ความสำเร็จบนเส้นทางชีวิตมักถูกพูดว่าเป็นชะตาฟ้ากำหนด หลายครั้งเราเห็นความพยายามของศิลปินจำนวนไม่น้อยต้องสูญสลายไปเพราะความล้มเหลว ไม่ใช่เพราะจากตัวเอง แต่จากจังหวะเวลาและรากฐานความนิยมที่ไม่สามารถทำให้พวกเขาไปต่อได้ อาชีพในวงการบันเทิงจึงเต็มไปด้วยการเข้ามาและจากไปแบบไม่มีวันจบ น้อยคนจะเป็นดาวดังอยู่ค้างฟ้า หรือแม้แต่จุดเริ่มต้นก็เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะสำหรับบางคนมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมและพุ่งทะยานจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในเวลาอันสั้น ในขณะเดียวกันบางคนอาจต้องดิ้นรนจนสร้างชื่อขึ้นมาด้วยบทบาทที่หลากหลาย ซึ่งเรากำลังจะพูดถึง “บิ๊ก” หรือ “D Gerrard” ที่ทุกคนคุ้นชื่อหลังเสียมากกว่ากับเส้นทางการเข้าสู่วงการดนตรีและก้าวสู่นักแสดงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงปลายปี 2023 กับบทบาทในภาพยนตร์ 4 KINGS 2

ลีลาการขับร้องเพลง เอิงเอย ของ D Gerrard ที่แม้จะทำให้เขาไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ก็ได้รับคำชมว่าเขาเป็นศิลปินโดยไม่ต้องใช้เวทีการแข่งขันพิสูจน์แล้ว / ภาพ: The X Factor Thailand

     หนุ่มวัย 28 ปีที่มีคาแร็กเตอร์เป็นเอกลักษณ์แบบนี้คือศิลปินผู้เริ่มเส้นทางชีวิตกับดนตรีโดยแท้จริง ย้อนกลับไปในวัย 22 ปี บิ๊กคือผู้เข้าแข่งขันรายการ The X Factor Thailand และสร้างความประทับใจตั้งแต่รอบออดิชั่นกับเพลง ‘ไม่เหมือนใคร’ ซึ่งเขาแต่งทำนองและเนื้อร้องเอง รูปแบบเพลงที่สื่อสารอย่างง่ายดายแต่เปี่ยมด้วยถ้อยคำโดนใจ สอดผสานกับเรื่องเสน่ห์ที่บิ๊กไม่ได้เปิดตัวหรือทำการแสดงหวือหวา เขามาพร้อมกีตาร์โปร่งเพียงตัวเดียวและบรรเลงให้ผู้ชมทั้งในห้องส่งและทางบ้านตราตรึงกับบทเพลงแสนเรียบง่ายแต่ทรงพลังเสียจริง หลังจากนั้นเขาก็สร้างความประทับใจให้กับกรรมการในทุกรอบ ทั้งเพลง ‘ภาพเบลอ’ ในรอบ 4 Chair Challenge และ ‘เอิงเอย’ ในรอบ Judges’ House ซึ่งเพลงหลังได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากการใช้วิธีการขับร้องแบบไทยเดิมผสมผสานกับแนวดนตรียุคใหม่จนได้รับคำชมล้นหลาม แม้จะตกรอบไม่ได้เข้าสู่รอบสุดท้ายแต่ดีเจอร์ราร์ดก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นศิลปินโดยไม่ต้องใช้การแข่งขันพิสูจน์อีกแล้ว

D Gerrard กับผลงาน GALAXY ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จและกลายเป็นศิลปินยอดฮิตของยุคปัจจุบัน / ภาพ: Warner Music Thailand

     ดีเจอร์ราร์ดหลังรายการแข่งขันประกวดร้องเพลงนั้นเป็นเหมือนที่ทุกคนนิยาม เพราะเขาคือศิลปินเต็มตัวที่พร้อมปล่อยผลงาน ซึ่งผลงานเพลงจำนวนหลายต่อหลายเพลงล้วนเป็นเพลงฮิตติดกระแสทั้งสิ้น บางเพลงมียอดเข้าชมวิดีโอบนยูทูบเกินหลัก 200 ล้านครั้ง มีเพียงศิลปินไม่กี่คนในประเทศไทยเท่านั้นที่สามารถทำได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นชีวิตการเป็นศิลปินของดีเจอร์ราร์ดก็แทบจะถูกแสงสปอตไลต์สาดส่องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะปล่อยผลงานอะไรก็กลายเป็นเพลงฮิตติดหู มียอดคนฟังหลักสิบล้านมาโดยตลอด หากจะบอกว่าบิ๊กประสบความสำเร็จในนามศิลปินสาขานักร้องแล้วก็คงไม่ผิดนัก จากเด็กหนุ่มผู้มีสไตล์เรียบง่ายกับสถานะผู้เข้าแข่งขันรายการประกวดร้องเพลง เขากลายเป็นศิลปินระดับประเทศได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี

