VOGUE SCOOP | สรุปรวบทุกโมเมนต์สำคัญ THAI POWER 2024 เมื่อคนไทยทลายกำแพงไปอีกขั้น!

     ปี 2024 ที่ผ่านมา หากเราได้นึกย้อนไปถึงปรากฏการณ์ THAI POWER บนเวทีระดับโลก ที่เราต่างพร่ำพูดมาอย่างต่อเนื่องช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่า THAI POWER ในปี 2024 นั้นแตกต่างออกไปจาก THAI POWER ก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด เราต่างจะได้เห็นวิถีเติบโตที่ก้าวกระโดด มากกว่าแค่เป็นเพียงแขกรับเชิญบนที่นั่งฟรอนต์โรว์ในช่วงแฟชั่นวีกของแบรนด์ดังเท่านั้น แต่ THAI POWER ที่โว้กประเทศไทยกำลังจะพูดถึงต่อจากนี้ คือภาพที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนไทยและประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในหมากมหาอำนาจบนกระดานอุตสาหกรรมลักชัวรีระดับโลกแล้วอย่างเป็นทางการ

     เมื่อเซเลบริตี้ไทยกลายเป็นโมเดลบนรันเวย์ระดับโลก

     การเดินทางไปนั่งชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ดังในช่วงแฟชั่นวีกแต่ละซีซั่นอาจไม่ใช่เทรนด์กระแสหลักอีกต่อไป เมื่อล่าสุดในปี 2024 นี้มีคนไทยถึง 3 คนได้รับเชิญจากแบรนด์แฟชั่นชื่อดังให้ขึ้นไปเดินบนรันเวย์ในฐานะนายแบบและนางแบบ เริ่มต้นตั้งแต่ ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2024 ที่มหานครเซี่ยงไฮ้ แบรนด์ Balenciaga โดยหัวเรือใหญ่อย่าง Demna ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับชาวไทย ด้วยการดึงตัว 'พีพี-กฤษฏ์' ศิลปินชาวไทยผู้ควบตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ขึ้นไปเดินบนรันเวย์ Balenciaga เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยรองเท้าแพลตฟอร์มสีดำขลับสูง 17 เซนติเมตร ท่ามกลางสายฝน พร้อมจารึกประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเชิญขึ้นไปเดินบนรันเวย์ของแบรนด์ระดับโลกได้สำเร็จ ตามมาด้วย มิว-ศุภศิษฏ์' ที่ได้รับเชิญให้ขึ้นไปเดินบนรันเวย์โชว์ BOSS คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2025 กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ในลุคเบลเซอร์ 3 กระดุมสีเทา เลเยอร์เข้ากับเสื้อเชิ้ตและกางเกงขากว้างโทนสีโมโนโครมเข้าชุดสุดโดดเด่น ก่อนจะปิดท้ายด้วย ‘ออกแบบ-ชุติมณฑน์’ จะร่วมเดินบนรันเวย์โชว์ CHANEL คอลเล็กชั่นครูสปี 2024/25 ณ ฮ่องกง ซึ่งถือเป็นการสานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของคนไทยบนเวทีแฟชั่นระดับโลกโดยสมบูรณ์

     เหล่าคนไทยบนแฟชั่นแคมเปญระดับโลกของแบรนด์ดัง

     ไม่เพียงบนรันเวย์ของโชว์ระดับโลกเท่านั้นที่เราจะได้พบเจอกับคนไทย ทว่าบนแฟชั่นแคมเปญหลักของแบรนด์ดังเราต่างก็ได้เห็นคนไทยที่ทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ได้ร่วมงานอย่างจริงจังตลอดปี 2024 ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ Burberry ที่เฉลิมฉลองแคมเปญใหม่ของกระเป๋า Rocking Horse ซึ่งถูกนำเสนอผ่านแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ชาวไทยอย่าง 'ไบร์ท-วชิรวิชญ์' เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของ Burberry กับโลกแห่งการขี่ม้า และยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของไบร์ทและแบรนด์ Burberry ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ก่อนที่ในช่วงปลายปี ไบร์ทจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับภาพยนตร์ขนาดสั้นที่ชื่อว่า  'Bright In London' ภาพยนตร์สั้นเฉลิมฉลองเสื้อคลุมตัวนอกอันเป็นเอกลักษณ์จาก Burberry ที่เรียกเสียงฮือฮาไปได้อย่างล้นหลาม นอกจากนี้ก็ยังมีนางเอกสาว 'ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก' แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ LOEWE ยังได้เปิดตัวบนแฟชั่นแคมเปญพรีคอลเล็กชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2025 ซึ่งเป็นผลงานการลั่นชัตเตอร์โดย Juergen Teller ช่างภาพชื่อดังของวงการแฟชั่น นับเป็นคนไทยและเป็นคนเอเชียนคนเดียวบนแคมเปญดังกล่าว

     คนไทยในฐานะนักแสดงระดับโลก

     นอกเหนือจากอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว คนไทยยังไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการสร้างชื่อ THAI POWER บนเวทีประกาศรางวัลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก ด้วยการแสดงอันเฉียบขาดของ 'ออกแบบ-ชุติมณฑน์' ซึ่งชนะรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 ประจำปี 2024 ได้สำเร็จ จากผลงานภาพยนตร์ 'Hunger คนหิว เกมกระหาย' จาก Netflix Thailand กับภาพยนตร์แนวดราม่าที่เลือกเอาอาชีพซูส์เชฟ ผู้อยู่เบื้องหลังจานอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวสุดเข้มข้นและส่งให้ออกแบบกลายเป็นนักแสดงหญิงแนวหน้าของเมืองไทยโดยสมบูรณ์แบบ ตอกย้ำพรสวรรค์ของนักแสดงไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

