LIFESTYLE

เปิดบ้านควีนแอนน์ของผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารประวัติศาสตร์และการตกแต่งภายใน

อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ Edward Bulmer ปรับปรุงบ้าน Queen Anne ของเขาที่ Herefordshire โดยออกแบบผังบ้านใหม่ ต่อเติมปีกอาคารเพิ่ม และใช้สีที่น่าสนใจ ทาผนังเพื่อให้เป็นบ้านที่ดูร่วมสมัยเหมาะสำหรับครอบครัว

อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ Edward Bulmer ปรับปรุงบ้าน Queen Anne ของเขาที่ Herefordshire โดยออกแบบผังบ้านใหม่ ต่อเติมปีกอาคารเพิ่มและใช้สีที่น่าสนใจ ทาผนังเพื่อให้เป็นบ้านที่ดูร่วมสมัยเหมาะสำหรับครอบครัว

 

Edward Bulmer และบ้านควีนแอนน์ของเขาใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

เอ็ดเวิร์ด บัลเมอร์ใช้ชีวิตวัยเยาว์ในบ้านสไตล์จอร์เจียซึ่งเคยเป็นบ้านพักของบาทหลวงในแถบเฮริฟอร์ดเชียร์ที่คุณพ่อของเขาพยายามซ่อมแซมเป็นอย่างดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดจึงชอบอาคารแบบเก่า หลังเรียนจบด้านประวัติศาสตร์ศิลปะศึกษาจากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย และด้วยความสนใจงานด้านสถาปัตยกรรม เขาจึงเริ่มงานกับ David Mlinaric อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ ตามมาด้วย Gervase Jackson-Stops อดีตที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรม องค์กรอนุรักษ์แห่งชาติ และ Alec Cobbe ผู้มีชื่อเสียงด้านการจัดวางงานศิลปะในบ้านที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาจึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันเอ็ดเวิร์ดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารประวัติศาสตร์และการตกแต่งภายใน เมื่อใดก็ตามที่คฤหาสน์ใหญ่ๆ เช่น เคนวู้ด อัลทอร์ป หรือ กู๊ดวู้ดต้องการความช่วยเหลือก็จะต้องเรียกหาเขา คนอาจจะคิดว่าบ้านควีนแอนน์หลังงามของเขาและสมาชิกในครอบครัวซึ่งประกอบด้วย Emma ภรรยาและบุตรสาว 3 คนน่าจะเป็นตัวอย่างของการบูรณะอาคารประวัติศาสตร์ตามหลักวิชาการและการตกแต่งภายในสมัยศตวรรษที่ 18 แต่ผิดคาดทีเดียว บ้านหลังนี้สร้างด้วยอิฐสี โทนแดงเมื่อประมาณปี 1700

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

“เห็นได้ชัดว่าเป็นบ้านผู้ดีเก่าในอดีตและมีองค์ประกอบต่างๆ ตามความนิยมในยุคนั้น เช่น บ้านนกพิราบ ฟาร์มเกษตร และสวน (สวนน้ำและสวนที่มีกำแพงล้อมรอบ) ซึ่งอันที่จริงก็คือการมีทุกอย่างเพื่อทำให้บ้านหลังนี้มีความพอเพียงและประหยัดค่าใช้จ่ายแต่อยู่ในสเกลที่เล็กนั่นเอง” เอ็ดเวิร์ดกล่าว นอกเหนือจากตัวบ้านแล้วก็ยังมีอาคารส่วนนอกและคอกวัวหลงเหลือให้เห็น ปัจจุบันเป็นที่ ทำการบริษัท Edward Bulmer Natural Paint “ผมชอบที่บ้านหลังนี้เป็น คฤหาสน์ขนาดเล็กในชนบทแต่ดูโก้” บ้านหลังนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตอนที่ ครอบครัวบัลเมอร์ย้ายเข้ามาเมื่อปี 1994 มันอยู่ในสภาพทิ้งร้าง พวกเขาตัดสินใจออกแบบส่วนต่างๆ ของบ้านใหม่ รวมถึงปรับปรุงให้ได้สัดส่วนโดยรื้อปีกอาคารในส่วนของคนรับใช้ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 และต่อเติมขึ้นใหม่ให้หันไปทางสวนที่มีกำแพงล้อมทางทิศตะวันตก “ผมสร้างอาคารส่วนนี้เพื่อหันบ้านไปอีกทิศหนึ่งโดยให้มันโอบล้อมสวนเอาไว้ และเพื่อให้สัดส่วนสมดุลกัน เราจึงขยายโครงสร้างเดิมของตัวบ้านโดยต่อเติมโถงทางเดินออกไปยังสวน ขยายครัวด้านหนึ่งออกไป และอีกด้านหนึ่งทำเป็นห้องรับประทานอาหาร” เอ็ดเวิร์ดอธิบาย

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

“เราใส่หน้าต่างที่เคยถูกปิดทับกลับเข้าไปเพื่อให้สมดุลกับด้านหน้าของตัวบ้าน และจากหน้าต่างก็สามารถมองเห็นสวนที่มีกำแพงล้อม” ผนังบริเวณโถงทางเดินกว้างที่สร้างใหม่ทาสีเขียวอมฟ้าอ่อนๆ พื้นปูด้วยแผ่นหินสมัยศตวรรษที่ 19 เช่นเดียวกับห้องที่ใช้เก็บเสื้อโค้ต ผนังตกแต่งด้วยผ้า Pierre Frey โถงส่วนนี้เป็นทางเชื่อมปีกอาคารสมัยก่อนทั้งสองด้านของบ้านที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง จากโถงทางเดินจะเห็นห้องรับประทานอาหารใหม่ที่ต่อเติม จากเดิมที่เคยเป็นผนังด้านนอกตัวอาคารและออกจะดูเป็นทางการ ภายในตกแต่งด้วยของเก่ามากมายที่เอ็ดเวิร์ดสะสมมาตั้งแต่เริ่มเป็นนักตกแต่งภายใน ผนังห้องทาด้วยสีอมเทาและตกแต่งด้วยผ้าม่านที่ออกแบบเป็นพิเศษโดย Watts of Westminster

