รีวิวเดือด! นักวิจารณ์คิดอย่างไรกับภาพยนตร์เรื่อง 'Spencer' หลังฉายรอบแรกที่กรุงเวนิส

     กลายเป็นกระแสตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าฉาย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Spencer” ที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้เหล่าคอหนังด้วยการจับตัวนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง Kristen Stewart มาแปลงโฉมรับบทเป็น ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ผู้ล่วงลับ โดยฝีมือผู้กำกับชื่อดังอย่าง Pablo Larraín ที่เคยดันให้ Natalie Portman ในบท Jackie Kennedy เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาได้แล้วครั้งหนึ่ง ล่าสุดภาพยนตร์เรื่อง ‘Spencer’ ก็ได้เปิดตัวรอบปฐมฤกษ์ไปแล้วอย่างเป็นทางการ ในงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเวนิส และภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ยังได้รับเกียรติยืนปรบมือหลังฉายจบเป็นเวลานานกว่า 5 นาทีจากเหล่านักวิจารณ์ และผู้ชมที่เข้าร่วมชมในรอบนั้น พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้มหลามทันทีจากสื่อยักษ์ใหญ่มากมายที่ออกมาแข่งขันกันรีวิวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสให้คริสเต็น และตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกพูดถึงอีกครั้งบนโลกโซเชียลมีเดีย

     จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อันอื้ออึง Ben Rolph หนึ่งในสมาชิกของสมาคม BFCA ผู้ดูแลงานประกาศรางวัล Critics Choice Awards ได้กล่าวยกย่องการแสดงของคริสเต็นในบทบาทของเจ้าหญิงไดอาน่าว่า “เป็นการแสดงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และยังไม่มีใครทัดเทียมได้ในเวลานี้” อีกทั้งยังจัดให้ภาพยนตร์เรื่อง Spencer เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งปีอีกด้วย ในขณะที่เว็บไวต์บันเทิงอย่าง Collider ได้กล่าวเอาไว้ว่า “นี่คือพลังแห่งการแสดงที่ห้ามละสายตา” ลากยาวไปจนถึงเหล่านักวิจารณ์ภาพยนตร์ และบรรณาธิการข่าวจากสำนักข่าว The Daily Beast อย่าง Marlow Stern ยังได้ป่าวประกาศเอาไว้หลังจบภาพยนตร์ว่า “คริสเต็นจะกลายเป็นผู้บุกเบิกรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในออสการ์ปีหน้าอย่างแน่นอน”...

     ดูเหมือนว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ออกมานั้นจะเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ เพราะแม้แต่ The New York Times ก็ยังคงชี้ให้เป็นที่น่าสังเกตว่า “การคัดเลือกนักแสดงในครั้งนี้ถือเป็นอัจฉริยภาพอย่างหนึ่งของทีมงาน เพราะเมื่อพิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่าชีวิตที่ถูกไล่ตามโดยเหล่าปาปารัซซี่ของคริสเต็นนั้น มีความคล้ายคลึงกันกับชีวิตของไดอาน่าอย่างมาก” อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบการแสดงของคริสเต็น ระหว่างภาพยนตร์เรื่องนี้ กับภาพยนตร์เรื่อง Twilight ไว้อีกด้วยว่า "การกลับมาครั้งนี้ เธอได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของภาพยนตร์ได้แล้ว ด้วยทักษะการแสดงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างเข้มข้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา และอาจเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของเธอเลยก็ว่าได้"

     กระนั้นสิ่งที่เว็บไซต์ Insider ได้เตือนเหล่าผู้ชมเอาไว้ก็คือ เรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์เรื่อง Spencer แม้ว่าจะมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงก็ตาม แต่รายละเอียดหลายๆ อย่างก็ถูกปั้นแต่งขึ้นให้กลายเป็นเหมือนการเล่านิทานเรื่องหนึ่งเท่านั้น อย่าพยายามคาดหวังชีวประวัติที่ตรงไปตรงมา ดังที่ผู้กำกับพาโบลเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งบรรยากาศของภาพยนตร์เรื่อง Spencer นี้ก็ยังได้รับการยืนยันจากสื่อ Variety อีกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ของพาโบลที่ได้รับแรงบันดาลใจด้านจิตวิญญาณการสร้างมาจากผลงานก่อนหน้านี้อย่างเรื่อง 'Jackie' อย่างแน่นอน เพราะบรรยากาศตลอดทั้งภาพยนตร์ตลบอบอวลไปด้วยความระทึกขวัญ และเข้มข้น ซึ่งแตกต่างจากซีรีส์เรื่อง The Crown ที่ฉายผ่านสตรีมมิ่ง Netflix อย่างสิ้นเชิง อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสะท้อนภาพความร้ายกาจของราชวงศ์อังกฤษราวกับตัวละครเหล่านั้นเป็นฝ่ายอธรรมก็ไม่ปานอีกด้วย

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ส่วนมากจะเป็นไปในทางบวกเสียมาก แต่ก็ยังมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์อ้างอิงจากเว็บไซต์ BBC ที่มองว่า ความละเมียดละไมในการดำเนินเรื่องยังห่างชั้นจาก เดอะ คราวน์ ซีรีส์ตีแผ่ราชวงศ์แห่งยุคสมัยนี้อยู่มาก จึงอาจไม่เป็นที่ถูกใจเหล่าแฟนคลับซีรีส์ เดอะ คราวน์ มากนัก

     ท้ายที่สุดจากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเวนิส ครั้งที่ 78 นี้ คริสเต็นยังได้ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายถึงการสวมบทบาทเป็นตัวละครดังกล่าวว่า “การโดดมารับบทเป็นตัวละครเจ้าหญิงไดอาน่าครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกเป็นอิสระ และมีชีวิตชีวามาก ชีวิตของเธอมีพลังทะลุทะลวงอย่างน่าประหลาด ทว่าเธอก็สังเกตเห็นว่าชีวิตของไดอาน่าช่างน่าเศร้า และโดดเดี่ยว ในขณะที่ไดอาน่าพยายามสร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง และสิ่งเดียวที่ต้องการก็คือ การได้รับสิ่งเหล่านั้นกลับมา” สำหรับผู้เขียนแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจับตามองไม่น้อย แต่ก็ยังไม่อาจตัดสินได้ในทันทีว่าเป็นหนังดีหรือไม่ เพราะคงต้องให้ผู้อ่านทุกคนได้ไปพิสูจน์ด้วยตัวเองในโรงภาพยนตร์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2021 ที่จะถึงนี้