     กระแสนิยมของเหล่าเซเลบริตี้เอเชียน และการผงาดบนชาร์ตค่า EMV (มูลค่าทางสื่อ) สูงที่สุดในช่วงแฟชั่นวีก

     จริงอยู่ที่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว โลกใบนี้อาจหมุนรอบชาติตะวันตกในพื้นที่อุตสาหกรรมแฟชั่นลักชัวรี แต่เมื่อหันกลับมามอง ณ ทุกวันนี้และในอนาคต เราก็สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่าชาติเอเชียนก็นับเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญในการจูงใจให้เหล่าแบรนด์ดังในตำนานตัดสินใจลงทุน ทุกอย่างนั้นถูกสะท้อนผ่านตัวเลขของค่า EMV หรือมูลค่าทางสื่อออนไลน์ที่เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ลิสต์รายชื่อลำดับต้นของชาร์ต EMV ถูกยึดครองโดยคนเอเชียนทั้งสิ้น นั่นหมายรวมถึงเซเลบริตี้ไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงแฟชั่นวีกฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2025 ที่ค่า EMV ของแต่ละหัวเมืองแฟชั่นมีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์กแฟชั่นวีก ที่เติบโตขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแบรนด์ Tommy Hilfiger นำมาเป็นอันดับหนึ่ง และมี Jisoo แห่งวง BLACKPINK เป็นคนดังที่สร้างมูลค่าทางสื่อได้สูงสุด โดย 'โฟร์ท-ณัฐวรรธน์' เป็นคนไทยที่สร้างมูลค่าทางสื่อได้สูงที่สุด ตามมาด้วยลอนดอนแฟชั่นวีกที่เติบโตลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมี Burberry และ 'ไบร์ท-วชิรวิชญ์' เป็นแบรนด์และคนดังที่สร้างมูลค่าทางสื่อได้สูงที่สุดของเมืองนี้ ตามมาด้วย มิลานแฟชั่นวีกที่เติบโตขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าทางสื่อของแบรนด์ Prada และเหล่าสมาชิกวง ENHYPEN ที่สร้างมูลค่าทางสื่อไปได้สูงที่สุด ปิดท้ายที่ปารีสแฟชั่นวีกที่เติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ จากตัวเลขวัดผลจากแบรนด์ Dior และคนดังอย่าง Kylie Jenner โดยในหัวเมืองนี้มี 'อาโป-ณัฐวิญญ์' เป็นคนดังจากประเทศที่สร้างมูลค่าทางสื่อได้สูงที่สุด

     ปี 2024 พรมแดงเป็นของคนไทย

     ไล่เรียงจากพื้นที่แฟชั่นสู่อุตสาหกรรมบันเทิง หากจะไม่พูดถึงปรากฏการณ์บนพรมแดงก็คงจะไม่ได้ เมื่อพรมแดงของงานดังถูกจองพื้นที่โดยคนไทยไม่น้อย เริ่มกันตั้งแต่ ลุคเดบิวต์บนพรมแดงของ 'เบคกี้-รีเบคก้า' และ 'ฟรีน-สโรชา' สองนักแสดงสาวชาวไทย ที่มีโอกาสได้ลัดฟ้าไปร่วมเดินพรมแดงในช่วงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 77 ประจำปี 2024 ประเทศฝรั่งเศส ในโททัลลุคจิวเวลรีจากแบรนด์ Chopard ที่เรียกฮือฮาและแสงแฟลชจากช่างภาพพรมแดงไปได้อย่างล้นหลาม หรือจะเป็น ‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์’ กับการได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน MET Gala ประจำปี 2024 ในวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้ไปเยือนพรมแดงงานกาล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแฟชั่น ในฐานะของแบรนด์แอมบาสเดอร์แห่ง Burberry ซึ่งหลายคนต่างทราบดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกรายชื่อในงานดังกล่าวล้วนแล้วต้องถูกพิจารณาโดย Anna Wintour บรรณาธิการบริหาร Vogue US และเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกสื่อแฟชั่น นั่นจึงเป็นเหมือนการการันตีแล้วว่าไทยมีพื้นที่เป็นของตัวเองแล้วบนเวทีโลกแฟชั่น

     คนไทยในฐานะของผู้ทรงอิทธิพลที่สุดด้านแฟชั่น

     อีกขึ้นของ THAI POWER ต้องยกให้กับการติดโผผู้ทรงอิทธิพลที่สุดด้านแฟชั่นของสื่อ Business of Fashion และได้เข้าร่วมงานกาล่าประจำปี BOF 500 ซึ่งในปีนี้เป็นคิวของ ‘ไบร์ท-วชิรวิชญ์’ และ ‘ใหม่-ดาวิกา’ ที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ในฐานะของตัวแทนประเทศไทยผู้ทรงอิทธิพลที่สุดด้านแฟชั่น สร้างปรากฏการณ์เป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลมีเดีย และทั้งหมดนั้นเองคือการทลายกำแพง THAI POWER ไปอีกขึ้นบนเวทีโลก ซึ่งแตกต่างออกไปจากปีก่อน อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ THAI POWER ที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ให้ทั่วโลกได้จับตาดูกันต่อไปว่า THAI POWER จะเป็นอย่างไรต่อในปี 2025 นี้