LIFESTYLE

แหกไม่ยั้ง! แฟนบ่นกันสนั่นหลังภาพยนตร์ Persuasion ถูกตีความต่างไปจากหนังสือ

ผู้กำกับออกโรงโต้ ให้โอกาสภาพยนตร์ได้ฉาย ก่อนตัดสินใจเอาจากเท่าที่เห็นในตัวอย่าง

     หลังตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Persuasion ถูกปล่อยออกมาได้ไม่นานมานี้ แทนที่แฟนๆ จะได้รู้สึกตื่นเต้นและตั้งตารอไปกับการเข้าฉายผ่านทางแพลตฟอร์ม Netflix กลับกลายเป็นว่ามีเสียงบ่นกระหึ่มสนั่นไปทั่วโซเชียลมีเดีย เหตุเพราะแฟนๆ รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์และคาแร็กเตอร์เอกของเรื่องนั้น ดูเหมือนจะถูกบิดเบือนจนไม่เหลือเค้าเดิมจากต้นฉบับ

 

ภาพ: Vogue US

     Persuasion ถูกเขียนขึ้นในช่วงใบไม้ร่วงระยะบั้นปลายชีวิตของ Jane Austen เป็นนิยายเล่มสุดท้ายที่เธอได้เขียนจนจบเล่ม เล่าเรื่องราวของสาวใหญ่ Anne Elliot วัย 27 ปี บุตรสาวของ Sir Walter Elliot ในครอบครัวมั่งคั่ง เธอเคยหมั้นหมายกับนายทหารเรือรูปงาม Frederick Wentworth กระทั่งถูกทางบ้าน “โน้มน้าว” ให้เลิกกับเขา เพราะมองเห็นถึงนิสัยที่ดูจะเสเพล ไม่มั่นคง และไม่ได้ร่ำรวย หากไม่นานต่อมาครอบครัวของเธอต้องสะดุดเข้ากับการเงินที่เกือบจะล้มละลาย และเพื่อลดปัญหาทางด้านการเงินที่ประสบอยู่ ครอบครัวของเธอจึงต้องเปิดบ้านให้เช่าเป็นการหารายได้อีกหนึ่งทาง จนอดีตคู่หมั้นคู่หมายของเธอโคจรกลับเข้ามาในชีวิตของแอนอีกครั้งในฐานะของลูกบ้านพร้อมกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ตะกอนที่นองก้นไปนานจึงถูกกวนขึ้นมา แอนต้องตัดสินใจชีวิตรักของเธออีกครั้ง ว่าเธอจะเลือกทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง หรือเลือกให้โอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง

 

ภาพ: Netflix

     นี่คือเรื่องราวในฉบับของนวนิยายโรแมนติกติดความเศร้าสร้อยปวดใจหนึบๆ ในแง่ของบทอาจจะไม่ได้บิดพลิ้วไปมากหรือกวนใจคนดูเท่าไหร่นัก หากว่าสิ่งที่ทำเอาแฟนนิยายต้องกุมขมับดันเป็นเรื่องสำคัญอย่างคาแร็กเตอร์ของตัวละคร เพราะดูเหมือนจะคนละขั้วกับทางต้นฉบับ ทั้งท่าทาง การพูด การแสดงออก ไปจนถึงสำเนียงที่ฟังดูไม่อังกฤษเท่าไหร่ หลายอย่างดูขัดหูขัดตาจนทำเอาแฟนๆ เบะปากหนีพร้อมบ่นระงมว่ารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก 

     Dakota Johnson ผู้รับบทสาวใหญ่อย่างแอนนั้นดูขี้เล่น ขี้หยอก ชอบสร้างเสียงหัวเราะ แต่ก็ดูชอบถากถาง และจิกกล้องอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าต้องการให้คนดูได้มีส่วนร่วมในชีวิตและการตัดสินใจของตัวละครของเธอ ดั่งว่า “โน้มน้าว” เราให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของแอน เธอจึงต้องหันมาพูดกับกล้องแบบชัดๆ พร้อมเล่าเรื่องราวของเธอเองผ่านน้ำเสียงเหน็บแนม ผสมความขี้เล่นชวนหัว เป็นการดำเนินเรื่องคล้ายกับที่เน็ตฟลิกซ์เคยทำกับภาพยนตร์เรื่อง Enola Holmes ที่รับบทโดย Millie Bobby Brown ที่เธอก็หันมาพูดกับผู้ชมราวกับต้องการคำปรึกษาอย่างไรอย่างนั้น เดาว่าผู้กำกับสาว Carrie Cracknell พยายามที่จะ Modernising หรือทำให้นิยายเรื่องนี้มีความร่วมสมัยกับปัจจุบันมากที่สุด แต่แทนที่จะเป็นเรื่องดีกลับกลายเป็นอะไรที่น่าโมโหสำหรับแฟนๆ เพราะมันทำให้คาแร็กเตอร์แอนในนิยายนั้นไม่มีความหมายอีกต่อไป

 



WATCH




ภาพ: Vogue US

     นั่นจึงเป็นเหตุที่แฟนจำนวนมากลุกขึ้นมาแหกตัวอย่างภาพยนตร์ทิ้งแบบไม่ยั้ง บ้างบอกว่า “ทำไมผู้กำกับพยายามที่จะบิดเบือนคาแร็กเตอร์แอนให้กลายเป็นแบบ Emma (นวนิยายขึ้นหิ้วอีกหนึ่งเรื่อง) คาแร็กเตอร์ของแอนนั้นคือความเงียบและความสม่ำเสมอ ความฉลาดและช่างคิด เป็น Introvert ผู้เรียบร้อยและสวยงาม การเปลี่ยนตัวละครให้แอนดูเป็นคนสมัยใหม่นั้นไม่เพียงแค่ดูถูกตัวละครของออสเตนเท่านั้น แต่ยังดูถูกคนดูด้วยซ้ำ มีคนแบบ “แอน” อีกมากมายบนโลกที่ควรได้มองเห็นถึงคุณค่าในสิ่งที่เธอเป็น และสิ่งที่พวกเธอนำมาสู่โลกนี้” หรือบ้างบอกว่า “แอนคือคาแร็กเตอร์ที่ควรได้รับความรักในแบบที่เธอเป็น ไม่ใช่การเปลี่ยนเธอให้เป็นสาวเฟี้ยวๆ แบบที่สังคมคิดว่านี่แหละคือภาพของสาวแกร่ง” 

