LIFESTYLE
เปิดคฤหาสน์สวยที่เป็นมากกว่าบ้านตากอากาศทางตอนใต้ของศรีลังกาหลังจาก Charlie และ Tweenie Wrey ขายบ้านที่วิลต์เชียร์ ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายไปอยู่ทางใต้ของศรีลังกาอย่างกะทันหัน พวกเขาสร้างบ้านสไตล์ท้องถิ่นที่ เข้ากับวิถีชีวิตอันแสนสงบเรียบง่าย |
หลังจาก Charlie และ Tweenie Wrey ขายบ้านที่วิลต์เชียร์ ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายไปอยู่ทางใต้ของศรีลังกาอย่างกะทันหัน พวกเขาสร้างบ้านสไตล์ท้องถิ่นที่เข้ากับวิถีชีวิตอันแสนสงบเรียบง่าย
ชาร์ลีและทวีนี่ เรย์ย้ายมาที่ศรีลังกาตั้งแต่ปี 2008 บ้านของทั้งคู่ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ต้นไม้แน่นขนัดและไร่ชากว้างใหญ่รวมถึงมหาสมุทรอินเดียที่อยู่ห่างออกไป ที่นี่แตกต่างจากชนบทแถบวิลต์เชียร์ในประเทศอังกฤษซึ่งสองสามีภรรยาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ด้วยกันมา เมื่อบุตรชายแยกย้ายออกไปและเพื่อนบ้านสนใจที่จะซื้อฟาร์มเฮาส์ของพวกเขา ทั้งคู่จึงตอบตกลงทันที
ชาร์ลีและทวีนี่ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากขายบ้าน พวกเขาเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งทะเลทางตอนใต้ของศรีลังกา ชาร์ลีเล่าให้ฟังว่า “หลังจากนั้นไม่นานเราก็ไปทำโรงแรม ทำให้เรามีที่พักและมีเวลาคิดไตร่ตรอง” ภายในเวลาไม่กี่เดือนทั้งคู่ก็ตกหลุมรักศรีลังกาและเริ่มมองหาที่ดิน พวกเขาตัดสินใจสร้างบ้านบนเนื้อที่ 21 ไร่ที่ Galle ที่มีทั้งไร่ชา ผืนป่ารกร้าง และอาคารเก่าทรุดโทรม 2-3 หลัง
พวกเขาสร้างบังกะโลหลังเล็กๆ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวและว่าจ้าง Sunela Jayewardene สถาปนิกชาวศรีลังกาให้ช่วยออกแบบบ้าน การสร้างบ้านหลังนี้นับเป็นการผจญภัยอย่างหนึ่งทีเดียว เพระต้องใช้เวลา 3 เดือนระเบิดหินออกเพื่อวางรากฐานตอกเสาเข็ม แม้ที่ดินผืนนี้จะมีทัศนียภาพที่งดงามแต่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องลำเลียงข้าวของทุกชิ้นขึ้นไปบนยอดเขาที่ลาดชัน ไม่ว่าจะเป็นก๊อกสำหรับห้องน้ำ เครื่องครัว หรือโคมไฟก็ตาม “เราหยุดฝันทันทีและยอมรับว่าไม่สามารถเนรมิตให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้ภายในเวลาอันสั้น” ชาร์ลีกล่าว “แต่นั่นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่”
บ้านสไตล์ท้องถิ่นซึ่งมี 6 ห้องนอนหลังนี้ใช้เวลาสร้างเสร็จภายใน 2 ปี หลังคาบ้านสูงโค้งและบริเวณนั่งเล่นกว้างขวางเปิดโล่งออกแบบมาเพื่อให้ลงตัวกับต้นกระท้อนซึ่งแผ่กิ่งก้านสูงใหญ่ทะลุผ่านหลังคา และเสาสูงตระหง่าน 2 ต้นในส่วนนี้ก็เข้ากับความสูงของต้นไม้อย่างเหมาะเจาะ “มันดูเยี่ยมมากนะ แต่ว่า...” ชาร์ลีเล่า “พอฝนตกก็สาดเข้ามาและทำให้พื้นคอนกรีตขัดเงานี่ลื่นเป็นลานสเกต” แม้จะค่อนข้างอันตรายยามฝนตก แต่ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยโซฟาหนานุ่มและผ้าพิมพ์ลายงดงามก็ดูแสนสบาย หากปิดบานเกล็ดและดึงมู่ลี่หวาย Bata Palali ที่ซ่อนอยู่ลงมาก็พอจะช่วยกันฝนได้
ทวีนี่เป็นคนตกแต่งบ้านหลังนี้และข้าวของส่วนใหญ่ก็ได้มาจากศรีลังกานั่นเอง ตั้งแต่ที่นอนไปจนถึงอ่างอาบน้ำเหล็กยุค 1930 ซึ่งเคยติดตั้งอยู่ที่โรงแรม Galle Face ที่โคลัมโบ วงกบหน้าต่างสไตล์อินเดียและวงกบประตูหลายบานได้มาจากร้านขายของเก่าและโกดังทางตอนเหนือของศรีลังกา นั่นหมายถึงต้องทำบานหน้าต่างให้พอดีกับวงกบที่ได้มา “วงกบหน้าต่างทำด้วยไม้เนื้อแข็งอย่างดี ดังนั้นมันก็จะอยู่ได้นาน” ชาร์ลีบอก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่สามีภรรยาคู่นี้มีแขกมาเยือนมากมายและพวกเขาก็ให้เช่าบ้านหลังนี้ด้วย การที่บ้านมีแผนผังที่แยบยลโดยแบ่งเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก จึงทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการอยู่ร่วมกันหลายคน บ้านนี้มีแม้กระทั่งห้องนวดและศาลาสำหรับเล่นโยคะ รายได้จากไร่ชาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบ้านและทำให้เจ้าของ “มีสวนสวยฟรีๆ” ริมถนนเส้นที่ขึ้นไปยังบ้านเต็มไปด้วยต้นสับปะรดและลีลาวดี “ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนทำสวน” ชาร์ลีบอก “ทุกสิ่งที่นี่โตเร็วอย่างน่าอัศจรรย์”
สามีภรรยาคู่นี้ใช้ชีวิตอยู่ที่ศรีลังกาอย่างมีความสุข “เป็นชีวิตที่สนุกมาก คุณต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และเมื่อทำได้คุณจะรู้สึกแปลกใจว่าในวันหนึ่งๆ คุณทำได้แค่นี้เอง” ดังนั้นการตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อย้ายมาที่นี่จึงพิสูจน์ได้ว่าประสบผลสำเร็จ “การตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ บางเรื่องบางทีเราก็ไม่ต้องคิดนาน” ชาร์ลีสรุป และจากการได้เห็นบ้านของสามีภรรยาคู่นี้แล้ว ขอย้ำว่านอกจากไม่ต้องคิดนานแล้วยังเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องด้วย
Edited by กุลวิทย์ เลาสุขศรี
ภาพ: James Fennell
เรื่อง: Emily Tobin
แปลและเรียบเรียง: วิลาสินี เดอเบส
WATCH