LIFESTYLE
เปิดโลกชาของ 'กิตติชาติ แสงมณี' คนไทยผู้สานต่อแบรนด์ชาระดับตำนาน Mariage Frères จนโด่งดังไปทั่วโลกคุณกิตติชาติกลายเป็นผู้ดูแลกิจการต่อของ Mariage Frères แบรนด์ชาในตำนานของฝรั่งเศส |
คุณกิตติชาติ แสงมณี ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารโว้กอิตาลี ปี 2014
สำหรับผมแล้ว “ชาเป็นหนึ่งในวิถีของชีวิตที่สร้างวัฒนธรรมและเต็มเปี่ยมไปด้วยรสนิยม” นี่คือคำกล่าวของ คุณกิตติชาติ แสงมณี ประธานบริษัทและเจ้าของแบรนด์ชาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Mariage Frères (มาคิยาจ แฟรส์) ให้สัมภาษณ์ไว้กับนิตยสารโว้กอิตาลี ในปี 2014 ที่ผ่านมา
ตราสัญลักษณ์ของ Mariage Frères Tea Company ในปี คศ. 1854
หนึ่งในชาที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของโลกอย่างชา Mariage Frères (มาคิยาจ แฟรส์) ก่อตั้งในปี 1660 โดยนิโกลาส์ มาคิยาจ พ่อค้าที่ออกเดินทางสู่เปอร์เซียและเสาะแสวงหาชา เครื่องเทศ และสินค้าอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และบริษัท เฟรนช์ อีสต์ อินเดีย (Compagnie des Indes) นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของชาระดับโลกจนถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และในที่สุดจึงได้ก่อตั้ง Mariage Frères Tea Company ในปี คศ. 1854 เพื่อสืบทอดกิจการชาต่อกันมาเป็นธุรกิจของตระกูล และในปัจจุบันก็อยู่ภายใต้การดูแลและบริหารของคนไทยที่มีความหลงใหลในศิลปะของใบชาอย่าง "กิตติชาติ แสงมณี"
คุณกิตติชาติ แสงมณี ประธานบริษัทและเจ้าของแบรนด์ชาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Mariage Frères
“ผมคิดไม่ถึงเหมือนกัน มันคงเป็นความบังเอิญและโชคชะตาที่กำหนดมาแล้ว ผมเคยมุ่งหวังเพื่อสร้างความฝันของตัวเองคือการเป็นนักการฑูต เรียนจบมาคิดว่าจะมาต่อที่นี่(ฝรั่งเศส) อีกสัก 3-4 ปีแล้วคงกลับไทย แต่สุดท้ายปัจจุบันผมก็ยังคงอยู่ที่นี่” เขาเอ่ยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
ในตอนนั้นช่วงที่คุณกิตติชาติกำลังทำธีสิสระดับปริญญาเอกใกล้จะสำเร็จ ก็ได้มีโอกาสเจอกับครอบครัวตระกูลมาคิยาจจากการแนะนำของเพื่อน จึงเดินทางเพื่อไปพบทายาทคนสุดท้ายของตระกูลมาคิยาจ ในขณะนั้นธุรกิจในตระกูลยังขายชาเพียงอย่างเดียว ไม่มีหน้าร้านหรือทีซาลอนเฉกเช่นปัจจุบัน อีกทั้งทางมาคิยาจก็ต้องการผู้ดูแลกิจการต่อ เพราะครอบครัวไม่ได้สนใจจะทำธุรกิจเกี่ยวกับชาอีกต่อไป และวันนั้นเองก็ทำให้เขาได้ค้นพบโลกของชาที่แท้จริง
WATCH
แต่เดิม ชามาคิยาจ แฟรส์ มีเพียง 250 สูตร แต่ในปัจจุบันมีสูตรชามากถึง 650 สูตร ซึ่งล้วนมาจากการคิดค้นและสร้างสรรค์ของคุณกิตติชาติ
“เพื่อนผมเขาสนใจเกี่ยวกับชา และเขารู้จักกับครอบครัวนี้ เลยชวนไปพบด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นมาคิยาจขายชาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำเป็นร้านเหมือนตอนนี้ จำได้ว่าผมเดินเข้าในไปโรงเก็บของ ได้กลิ่นชาหอมอบอวลจนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ในภวังค์ และในวันนั้นผมก็พบกับทายาทคนสุดท้ายของครอบครัวมาคิยาจ อาจจะสัมผัสได้ถึงความคิดบางอย่างที่คล้ายกัน มารู้สึกตัวอีกที มาคิยาจ แฟรส์ โฉมใหม่ก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และปัจจุบันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว”
