film
LIFESTYLE

คุยกับ 'ฟิล์ม-ธนภัทร' ที่ไม่เพียงบทบาทการแสดงจะท้าทายขึ้น แต่เขาก็เติบโตทางความคิดขึ้นอย่างชัดเจน

"ถ่ายละครติดต่อกัน 3 สัปดาห์โดยไม่มีวันหยุด รู้สึกว่าโคตรเหนื่อยเลย ไม่อยากไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดพอมองย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ที่ดูทีวีแล้วฝันอยากเป็นนักแสดง ทำให้มีแรงฮึด" ฟิล์มกล่าว

     ปีนี้เราจะได้เห็นผลงานของ 'ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ' แบบแน่นๆ โดยเฉพาะละครเรื่อง คุณชาย ที่ไม่เพียงบทบาทการแสดงจะท้าทายขึ้น แต่เราจะได้เห็นการเติบโตทางความคิดของผู้ชายคนนี้อย่างชัดเจนด้วย

film

Vogue: เข้าสู่ปีที่ 6 ในฐานะนักแสดง มุมมองต่ออาชีพนี้เปลี่ยนจากวันแรกไหม

Film: มีทั้งเปลี่ยนและเหมือนเดิมครับ ผมมีความสุขที่ได้ทำอาชีพนี้ แต่อยากทำโดยไม่มีปัจจัยเรื่องรายได้เข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นหมายความว่าผมต้องมีรายได้หลักจากทางอื่น อาชีพนักแสดงตอบโจทย์เรื่องรายได้นะครับ แต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องเวลาและช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้แม่ผมแก่ตัวลงเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีเงินมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเวลาพาแม่ไปเที่ยวหรือเห็นรอยยิ้มของแม่ก็คงไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เคารพงานนี้นะครับ เพราะนักแสดงคืออาชีพในฝันตั้งแต่เด็ก ผมมีความสุขที่ได้ถ่ายละคร ได้เจอเพื่อนๆ และทีมงาน มีความสุขเวลาอ่านคอมเมนต์ของแฟนคลับ ผมอยากให้งานมีแค่ตรงนั้นโดยไม่มีเรื่องเงินมาทำให้ตัดสินใจว่าจะรับละครเรื่องนี้ดีไหม ช่วงที่ผ่านมาจึงเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนมากขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางในการหารายได้

V: วันที่ทำงานเหนื่อยสุดๆ เป็นอย่างไร

F: ผมมีวันที่งอแงนะครับ อย่างช่วงหนึ่งถ่ายละครติดต่อกัน 3 สัปดาห์โดยไม่มีวันหยุด รู้สึกว่าโคตรเหนื่อยเลย ไม่อยากไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดพอมองย้อนกลับไปตอนเด็กๆ ที่ดูทีวีแล้วฝันอยากเป็นนักแสดง กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องผ่านการประกวดไม่มีอะไรได้มาง่ายเลย ทำให้มีแรงฮึด เพียงแต่เราต้องหาเวลาพักบ้างเท่านั้น



WATCH




V: มีวิธีพัฒนาตัวเองในการแสดงอย่างไร

F: ผมพยายามหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากการดูซีรีส์ ภาพยนตร์ รวมถึงออกไปพูดคุยกับผู้คน ทำให้เห็นมุมมองที่หลากหลาย สมมติว่าเกิดเหตุการณ์หนึ่ง แต่ละคนจะมีรีแอ็กชั่นแตกต่างกันซึ่งผมนำไปใช้ต่อยอดในการแสดงได้ หรือเวลาดูหนัง ผมจะรู้สึกว่าทำไมตัวละครนี้ถึงเลวหรือดีได้ขนาดนี้ จากนั้นจะมองหาจุดตั้งต้นที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น ผมเชื่อว่ามนุษย์เป็นสีเทา อยู่ที่เราจะเลือกใช้ด้านขาวหรือดำกับใคร และในเวลาไหน เป็นการดูหนังแบบสังเกตการณ์ไปด้วย ถ้ามีเวลามากขึ้นก็อยากกลับไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม เพื่อทบทวนว่ามีอะไรที่ควรพัฒนาหรือรักษาไว้ รวมถึงนั่งสมาธิให้เยอะขึ้น เพราะเวลามีสมาธิจดจ่อจะทำให้เราเข้าไปในโลกของตัวละครได้ใกล้เคียงที่สุด

V: บทเรียนในวงการบันเทิงที่ทำให้โตขึ้น

F: เรื่องล่าสุดเลยครับ ผมเพิ่งเจอประเด็นดราม่า LGBTQ ตอนไปออกรายการโปรโมตละครเรื่อง คุณชาย วันนั้นผมพยายามเอนเตอร์เทนให้เพื่อนๆ สนุก โดยไม่รู้ว่าการทำแบบนั้นเป็นการล้อเลียนเพศทางเลือก พอมีกระแสต่อว่าขอสารภาพว่าเครียดมาก นอนไม่หลับเลยครับ เพราะไม่ได้มีเจตนาเหยียดใคร รู้สึกผิดกับความโง่ของตัวเองที่ไปเหยียดคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ ครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่ายังมีแง่มุมของโลกที่ต้องรู้ให้รอบกว่านี้ ผมรู้ว่าเรื่องเซนซิทีฟแบบนี้คงให้อภัยได้ยาก และเข้าใจถ้ามีคนที่ไม่ให้อภัย แต่ผมจะนำข้อผิดพลาดนี้ไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกครับ

ช่างภาพ : เอกรัชต์ อุบลศรี
สไตลิ่ง : ตะวัน ก้อนแก้ว

WATCH