายนี้ในสถานที่ถ่ายทำ” DeAngelo กล่าว “และเรายังเจอวอลเปเปอร์ส่วนที่เหลือในตึกนี้ จากตอนที่พวกเขาติดมันบนผนังในยุค ‘60s” ในฉากอื่นๆ ทีมงานได้นำวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจจาก Hannah’s Treasures (ร้านขายวอลเปเปอร์ลวดลายเตะตาระหว่างยุค 1930s ไปจนถึง 1970s) มาใช้งาน
Hippolyte Girardot, Stephen Park, Jeffrey Wright และ Mathieu Amalric ในฉากห้องรับประทานอาหารจากภาพยนตร์เรื่อง The French Dispatch / ภาพ: SEARCHLIGHT PICTURES. © 2020 TWENTIETH CENTURY FOX FILM CORPORATION
เลือกโต๊ะที่มีช่วงขาบิดเกลียวเพียงเล็กน้อย
“ช่วงที่ฉันเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ทุกๆ ครั้งที่ฉันให้เวสดูโต๊ะที่มีขาบิดเกลียวนิดๆ หน่อยๆ เขามักจะบอกว่า ‘ฉันชอบมัน’” DeAngelo หัวเราะ “นั่นคือที่มาของโต๊ะทำงานทุกตัวในออฟฟิศของนักข่าว” แต่รายละเอียดขดเกลียวเช่นนี้ยังอยู่ในส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน รวมถึงเก้าอี้ไฟฟ้าที่ Moses Rosenthaler ผูกมัดตัวเองไว้ในระยะเวลาสั้นๆ “เวสกล่าวว่า ‘มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเรามีเก้าอี้ไฟฟ้าในรูปแบบนั้น’ ผู้ตกแต่งฉากของฉันที่เป็นช่างไม้ก็เลยสร้างมันขึ้นมา ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย”
เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีเขียว (และโคมไฟหลายๆ ตัว)
“มันมีโคมไฟสีเขียวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของ Arthur Howitzer Jr [บรรณาธิการของ The French Dispatch รับบทโดย บิลล์ เมอร์เรย์] และสีเขียวในเฉดนั้นบ่งบอกถึงความเป็นเวสโดยเฉพาะ” DeAngelo เล่าต่อ “ทุกๆ ครั้งที่ฉันพบเจอกับอะไรก็ตามในเฉดสีนั้น ฉันจะซื้อมาเก็บไว้ และฉันก็ยังซื้อโคมไฟเก๋ๆ เท่าที่สามารถจะหาได้ คุณไม่มีทางที่จะมีมากเกินไปหรอก”
WATCH
Arthur Howitzer Jr ในออฟฟิศโทนสีเลม่อนจากภาพยนตร์ The French Dispatch ที่รายล้อมไปด้วยเครื่องพิมพ์ดีด โทรศัพท์ และพัดลมย้อนยุค / ภาพ: SEARCHLIGHT PICTURES. © 2020 TWENTIETH CENTURY FOX FILM CORPORATION
ลองกลับมาใช้แผ่นโฟเมก้า (แผ่นลามิเนต) และเสื่อน้ำมันอีกสักครั้ง
วัสดุที่เคยได้รับการใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา ค่อยๆ กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่งและยังเป็นถึงวัสดุหลักของกลิ่นอายความเป็นเวส แอนเดอร์สันอีกด้วย แล้วคุณจะนำสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้ในบ้านได้อย่างไร? “คุณสามารถหาโต๊ะสไตล์วินเทจและดัดแปลงส่วนบนขึ้นมาใหม่ด้วยแผ่นโฟเมก้า (แผ่นลามิเนต)” DeAngelo แนะนำ “หลากหลายแบรนด์ออกสีสันสไตล์วินเทจช่วงยุค ’50s และ ’60s เพราะผู้คนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก”
ออกแสวงหาตลาดนัดขายของเก่าในฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
“ฉันเคยไปตลาดนัดขายของเก่าที่ Saint-Ouen และมันมีราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ” DeAngelo เล่า “เรามีงบประมาณที่จำกัด ผู้ช่วยคนหนึ่งของฉันแนะนำตลาดอื่นๆ เราเลยไปที่นั่นกันแทน พวกมันอยู่ที่ Chartres และ Le Mans ซึ่งจัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน และเราไปที่นั่นพร้อมกับคนจำนวนมากและรถบรรทุกหนึ่งคัน ฉันวิ่งไปทั่วและพูดว่า ‘อันนี้ อันนี้ อันนี้!’ มันมหัศจรรย์มาก คิดดูสิว่าฉันได้ช้อปปิ้งในตลาดขายของเก่าในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลาถึงหกเดือน จะมีอะไรดีไปกว่านั้นอีก”
ผู้เขียน: Radhika Seth
แปล: Janisara (ชนิสรา)
ข้อมูล: vogue.co.uk
WATCH