ชาเขียวผสมกลีบกุหลาบ Thailand Thé des Offrandes อันเกิดจากแรงบันดาลใจของสยามประเทศ และอักษรคำว่า “ชา” บนบรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงรูปแบบการจัดวางร้านค้าที่คุณกิตติชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
คุณกิตติชาติได้เข้าไปเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาจากทายาทคนสุดท้ายวัย 80 ปีของตระกูลมาคิยาจ ทั้งการทำความรู้จักชาแต่ละชนิด เทคนิคการชง ไปจนถึงการจิบชา ล้วนสร้างความหลงใหลให้เขาอย่างที่สุด จากนั้นไม่นานเขาจึงเริ่มทำแบรนด์ดิ้ง ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงรูปแบบการจัดวางร้านค้า จนในที่สุดก็ได้เปิดตัว มาคิยาจ แฟรส์ สาขาแรก ณ ย่านมาเร่ส์ (Marais) ในปี 1986 คุณกิตติชาติเล่าว่า มาคิยาจ แฟรส์ประสบความสำเร็จอย่างมากในวันนั้น สื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลกต่างให้ความสนใจ และชาก็ตรงกับรสนิยมของคนฝรั่งเศสมาก อีกทั้งเรายังทำเป็นลักษณะของ ที ซาลอน จึงทำให้กลายเป็นสถานที่นัดพบ หรือคอมมูนิตี้ของคนฝรั่งเศสในตอนนั้นด้วย
มาคิยาจ แฟรส์ สาขาแรก ณ ย่านมาเร่ส์ (Marais) เปิดอย่างเป็นทางการในปี 1986
มาคิยาจ แฟรส์ สาขาแรกนี้จะมีโซน ที ซาลอน สำหรับนั่งจิบชาและเสิร์ฟขนมจนกลายเป็นสถานที่นัดพบหรือคอมมูนิตี้ของคนฝรั่งเศส และแบรนด์ได้ขยาย ที ซาลอน ลักษณะนี้ในสาขาอื่นๆ ที่ฝรั่งเศส และญี่ปุ่นอีกด้วย
หลังจากเปิดร้านแรกในปี 1986 มาคิยาจ ได้พัฒนาสูตรชาแต่เดิมที่มีเพียง 250 สูตร จนปัจจุบันมีชาถึง 650 สูตร ซึ่งล้วนมาจากคุณกิตติชาติเป็นผู้คิดค้นและสร้างสรรค์ขึ้นทั้งสิ้น อีกทั้งในแง่ของการขายและวางจำหน่าย มาคิยาจ แฟรส์มีสาขาในปารีส 6 สาขา และในญี่ปุ่น 5 สาขา คุณกิตติชาติเล่าว่า "เนื่องจากเป็นประเทศที่สนใจเรื่องการชงชาและมีวัฒนธรรมทางด้านนี้ เราจึงภูมิใจมากที่คนญี่ปุ่นยอมรับและให้ความสนใจ มาคิยาจ แฟรส์ มาตลอด 20 ปี และเรายังได้ขยายสาขาไปที่ประเทศอื่นอีก อันได้แก่ เยอรมนี 2 สาขา และล่าสุดก็ได้เปิดสาขาแรกที่ประเทศอังกฤษซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม"
สาขาแรกในประเทศอังกฤษ ณ LONDRES Covent Garden
คุณกิตติชาติเผยกับโว้กอิตาลีว่า “ผมไม่ต้องการที่จะให้ มาคิยาจ แฟรส์ เป็นเสมือนแฟรนไชส์ร้านกาแฟดังของโลกที่ทุกคนจะต้องรู้จักและพูดถึง แต่เจตจำนงหลักของผมคือต้องการรักษาวัฒนธรรมและศาสตร์ของชาให้ยังคงอยู่ และมาคิยาจ แฟรส์จะเป็นหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้น”
"จากประสบการณ์เกือบ 30 ปีของผม ชาเป็นเสมือนเพื่อนคนหนึ่งในชีวิตผม ผมได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่ผมรักและทำทุกวันให้มีความสุขที่สุด ธุรกิจนี้มีคุณค่าทางจิตใจต่อผมมาก และในวันนี้ผมได้พบกับความสุขของชีวิตที่แท้จริงแล้วครับ"
ที่มา
coventgarden.london/
obonparis.com/obonparis.com/
vogue.it
mariagefreres.com
WATCH