Money Heist: Korea จากซีรี่ส์ที่ทุกคนคาดหวังสู่ผลงานอันล้มเหลวเพราะรีบร้อนรีเมกมากเกินไป...

     ซีรี่ส์เรื่อง Money Heist หรือในชื่อฉบับดั้งเดิมว่า La Casa de Papel ถือเป็นซีรี่ส์ยอดนิยมที่ผู้คนเฝ้ารอตอนใหม่ทุกครั้ง ต้นฉบับจากประเทศสเปนคือผลงานระดับพระกาฬที่สร้างอารมณ์หลากหลายรูปแบบคลุกเคล้าจนทำเอาแฟนๆ นั่งไม่ติดเบาะ ความเข้มข้นทุกรูปแบบถูกจัดแจงมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเรื่องแนวคิดการปล้น การสะท้อนชีวิต ความรัก ฯลฯ เรียกว่านี่คือส่วนผสมที่ลงตัวที่สุด และบรรยากาศต่างๆ ก็เหมือนพาเราทุกคนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วย ความดุดันและเอาจริงเอาจังดูน่าสนใจเสมอ อีกทั้งวิธีการเล่ายังใช้เทคนิคการย้อนเวลากลับไปมาได้อย่างลงตัว ดังนั้นคงเป็นโจทย์ยากแน่ๆ ที่จะสร้างเวอร์ชั่นรีเมกออกมา เพราะความคาดหวังนั้นสูงมากจริงๆ

     เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2022 ถึงคิวเข้าฉายบนเน็ตฟลิกซ์ของ Money Heist: Korea ด้วยความคาดหวังมหาศาลจากแฟนๆ ซีรี่ส์ต้นฉบับ ประกอบกับความคาดหวังในเรื่องความล้ำลึกในแบบฉบับการสร้างซีรี่ส์ของฝั่งเกาหลี ทั้งหมดผสมผสานรวมกันจนเกิดเป็นความกดดันมหาศาล เพราะทุกคนเฝ้ารอการกลับมาของเหล่าโจรชุดแดงสวมหน้ากาก โดยมีศาสตราจารย์เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง แฟนซีรี่ส์ต่างคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าฟากเกาหลีจะนำเสนอแง่มุมอะไรให้เราได้ตื่นเต้นเทียบเท่าหรือมากกว่าต้นฉบับหรือไม่ พอถึงวันฉายจริงจากที่ตื่นเต้นสุดขีดกลายเป็นผิดหวังสุดขั้วในทันตา

     เปิดเรื่องราวมาด้วยเส้นเรื่องความสัมพันธ์ของประเทศเกาหลีทั้งเหนือและใต้ มีการเกริ่นถึงการรวมชาติในอุดมคติ และผลกระทบที่ส่งต่อมาถึงโลกปัจจุบัน(ในซีรี่ส์) โลกอุดมคติไม่ได้เป็นอย่างที่หวังและสถานการณ์ก็บีบคั้นจนคนบางกลุ่มต้องเผชิญกับความโหดร้ายในชีวิตของโลกทุนนิยม พบกับการหลอกลวงและสร้างบาดแผลในจิตใจไม่แพ้การถูกจำกัดสิทธิ์เมื่อครั้งประเทศยังแยกกันเลย ตัวละครหลักหญิงอย่าง “โตเกียว” คือผู้ดำเนินเรื่องผ่านเสียงเช่นเคย และนี่คือจุดที่ทำให้คนเริ่มเอะใจว่าความเซอร์ไพรส์ทั้งหมดที่คาดหวังอาจหายไปถนัดตา

     เล่าเรื่องอย่างรวบรัดและไม่ได้สอดแทรกอะไรให้เซอร์ไพรส์เพิ่มเลย! ความอัดอั้นตันใจของผู้ชมหลังชม 3 ตอนแรกคงมีความรู้สึกแบบนี้อยู่บ้าง เพราะถ้ายิ่งเป็นแฟนซีรี่ส์ฉบับดั้งเดิมที่เพิ่งจบไปไม่นานก็แทบจะรู้ขั้นตอนและคาแร็กเตอร์ตัวละครทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถคาดเดาเรื่องราวได้แบบไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เรียกว่านี่คือฉบับรีเมกโดยแทบไม่ปรับปรุงดัดแปลงอะไรเท่าไหร่เลย เพียงแต่เปลี่ยนบริบทจากสเปนมาที่เกาหลีเท่านั้น ผลกระทบจากการปล้นก็ยังดูไม่หนักหน่วงและชวนปวดหัวเท่ากับเวอร์ชั่นสเปนเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าบางคนดูไป 1-2 ตอนก็ปิดจอหนีกันไปแล้ว

     ทุกอย่างเป็นไปตามเดิมเป๊ะๆ ความสนุกของซีรี่ส์เรื่องนี้คือการเฉลยปมแบบคาดไม่ถึง รูปแบบที่ศาสตราจารย์ใช้แก้ปัญหาทั้งภายในกลุ่มและบริบทรอบตัวคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์ขึ้นเป็นกอง แต่สำหรับเวอร์ชั่นเกาหลี ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม แฟนซีรี่ส์ที่เฝ้ารอมาหลายเดือนว่าจะเห็นลูกเล่นอะไรใหม่ๆ การพลิกแพลงในแบบฉบับของเวอร์ชั่นนี้เองกลับต้องผิดหวัง เพราะถ้านี่ไม่ได้บอกว่าเป็นฉบับรีเมก มันก็อาจชวนขำเป็นเรียกว่าเป็นฉบับ Parody เลยก็ว่าได้ ตอนนี้ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนนี่อาจเป็นความล้มเหลวที่ทุกคนต้องแบกรับ

     อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดคือความรีบร้อน แน่นอนว่าสักวันคอซีรี่ส์หลายคนอาจอยากกลับมาชมกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยควรให้เวลามันได้อิ่มตัวเป็นหลักหลายปีเสียก่อน สัก 5 ปีขึ้นไปก็ยังพอถูไถ แต่สำหรับเวอร์ชั่นเกาหลีมาแบบติดๆ ในชนิดที่ทุกคนยังจดจำเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ดูเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็เรียกว่าเดาตอนจบได้แล้ว นั่นยิ่งโขลกให้ซีรี่ส์เกาหลีโดนจวกยับเข้าไปอีก ตอนนี้คงต้องติดตามดูไปว่าผู้สร้างจะแบกรับความล้มเหลวตรงนี้และเดินหน้าสร้างภาคต่อดั่งเช่นแบบฉบับของสเปนหรือไม่ แล้วถ้าจะต่อยอดจริงๆ จะพลิกเกมจากการรีเมกชนิดลอกมาทุกเขบ็ตมาเป็นแนวทางการเดินเรื่องแบบใหม่หรือไม่ ทั้งๆ ที่ทรัพยากรเรื่องราวเบื้องหลังอย่างความขัดแย้งเรื่องชาติพันธุ์ของเกาหลีนั้นมีประเด็นให้เลือกใช้ในซีรี่ส์มากมายเป็นกอง หากคิดดูจริงๆ อาจจะมากกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับที่ค่อยๆ ปั้นเรื่องราวจากจุดเล็กๆ ด้วยซ้ำ แต่ที่แน่ๆ ซีรี่ส์ Money Heist: Korea ทำเอาทุกคนผิดหวังอย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