     แฟนๆ ไม่พอใจที่ผู้กำกับไม่ยอมเชิดชูนิยายให้ถูกที่ถูกทาง กลายเป็นการดูถูกผลงานอันทรงเกียรติและพยายามบิดเบือนตัวละครที่มากจนเกินไป จนเหมือนแค่หยิบยืมเอาชื่อตัวละครและเส้นเรื่องบางตอนมาใช้โดยไม่เคารพให้กับต้นฉบับ และอาจกลายเป็นว่าภาพยนตร์เองก็จะไม่ได้ถ่ายทอดสิ่งสำคัญที่ควรจะพูดถึงด้วย

 

ภาพ: Netflix

     อีกหนึ่งสิ่งที่ทำเอาแฟนนิยายแทบดิ้นตาย คือถ้อยคำที่ใช้ในการแสดงที่ดูเหมือนจะถูกลดทอนการปรุงแต่งทางปัญญาลงให้โมเดิร์นเสียจนไม่เหลือความงดงามทางภาษา สิ่งที่นักอ่านชื่นชอบและชื่นชมเจน ออสเตน นั่นคือฝีมือการแต่งคำของเธอที่มากด้วยไหวพริบและความคมกริบ ถ้อยคำที่เธอใช้บ่งบอกถึงความหลักแหลมทางปัญญา ในเรื่องนี้เธอล้อเลียนถากถางเรื่องราวของผู้ดีอังกฤษชนชั้นสูงในเมืองบาธสมัยศตวรรษที่ 18 และตีแผ่สังคมคนรวยและความไม่ยั่งยืนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่วันหนึ่งอาจรุ่งโรจน์ดั่งตะวันกล้า แต่แล้วก็มีจุดพลาดพลั้งด่ำดิ่งสู่ก้นเหวด้วยความไม่เกรงกลัว ผสมไปกับบทรักหวานละมุนหูหรือบางครั้งก็อัดอั้นตันใจ 

     เหล่านี้คือเสน่ห์ของการอ่าน สิ่งที่นักอ่านนิยายแตกต่างจากนักดูภาพยนตร์ คือโลกของการคิดนอกกรอบและความช่างฝัน พวกเขาสามารถวาดภาพในหัวได้ในแบบที่แตกต่างแต่เหมือนกัน มันคือการเชื่อมตัวเองเข้ากับโลกตัวอักษร และสานต่อมันเป็นรูปร่าง เพราะถ้อยคำที่ใช้ชักจูงเราให้ไปไกลได้มากกว่าแค่ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษ

 

ภาพ: Vogue US

     แฟนๆ สะดุดเจอปมหลายอย่างเข้า จนผู้กำกับต้องออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวผ่าน The Daily Mail ว่า “ฉันเข้าใจดีเลยว่าแฟนๆ มีความรู้สึกลึกซึ้งและเชื่อมโยงต่อนิยายเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันมากที่ตัวภาพยนตร์จะต้องมีความรัก ความปรารถนาในแบบผู้ใหญ่ ความปวดใจ และความซับซ้อนในระหว่างการเดินทางของตัวละคร ซึ่งฉันพยายามปรับเทียบจุดสำคัญนั้นเข้ากับตัวภาพยนตร์และระมัดระวังมากๆ เช่นเดียวกับการหาจุดเชื่อมโยงและมอบพลังงานใหม่ให้กับมัน”

     เธอทิ้งท้ายไว้ว่า “ฉันสงสัยว่าบางทีตัวอย่างภาพยนตร์อาจสื่อออกมาไม่ยุติธรรมเท่าที่ควร ฉันเลยอยากให้แฟนๆ ได้ลองเปิดโอกาสดูภาพยนตร์กันก่อน จากนั้นเราน่าจะมีบทสนทนาที่น่าสนใจมากขึ้น ว่าจุดไหนที่เราหยิบจากนิยายมาดัดแปลงและทำให้ตัวภาพยนตร์ได้ดูโดดเด่นออกมา”

 

ภาพ: Netflix

     นับว่ายังไม่ทันได้ออกฉายอย่างจริงจังก็จะต้องมาตกม้าตายเอากันดื้อๆ เสียแล้ว อย่างไรก็ตามแฟนๆ ชาวไทยอย่าเพิ่งหันหลังลองให้โอกาส Persuasion ฉบับนี้ได้แสดงความสามารถดู เพราะมุมมองของผู้อ่านแต่ละคนเองยังได้อะไรกลับไปในแบบที่แตกต่างกัน เวอร์ชั่นภาพยนตร์เองก็อาจเป็นการเล่าจากมุมมองจากผู้กำกับที่เข้าใจและตีความไปในทางที่แตกต่างด้วยก็ได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วเปิดใจให้กว้างมาเอาใจช่วยความรักระหว่างแอนและเฟรเดอริกไปด้วยกัน เตรียมตัวรับชมกันผ่านทาง Netflix ได้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2022 

 

ข้อมูล : The Daily Mail, Indie Wire

WATCH