LIFESTYLE
AI ร้ายเพราะคนใช้ เจาะประเด็น Jenna Ortega กับประสบการณ์บนโลกโซเชียลที่ไม่อภิรมย์บาดแผลในจิตใจของคนๆ หนึ่งอาจเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดของความก้าวหน้า แต่เกิดจากคนบางกลุ่มที่ใช้มันด้วยสามัญสำนึกอันล้าหลัง |
ภัยร้ายจาก AI คือสิ่งที่มนุษย์เกรงกลัวในยุค 2024 และต่อไปในอนาคต หลายคนมองว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมแห่งความก้าวหน้าและทันสมัย ทว่าก็ระแวงผลกระทบที่จะตามมาจากวิธีการใช้เทคโนโลยีของคนในสังคมด้วยเช่นกัน เพราะ AI เป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกใช้ ไม่ใช่ความล้ำสมัยฉบับคิดเองทำเองจนเกิดเป็นผลผลิตในด้านต่างๆ ดังนั้นเรื่องราวดำมืดและประสบการณ์อันย่ำแย่ล้วนเกิดจากคนในสังคมด้วยกัน ซึ่งนำมาสู่บทสัมภาษณ์ของ Jenna Ortega ที่เคยบอกลาโลกโซเชียลเพราะประสบกับเหตุการณ์อันน่าอึดอัด
นักแสดงสาวคนนี้ย้อนเล่าเรื่องราวถึงช่วงวัยรุ่นขณะกำลังท่องโลกออนไลน์ ซึ่งเธอได้เห็นการตกแต่งละดัดแปลงรูปตัวเองด้วย AI โดยนักแสดงหญิงคนนี้ระบุว่าเกลียด AI และกล่าวว่าการเห็นภาพตัวเองถูกดัดแปลงในขณะยังเป็นเด็กมันช่างน่ากลัว ผิดศีลธรรม และน่าขยะแขยงอย่างยิ่ง แน่นอนว่าการดัดแปลงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ AI สร้างผลลัพธ์ด้วยตัวเอง แต่เกิดจากการที่ใครบางคนมีเป้าหมายและใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อความสำเร็จในการเข้าถึงเป้าหมายนั้น ทว่าเป้าหมายดังกล่าวเป็นด้านลบ และสร้างผลเสียต่อสภาพจิตใจ รวมถึงความปลอดภัยของผู้ถูกกระทำให้กลายเป็นวัตถุอีกด้วย
อีกหนึ่งเหตุผลของเจนนาที่ทำให้เธอหลีกหนีจากโซเชียลมีเดียคือประสบการณ์อันเลวร้ายในช่วงอายุ 12 ปี ขณะนั้นเธอเปิดกล่องข้อความและต้องพบกับภาพลามกอนาจาร เธอจึงตัดสินใจปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย และมันทำให้เธอมีภาพจำกับโลกโซเชียลที่ไม่น่าหวนนึกถึง ความโหดร้ายของการกระทำเหล่านี้อาจสร้างบาดแผลในจิตใจของเจนนา และกับทุกคนที่ได้รับประสบการณ์ในแบบเดียวกัน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นดั่งสารตั้งต้นของการกระทำที่หนักข้อขึ้น และอาจสร้างความเลวร้ายให้กับสังคมและปัจเจกบุคคลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต้องบอกว่ามันเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งและดัดแปลงภาพหรือวิดีโอของใครสักคนหนึ่ง มันสามารถถึงขั้นสร้างโป๊เปลือยจำลอง การร่วมเพศ หรือแม้แต่การโชว์อวัยวะลับ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความตั้งใจของผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองตัณหาของตัวเอง เมื่อภาพเหล่านี้แพร่ออกไป ผลเสียก็ตกอยู่กับคนในภาพ บางครั้งมันอาจจะวิเคราะห์ได้ว่าเป็นภาพจากเทคโนโลยี แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งมันก็สร้างความเสมือนจริงจนทำให้เกิดความสับสนในการแยกแยะ และยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า ยิ่งสร้างความเสมือนจริงมากขึ้นเพียงใด ผู้ใช้เครื่องมือในทางลบก็พร้อมหยิบมันมาสร้างสรรค์ในสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ได้อย่างแน่นอน
คำถามสำคัญตอนนี้คือการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าการควบคุมมันเป็นอันตรายหรือไม่ วิธีการสร้างผลผลิตจาก AI มีทั้งด้านบวกและลบ ทว่าสิ่งที่น่ากังวลคือเราจะควบคุมด้านลบได้อย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้คนมากมายต้องเผชิญกับประสบการณ์อันไม่น่าอภิรมย์ ดั่งที่เจนนาต้องเผชิญกับภาพของลับที่เธอไม่ต้องการเห็นมันก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพียงภาพถ่ายปกติทั่วไปยังสร้างความสะเทือนใจได้ขนาดนี้ ในวันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำสู่การสร้างภาพปลอม วิดีโอปลอม หรือแม้แต่การดัดแปลงสิ่งที่มีอยู่ให้บิดเบี้ยวจนเกินไป ความน่ากลัวจึงหมายถึงความตั้งใจของมนุษย์อันนำมาสู่ความโหดเหี้ยมในการทำร้ายผู้อื่นอย่างล้ำหน้ามากขึ้น
การขัดเกลาทางสังคมและการตีกรอบปิดกั้นบางอย่างอาจเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เรามิอาจควบคุมปัจเจกบุคคลได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทว่าการสร้างระเบียบการจัดการในเชิงป้องกันและปราบปรามด้วยแนวทางของสังคม รวมถึงบทลงโทษอาจเป็นทางออก อีกทั้งยังหมายถึงการจำกัดการใช้เทคโนโลยีหรือควบคุมในสิ่งที่อาจเป็นภัย ตอนนี้เหมือนเทคโนโลยีก้าวล้ำไปยิ่งกว่าคนในสังคมจะตามทัน ลองคิดดูว่าวันหนึ่งเราจะสร้างภาพของใครในอิริยาบถแบบใดก็ได้นั้นอาจฟังดูสวยงามเชิงมายาคติ ในความจริงสิ่งสวยงามเกิดขึ้นเหมือนกับสถานะที่เสมอตัว ในทางกลับกันหากมันเกิดเป็นสิ่งย่ำแย่ มันพร้อมทำลายชีวิตของคนๆ หนึ่งได้อย่างหนักหน่วง คำถามสำคัญคือหากเรามีเทคโนโลยีก้าวหน้าขนาดนี้ แต่ไม่สามารถควบคุมผู้ใช้งานได้ เราจะทำอย่างไรไม่ให้เครื่องมืออันล้ำสมัยเป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้อื่นแบบหนักหนาสาหัสขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน
WATCH