D Gerrard ในงานฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Red Life / ภาพ: @d.gerrardd

     ก้าวเข้าสู่ปี 2023 ดูเหมือนว่าดีเจอร์ราร์ดจะไม่ได้เลือกเส้นทางดนตรีเพียงอย่างเดียว จิตวิญญาณการเป็นศิลปินของเขาพาให้ตัวเองเข้าสู่เส้นทางการแสดง บทบาท ‘เคี้ยง’ จากภาพยนตร์เรื่อง Red Life เข้าฉายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2023 นั้นเป็นดั่งใบเบิกทางย่อมๆ ที่ทำให้คนคุ้นหน้าคุ้นตาบิ๊กในด้านการแสดง ต้องบอกว่ากระแสของภาพยนตร์เป็นไปในทางบวกก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นกระแสดังเปรี้ยงปร้างถึงขนาดสร้างแรงกระเพื่อมอย่างหนักหน่วง อีกทั้งนักแสดงนำยังมีบทบาทค่อนข้างมาก สำหรับบิ๊กจึงเป็นดั่งใบเบิกทางที่ดีแต่ไม่ใช่ผลงานแจ้งเกิดเต็มตัว และแล้วบิ๊กก็กำลังถูกพูดถึงอีกครั้งกับบทบาทสุดเข้มข้นจากภาพยนตร์เรื่อง 4 KINGS 2

D Gerrard กับบทบาท ยาท เด็กบ้าน ตัวละครที่ทุกคนจดจำขึ้นใจในเรื่อง 4 KINGS 2 / ภาพ: @d.gerrardd

     4 KINGS 2 คือเรื่องราวของชีวิตเด็กอาชีวะยุค ‘90s ที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตที่มีมากกว่าแค่เด็กนักเรียน ปวช. บิ๊กรับบทเป็น ‘ยาท เด็กบ้าน’ ที่มีเบื้องหลังชีวิตอันหนักหน่วง มาพร้อมกับการตกอยู่ในกรอบสังคมอันดำมืด สิ่งที่เขาไม่อยากได้รับก็มิอาจปฏิเสธ และสิ่งที่เขามอบให้แก่สังคมก็เป็นสิ่งดำมืดไม่ต่างจากชีวิตเขาเท่าไหร่นัก แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีตัวละครหลักมากมายไม่ต่างกัน แต่ยาทเด็กบ้านก็อาจนับเป็นตัวละครสมทบที่มีอิทธิพลมากที่สุด เรื่องราวที่หนักหนาสาหัสที่มาพร้อมกับความดำมืดนี้ทำให้บิ๊กถูกจับตามองว่าสื่อสารมันออกมาได้ดีมากน้อยเพียงใด

ฉากปะทะคารมของตัวละคร ยาท เด็กบ้าน อีกหนึ่งฉากแห่งความทรงจำที่บิ๊กได้รับคำชมจากการแสดงใน 4 KINGS 2 / ภาพ: @d.gerrardd

     ยาท เด็กบ้านกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วไม่แพ้กระแสความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ หลายคนชื่นชมว่าบิ๊กสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของยาทได้อย่างเข้มข้นลึกซึ้ง อีกทั้งยังมีบทพูดติดหูผู้ชมหลายต่อหลายอย่าง เรื่องการแสดงก็สามารถเค้นอารมณ์และโน้มน้าวให้คนเชื่อกับบทบาทนี้อย่างจริงจัง สะท้อนถึงฝีมือการแสดงของบิ๊กที่พร้อมแจ้งเกิดเต็มตัว จากเดิมเขาคือศิลปินที่สร้างกระแสฮิต วันนี้เมื่อเขาก้าวเข้าสู่เส้นทางการแสดงเขาก็สร้างกระแสฮิตได้อีกครั้ง อาจจะใช่ที่เป็นเรื่องโชคชะตาและจังหวะเวลา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาคือศิลปินคุณภาพที่พร้อมรังสรรค์ผลงานชั้นยอดเมื่อเขาหยิบจับงานไม่ว่าจะแขนงใดก็ตาม เป็นเวลาหลายปีที่เขาเริ่มต้นด้วยการแข่งขันแบบไร้ทางลัดสู่การเป็นศิลปินด้วยความสามารถและความพยายามของตัวเอง จนตอนนี้เขาคือดาวเปล่งประกายที่พร้อมเฉิดฉายอย่างโชติช่วงชัชวาล นี่คือชีวิตของผู้เกิดมาเป็นศิลปินโดยแท้ ‘บิ๊ก ดีเจอร์ราร์ด’