เมื่อครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน...สะท้อนภาพชีวิตของตัวเอกจากเรื่อง The Queen of Villains

     The Queen of Villains ซีรี่ส์เรื่องเยี่ยมจากวงการบันเทิงญี่ปุ่นเล่าเรื่องราวของสุดยอดตำนานในวงการมวยปล้ำด้วยความยาว 5 ตอนจบ เรื่องราวที่ถูกร้อยเรียงและเล่าขานผ่านบทสนทนา สภาพสังคม และทุกๆ องค์ประกอบไม่ได้ระบุว่าเป็นการหยิบยกเรื่องราวมาจากชีวิตจริงตั้งแต่แรก ทำให้เรื่องราวสามารถดำเนินไปได้โดยไม่มีกรอบความจริงหรือความสมเหตุสมผลขั้นรุนแรงมาขวางกั้น ถึงกระนั้นผู้สร้างกลับเลือกที่จะเล่าแบบติดกับชีวิตจริง พร้อมนำเสนอแง่มุมของความเป็นมาเป็นไปได้อย่างชัดเจนที่สุด

     เรื่องราวในเรื่องคือชีวิตของ Dump Matsumoto หรือ Kaoru Matsumoto เด็กสาวผู้ต้องการตามฝันในฐานะนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะ แต่ความพยายามนั้นกลับตกไปในหลืบซอกแห่งความผิดหวัง เฉกเช่นกับอาชีพที่มีการแข่งขันสูง คาโอรุกลายเป็นเด็กสาวที่มีไฟปลายทางส่องมาเพียงริบหรี่เท่านั้น ในวันที่เธอก้าวไม่ไปไหน สำหรับหลายคนคงมีครอบครัวเป็นที่พึ่งพิงหรือพักใจ แต่สำหรับนักมวยปล้ำฝึกหัดหญิงคนนี้มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ครอบครัวเป็นเหมือนกับดักชีวิตที่ปลดสลักรัดแทงเธออย่างต่อเนื่องทั้งทางตรงและทางอ้อม

     หากใครชมซีรี่ส์ไปตอนแรกๆ อาจคิดว่าครอบครัวตัวร้ายสาเหตุมาจากพ่อติดเหล้าคนเดียวเท่านั้น ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปจะเห็นถึงวิถีชีวิตของครอบครัวมัตสึโมโตะที่ค่อยๆ กัดกินครอบครัวไปทีละน้อย พ่ออาละวาดและใช้อำนาจอย่างสุดกู่ ประกอบกับการละเลยความรักที่ต้องมอบให้กับครอบครัว มีแต่พลังงานลบที่ส่งเข้าสู่สายใยที่กำลังเน่าเปื่อยอยู่เรื่อยไป ในขณะเดียวกันแม่ที่ดีแสนดี สนับสนุนคาโอรุมาตั้งแต่ต้น เธอใจดีและไม่ได้ตัดสินใจเพื่อรักษาความมั่นคงของครอบครัวเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเธอรักผู้เป็นสามี แต่ชายคนหนึ่งที่เธอรักจนตัดสินใจแต่งงานด้วยทำร้ายจิตใจและทำลายครอบครัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     บาดแผลภายในจิตใจของเด็กสาวที่เจอพ่อมีบ้านน้อย พ่อทำร้ายร่างกาย และกดขี่ผู้หญิงในบ้านจนถึงที่สุด นำมาสู่ความคิดที่อยากจะใช้พลังทำลายผู้ชายคนนี้ให้จบสิ้น (อยากฆ่าให้ตาย) ทว่าความต้องการของคาโอรุคือการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นและพยายามล่าฝันตามนักมวยปล้ำไอดอล จนสุดท้ายเมื่อฝันดังกล่าวไม่เป็นจริง ประกอบกับปัจจัยความโหดร้ายบนเส้นทางการแข่งขันอาชีพนักมวยปล้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเหินห่างของเพื่อนสนิท การทำงานด้วยความกดดันภายใต้ระบบอาวุโส หรือแม้กระทั่งการเอารัดเอาเปรียบและเห็นนักมวยปล้ำเป็นทรัพย์สินของค่าย วันหนึ่งคาโอรุก็ระเบิดอารมณ์และแปลงกายเป็นฝ่ายอธรรม

     ในวันนั้นเองชื่อเสียงของเธอโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นนักมวยปล้ำหญิงที่สร้างกระแสความเกลียดชังได้มหาศาล (ถือเป็นคำชมของฝ่ายอธรรม) ถึงกระนั้นครอบครัวที่ไม่สวยงามแต่พังทลาย แม้เธอจะประสบความสำเร็จออย่างมากกับบทบาทดังกล่าว แต่ด้วยช่วงยุคสมัยและการทำความเข้าใจกับบทบาทนักมวยปล้ำทำให้น้องสาวเธอเสียหนุ่มคนรัก เพราะรับไม่ได้กับพี่สาวฉายารถดัมป์ผู้เหี้ยมโหด ช่วงที่เพื่อนเธอทอประกายแสง คาโอรุก็ถูกใช้เพียงเครื่องมือจากครอบครัวเพื่อหาผลประโยชน์ด้วยการขอลายเซ็นและการถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนสนิทเท่านั้น (Crush Gals)

     ในวันที่เธอต้องแลกทุกอย่างครอบครัวที่เคยเป็นโซนปลอดภัย โดยเฉพาะกับน้องสาวและแม่ มันแปรเปลี่ยนสู่จุดแตกหักขั้นสูงสุด น้องสาวมาถากถางและเปลี่ยนตัวตนจากความผิดหวัง แม่ก็ไม่สามารถรักษาน้ำใจของลูกได้ เพราะใจหนึ่งก็ไม่ยอมตัดขาดกับพ่อที่สร้างปัญหาตลอดเวลา เวลาพูดถึงความเลวร้ายมักจะนึกถึงความโหดเหี้ยม ทว่าในมุมหนึ่งความอ่อนโยนและไม่กล้าตัดสินใจบางอย่างก็อาจสร้างปัญหาเรื้อรังได้ด้วยเช่นกัน ถึงจุดหนึ่งการที่คนทั่วญี่ปุ่นเกลียดนักมวยปล้ำดัมป์ มัตสึโมโตะเข้าเส้น เกลียดถึงขั้นมาทำลายข้าวของ เย้ยหยันถึงบ้าน มันก็ไม่ได้ทำให้ดัมป์รู้สึกรู้สาอะไรมากเกินไปอีกแล้ว

     บทสรุปเรื่องราวแม้จะจบแบบกึ่งแฮปปี้เอนดิ้ง ทว่าตลอดเส้นทางชีวิตของเจ้ารถดัมป์ผู้น่าเกรงขามกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าละเหี่ยใจกับชีวิตครอบครัว ยังไม่รวมเรื่องราวรอบตัวที่ชวนจินตนาการถึงนรกบนดินที่เข้ามากลืนกินชีวิตเธออย่างช้าๆ ผลสุดท้ายครอบครัวที่หลายคนอาจบอกว่าเป็นเซฟโซนอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นสำหรับทุกคน บางครั้งมันก็เกิดจากคนที่เลวร้ายเกินไป หรือไม่ก็อาจจะจากคนที่ใจดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นความลงตัวและสมดุลของการสร้างบรรยากาศในครอบครัวที่ดีคือสิ่งสำคัญ แม้เรื่องราวของดัมป์หรือคาโอรุจะผ่านมานั้นหลายทศวรรษ แต่บทเรียนชีวิตเหล่านี้ยังคงทำงานไปตามบริบทสังคมที่แตกต่างกันได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

ภาพ: Courtesy of Netflix