Vogue Thailand

LIFESTYLE

บอกต่อวิธีดับกลิ่นผ้าเหม็นอับที่ทำง่ายและได้ผลจริง

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย หลายคนเผชิญปัญหาผ้าเหม็นอับ มาดูวิธีแก้แบบง่ายๆ ทั้งการซัก ตาก และสูตรช่วยดับกลิ่น ที่ทำแล้วเห็นผลจริง

โดย วราภรณ์ หงส์วรางกูร
23 กันยายน 2568

     ช่วงหน้าฝนแบบนี้ หลายบ้านต้องเผชิญกับปัญหา “ผ้าเหม็นอับ” ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าที่ซักแล้วตากไม่ทันแห้ง ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วอับชื้น หรือแม้แต่ผ้าปูที่นอนเหม็นอับเพราะไม่ได้เจอแดดเลย ปัญหากลิ่นอับนี้ไม่เพียงสร้างความรำคาญใจ แต่ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้อีกด้วย

     เชื่อว่าหลายคนใช้วิธีแก้ปัญหาผ้าเหม็นอับด้วยการซักใหม่ ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเยอะๆ หรือใช้สเปรย์ฉีดผ้า แต่บางครั้งกลิ่นอับก็ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะแก้ตรงจุดไหนให้กลิ่นอับหายไป ในบทความนี้โว้กได้รวบรวมวิธีแก้ผ้าเหม็นอับที่ทำแล้วเห็นผลจริงมาบอกต่อกัน

 

Article

1. ใช้น้ำส้มสายชูช่วยซัก

     หนึ่งในวิธีแก้ผ้าเหม็นอับที่ได้ผลจริงและง่ายที่สุด คือการใช้ “น้ำส้มสายชู” เพราะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับได้ดี นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยละลายคราบสบู่หรือน้ำยาซักผ้าที่ตกค้างในเนื้อผ้า ซึ่งมักเป็นตัวการที่ทำให้ผ้ามีกลิ่นหมักหมม

วิธีใช้ : เติมน้ำส้มสายชูขาวประมาณ ครึ่งแก้วตวง (120 มล.) ลงในน้ำสุดท้ายของการซักผ้า หากใช้เครื่องซักผ้า ให้เทน้ำส้มสายชูลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มแทน แล้วซักและตากตามปกติ

Article

2. ใช้เบกกิ้งโซดา

     “เบกกิ้งโซดา” เป็นอีกหนึ่งไอเท็มสารพัดประโยชน์ที่ควรมีติดบ้าน หนึ่งในนั้นคือช่วยแก้ผ้าเหม็นอับ เพราะมีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับกลิ่นตามธรรมชาติ สามารถช่วยลดความเป็นกรด-ด่างของเนื้อผ้า ทำให้กลิ่นอับที่ฝังแน่นจากเชื้อราและแบคทีเรียจางลงอย่างเห็นผล นอกจากนี้เบกกิ้งโซดายังช่วยสลายคราบเหงื่อ คราบน้ำมัน หรือคราบสกปรกที่เกาะอยู่ในเส้นใยผ้า ซึ่งมักเป็นตัวการสะสมกลิ่นอับโดยไม่รู้ตัว

วิธีใช้ : เติมเบกกิ้งโซดาประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ลงไปในขั้นตอนซักผ้า แต่ถ้าผ้ามีกลิ่นอับมากให้แช่ผ้าในน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) ทิ้งไว้ 30 นาที ก่อนนำไปซักตามปกติ

 

Article

3. ตากผ้าในที่อากาศถ่ายเท

     สาเหตุหลักของผ้าเหม็นอับคือผ้าไม่แห้งสนิท ความชื้นจึงสะสมในเส้นใยและกลายเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ดังนั้นวันไหนที่ซักผ้าแต่ไม่มีแดดแรง ให้เลือกตากผ้าในที่ที่อากาศถ่ายเท ซึ่งจะช่วยระบายความชื้นออกจากเนื้อผ้าได้ดีกว่าการตากในห้องแคบๆ หรือพื้นที่ที่อากาศไม่หมุนเวียน

วิธีตากผ้า : ตากผ้าในที่โล่ง มีลมพัดผ่านตลอดเวลา โดยควรเลี่ยงการตากผ้าซ้อนกันเยอะๆ ควรแผ่ผ้าออกให้มากที่สุดเพื่อให้ลมผ่านได้ทั่วถึง กรณีที่จำเป็นต้องตากในร่ม ควรเปิดหน้าต่างให้มีลมเข้า และใช้พัดลมหรือเครื่องดูดความชื้นช่วยเร่งการระบายอากาศ

 

Article

4. ใช้น้ำมะนาว

     “มะนาว” ไม่เพียงเป็นวัตถุดิบคู่ครัว แต่ยังเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาผ้าเหม็นอับได้อีกด้วย เพราะในน้ำมะนาวมีกรดซิตริก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย อีกทั้งยังช่วยสลายคราบสกปรกหรือคราบเหงื่อที่สะสมในผ้า และทำให้ผ้ามีกลิ่นหมักหมม นอกจากนี้น้ำมะนาวยังทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ ด้วย

วิธีใช้ : ผสมน้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำสะอาดครึ่งลิตร แล้วนำไปเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นนำไปฉีดพรมเบาๆ บนผ้า ก่อนนำไปตากในที่อากาศถ่ายเท ผลลัพธ์คือผ้าจะไม่มีกลิ่นอับ ทว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย

 

Article

5. ใช้เครื่องอบผ้า

     การใช้ “เครื่องอบผ้า” สามารถจัดการปัญหาผ้าเหม็นอับได้ตรงจุด เพราะความร้อนจากการอบจะช่วยระเหยความชื้นที่สะสมอยู่ในเส้นใยผ้าออกไปหมดเกลี้ยง ลดโอกาสการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับได้ดี

     แม้หลายบ้านจะไม่มีเครื่องอบผ้า แต่ปัจจุบันร้านซักผ้าหยอดเหรียญส่วนใหญ่ก็มักจะมีบริการเครื่องอบผ้าให้เลือกใช้ ถือเป็นทางออกที่สะดวกสำหรับคนเมืองหรือผู้ที่พักอาศัยในคอนโดที่ตากผ้าไม่สะดวก การใช้เครื่องอบผ้าจึงกลายเป็นตัวช่วยง่ายๆ ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าผ้าจะกลับมาสะอาด แห้ง และไม่มีกลิ่นอับติดอยู่

 

     ปัญหาผ้าเหม็นอับแก้ได้ไม่ยาก เพียงเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมตั้งแต่การซัก การตาก ไปจนถึงการใช้ตัวช่วยจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือน้ำมะนาว ก็ช่วยให้ผ้ากลับมาสะอาดสดชื่นได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีแรงๆ และถ้าวันไหนอากาศไม่เป็นใจ การใช้บริการเครื่องอบผ้าที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญก็เป็นอีกหนึ่งทางออกง่ายๆ ที่ช่วยให้ผ้าแห้งสนิทไร้กลิ่นอับมากวนใจ

ภาพ : Pexels (cottonbro studio, RDNE Stock project, Ron Lach, Sarah Chai)
TAGS : How to, Tips