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

ฝั่งตรงข้ามของโถงทางเดินเป็นห้องครัวสไตล์คันทรี่ดูน่าสบายโดยมีส่วนรับประทานอาหารที่เปิดรับแสงธรรมชาติ จากด้านหน้าอาคารฝั่งตะวันออกเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอโถงกว้างซึ่งมีบันไดไม้โอ๊กงดงามสมส่วน ด้านหนึ่งของโถงเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับ ครอบครัวดูเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูน่าสบาย ผนังห้องกรุด้วยไม้โอ๊กซึ่งมีภาพผลงานของสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ประดับอยู่ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในห้องนี้เอ็ดเวิร์ดเป็นคนออกแบบ เขาบอกว่าห้องนี้น่าจะชื่อ The Bulmer

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

อีกฝั่งหนึ่งของโถงคือห้องดนตรีซึ่งเดิมทีเป็น 2 ห้อง ในการปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องเดียวอย่างกลมกลืนนั้นแทนที่เอ็ดเวิร์ดจะใช้วิธีแบบโบราณโดยสอดไม้คานล่างเข้าไปใต้เพดานซึ่งสูงไม่มากนัก เขาใช้วิธีใส่คานเหล็กเข้าไปซ่อนอยู่เหนือเพดานทำให้ห้องดูสมส่วนและต่อเนื่องกัน ส่วนพื้นผิวผนังที่แตกต่างและไม่สม่ำเสมอนั้น เขาทำให้กลมกลืนกันโดยใช้ไม้โอ๊กกรุผนังตั้งแต่พื้นไปถึงเพดาน “ตามความนิยมสมัยศตวรรษที่ 18” และทาสีเขียวอ่อน “การใช้หลักเกณฑ์ดั้งเดิมทางสถาปัตย์เกี่ยวกับความกลมกลืน อัตราส่วน สีสัน และสไตล์ที่สมดุล ทำให้ห้องดูลงตัว” เอ็ดเวิร์ดกล่าว

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

ในห้องนี้เราจะเห็นความสมดุลของสไตล์ได้จากเฟอร์นิเจอร์โซฟาที่เอ็ดเวิร์ดออกแบบ ตัวหนึ่งบุด้วยผ้าขนสัตว์สีชมพู อีกตัวบุด้วยหนังซึ่งเป็นสีชมพูเหมือนกัน และพรมสไตล์เบสซาราเบียสีสันสดใส ออกแบบใหม่โดย David Bamford ส่วนผ้าม่านสีชมพูและเขียวที่ “ดูราวกับจานผสมสีของ Robert Adam” ทำจากผ้าคลุมเตียงที่ได้มาจากชัยปุระ โต๊ะคอนโซลสีเงินและขาวสั่งทำที่อุทัยปุระ การตกแต่งบ้านด้วยข้าวของจากอินเดียไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เพราะเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ครอบครัวบัลเมอร์ให้ลูกสาวลาออกจากโรงเรียนแล้วพากันเดินทางไปเที่ยวอินเดียและศรีลังกาอยู่นาน การเดินทางครั้งนั้นมีผลต่อชีวิตของพวกเขามาก บ้านหลังนี้จึงสะท้อนแง่มุมต่างๆ ของช่วงเวลาตอนนั้นอยู่มากทีเดียว

 

บ้านควีนแอนน์ของ Edward Bulmer ใน Herefordshire / ภาพ: Lucas Allen

 

ห้องนอนอยู่ชั้นบนถัดจากบันได ห้องนอนหลักตกแต่งอย่างงดงามด้วยวอลเปเปอร์จีนสมัยศตวรรษที่ 18 ซึ่งเดิมทีใช้ตกแต่งอยู่ที่ Biddick Hall ส่วนห้องนอนสำหรับแขกมีเตียงชิปเพ็นเดล ผนังห้องบุด้วยผ้าตกแต่งผ้าม่านไหมทำจากส่าหรีรีไซเคิล การใช้สีโทนอ่อนทาผนังทุกห้องเป็นความคิดที่ดี เพราะช่วยเน้นโครงสร้างสถาปัตย์และการตกแต่งให้โดดเด่น และสีทั้งหมดก็มาจากบริษัทของเอ็ดเวิร์ดเองซึ่งผลิตสีสำหรับตกแต่งภายใน “ผมไม่ชอบซ่อมแซมให้ทุกอย่างกลับมาใกล้เคียงของเดิมเป๊ะๆ หรือรื้อถอนทุกอย่างออกหมด” เอ็ดเวิร์ดกล่าว “วิธีตกแต่งบ้านของผมคือ มันเป็นเรื่องราวชีวิตของครอบครัวเรา ดังนั้นทุกอย่างในบ้านควรสะท้อนให้เห็นมุมนั้น”

 

Edited by Kullawit Laosuksri

บรรณาธิการ: Liz Elliot

ภาพ: Lucas Allen

 

WATCH