Vogue Thailand

LIFESTYLE

เคล็ดลับแต่งออฟฟิศในบ้าน เติมบรรยากาศความเป็นมืออาชีพให้ที่อยู่อาศัย

บอกแนวทางการจัดโฮมออฟฟิศ ทั้งเรื่องการจัดสรรพื้นที่ แสง สี และดีไซน์ ให้บ้านลงตัวทั้งเป็นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงาน

โดย วราภรณ์ หงส์วรางกูร
05 พฤศจิกายน 2568

     ทุกวันนี้ “บ้าน” เป็นได้มากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ยังกลายเป็น “ที่ทำงาน” ของคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันหลายคนซื้อบ้านมาแล้วตั้งใจดัดแปลงให้เป็นโฮมออฟฟิศ เพื่อรองรับการทำธุรกิจเล็กๆ หรือการทำงานแบบ Work From Home แบบถาวร นั่นทำให้การแต่งออฟฟิศในบ้านจึงต้องคิดเผื่อทั้งความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ซึ่งการวางแผนตั้งแต่ต้นจึงสำคัญมาก ทั้งการแบ่งพื้นที่ แสง สี ไปจนถึงการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์

 

Article

1. วางแผนพื้นที่ให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น

โฮมออฟฟิศที่ดีไม่ใช่แค่การหามุมโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ แต่คือการออกแบบพื้นที่ให้รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างไม่รบกวนกัน ฉะนั้นควรคิดเรื่องการแบ่งโซนให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เช่น ใช้ห้องด้านหน้าหรือชั้นล่างเป็นโซนทำงาน เพื่อความสะดวกในการต้อนรับแขกหรือลูกค้า ขณะที่พื้นที่พักผ่อนยังคงความเป็นส่วนตัว การแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจนแบบนี้เป็นแนวทางที่สถาปนิกจาก ArchDaily ย้ำว่าช่วยสร้างสมดุลและลดความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ทำงานตลอดเวลาได้ดีที่สุด

 

Article

2. รับแสงธรรมชาติ

มีจากงานวิจัยจาก Harvard Business Review พบว่าพนักงานที่ทำงานใกล้หน้าต่างมี productivity สูงขึ้นและรู้สึกเหนื่อยน้อยลง แสงจากธรรมชาติจึงไม่ใช่แค่เรื่องบรรยากาศ แต่คือองค์ประกอบหลักของโฮมออฟฟิศที่ดี การแต่งออฟฟิศในบ้านจึงควรเลือกวางโต๊ะทำงานไว้ใกล้หน้าต่าง หรือใช้กระจกบานใหญ่เพื่อดึงแสงเข้ามาเต็มที่ หากบ้านมีข้อจำกัดด้านแสง ควรเสริมด้วยไฟ Daylight ผสม Warm White เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ทั้งสว่างและอบอุ่น

 

Article

3. จิตวิทยาเรื่องสีที่ส่งผลต่ออารมณ์ในการทำงาน

สีไม่ได้เป็นเพียงเรื่องความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์และสมาธิในการทำงานได้อีกด้วย โดยแนะนำให้เลือกใช้โทนสีฟ้าและเขียวสำหรับโฮมออฟฟิศเพราะช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิ สำหรับสายงานครีเอทีฟแนะนำให้เลือกใช้สีเหลืองและสีส้มที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ส่วนสีขาวและเอิร์ธโทนเป็นตัวเลือกเพลย์เซฟ สำหรับใครที่ต้องการภาพลักษณ์มืออาชีพ พร้อมช่วยให้ห้องดูกว้าง โปร่ง สบายตา

 

Article

4. เฟอร์นิเจอร์ที่ใส่ใจสุขภาพและการใช้งานจริง

การเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการแต่งออฟฟิศในบ้าน โดยเฉพาะเก้าอี้ทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานานๆ ซึ่งหากนั่งเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระอาจทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ เพราะฉะนั้นจุงควรลงทุนกับเก้าอี้แบบ Ergonomic ที่สามารถปรับความสูง พนักพิง และรองรับสรีระ นอกจากนี้ยังควรจัดความสูงของโต๊ะให้พอดีกับระดับข้อศอก ตั้งจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา เพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้าในระยะยาว

 

Article

5. สร้างบรรยากาศให้มีความเป็นมืออาชีพพร้อมสะท้อนอัตลักษณ์

โฮมออฟฟิศคือพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนและแบรนด์ของผู้เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะทำธุรกิจเล็กๆ หรือเป็นฟรีแลนซ์ บรรยากาศโดยรอบล้วนมีผลต่อความน่าเชื่อถือทั้งต่อพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาพบปะติดต่อ ดังนั้นจึงแนะนำว่าหากบ้านเป็นโฮมออฟฟิศ ควรให้ความสำคัญตั้งแต่ทางเข้า เช่น ประตูที่เป็นระเบียบ สะอาดเรียบร้อย และมีป้ายบริษัท ส่วนพื้นที่ภายในเองก็ควรเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจ เช่น ต้นไม้ที่เพิ่มชีวิตชีวา หรือ Vision Board ที่กระตุ้นคนทำงานให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นมืออาชีพพร้อมสะท้อนอัตลักษณ์ของเราเอง

 

 

Article

6. ออกแบบชั้นบนเป็นฟังก์ชันออฟฟิศ

สำหรับใครที่ซื้อบ้านมาเพื่อทำออฟฟิศโดยเฉพาะ สามารถวางแผนพื้นที่ชั้น 2 ให้เป็นโซนทำงานได้หลายรูปแบบ เช่น จัดเป็นห้องประชุมสำหรับพบปะลูกค้าและพาร์ตเนอร์ หรือทำเป็น Co-working space ขนาดย่อมสำหรับทีมงาน นอกจากนี้ยังอาจแบ่งพื้นที่หนึ่งห้องเป็นโซนเก็บเอกสารหรือคลังอุปกรณ์ เพื่อให้ชั้นล่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและใช้รับแขกได้เต็มที่ ทำให้บ้านกลายเป็นออฟฟิศดูมีระบบและมีมาตรฐานไม่ต่างจากอาคารสำนักงาน

 

ภาพ : Pexels (Marc Mueller, Alpha En, Kemaleddin Novruzlu, Pixabay, Pavel Danilyuk)
เคล็ดลับแต่งออฟฟิศในบ้าน เติมบรรยากาศความเป็นมืออาชีพให้ที่อยู่อาศัย