ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศยกย่องวัฒนธรรม K-pop ในโอกาสครอบรอบวันประกาศอิสรภาพ 76 ปี

     เป็นที่ทราบกันดีว่าวัฒนธรรม K-pop ของประเทศเกาหลีใต้นั้น แผ่ขยายอิทธิพลไปกว้างขนาดไหน กระทั่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Soft Power ด้านวัฒนธรรมบันเทิงที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกตอนนี้ ตีคู่มากับโลกฮอลลีวู้ดเลยก็ว่าได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลในรอบทศวรรษที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่เพราะเคป็อปสามารถจะดำรงอยู่ หรือเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง หากแท้จริงแล้ว “เบื้องหลัง” การสนับสนุนจากรัฐบาล และคนในชาติที่แข็งขันต่างหากที่ทำให้กระแสของเคป็อปกลายเป็นที่นิยมไปทั่วทั้งโลกแบบนี้

     ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งเพลงและภาพยนตร์ ของประเทศเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จรุดหน้าแบบก้าวกระโดดอย่างที่ใครต่อใครไม่เคยคิดฝันมาก่อน เริ่มตั้งแต่ในด้านของงานเพลง ที่ได้หนุ่มๆ วง BTS เดินทางไปสร้างชื่อเสียงถึงอีกฝั่งโลก ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยซิงเกิ้ลเพลงภาษาอังกฤษอย่าง Dynamite และ Butter ออกมาเอาใจเหล่าแฟนคลับต่างชาติ จนได้รับความนิยมติดชาร์ต Billboard Hot 100 ไปตามๆ กัน อีกทั้งยังส่งให้ทั้ง 7 หนุ่มได้รับเชิญไปร่วมงานประกาศรางวัล Grammy Awards ถึง 3 ปีติดต่อกัน ซึ่งนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้บีทีเอสถูกเลือกจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ให้มาทำหน้าที่เป็นกลุ่มมิวส์ของแบรนด์ เพื่อร่วมทำแคมเปญระดับโลกอีกด้วย นอกจากนี้ในฝั่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง Parasite อย่าง Bong Joon Ho ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการฮอลลีวู้ด ด้วยการขึ้นรับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ ก่อนที่ในปีล่าสุดนี้นักแสดงหญิงวัย 74 ปีอย่าง Youn Yuh Jung จะได้สร้างประวัติศาสตร์ต่อเนื่องให้ชาติเกาหลีใต้ ด้วยการคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิง จากภาพยนตร์เรื่อง Minari มาได้สำเร็จอีกรางวัล ตอกย้ำความสำเร็จของวัฒนธรรมบันเทิงเกาหลีใต้อย่างชัดเจน

     ล่าสุดในโอกาสวันครบรอบปีที่ 76 ของการประกาศอิสรภาพของประเทศเกาหลีใต้นั้น Moon Jae In ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ก็ได้ออกมากล่าวถ้อยแถลงประจำปี เพื่อให้คนในชาติได้รำลึกถึงความสำคัญของวันดังกล่าว และอิสรภาพที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา ซึ่งไฮไลต์สำคัญช่วงหนึ่งจากถ้อยแถลงอันยาวเหยียด ประธานาธิบดี มุน แจ อิน ยังไม่ลืมที่จะกล่าวสรรเสริญวงการเคป็อป และอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถสร้างชื่อเสียง และรายได้ให้กับประเทศเกาหลีใต้อย่างมหาศาล โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ วงบีทีเอสกลายเป็นบอยแบนด์วงแรกที่สามารถติดอยู่บนอันดับสูงสุดของชาร์ตบิลบอร์ดได้สำเร็จ ด้วยซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขาเอง ส่วนภาพยนตร์เรื่อง 'Parasite' ก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รวมไปถึงรางวัลออสการ์มาอีกหลายรางวัล หรือแม้แต่นักแสดงหญิง ยุน ยูจอง ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปหมาดๆ กระนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแต่เคป็อป และภาพยนตร์ของเราเท่านั้นที่สร้างความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก หากยังรวมไปถึง เกม ละครโทรทัศน์ เว็บตูน แอนิเมชั่น และเนื้อหาสัญชาติเกาหลีใต้ในด้านอื่นๆ อีกมากมายที่กลายเป็นที่ชื่นชอบทั่วโลกในตอนนี้... วัฒนธรรมและศิลปะของพวกเราสามารถพัฒนาต่อได้อย่างไม่รู้จบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวัฒนธรรมและศิลปะอันทันสมัย ที่ได้โอบรับเอาองค์ประกอบดั้งเดิม และองค์ประกอบสมัยใหม่มาผสานรวมกันได้อย่างกลมกลืน ก่อเกิดเป็นความสำเร็จเหล่านี้ ที่ยังคงไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็มองไปข้างหน้าในอนาคตด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้เองที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของคนเกาหลีใต้ที่รักในการสร้างสรรค์วัฒนธรรม และศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ”

     ท้ายที่สุดแล้วเรื่องเดิมที่ผู้เขียนอยากจะยกขึ้นมาพูดเพื่อปิดท้ายก็เห็นจะหนีไม่พ้นที่ว่า ในยุคปัจจุบันนานาชาติแข่งขันกันเป็นมหาอำนาจ มิใช่ด้วยการล่าอาณานิคมดินแดน หรือการทำสงครามโดยยุทโธปกรณ์อีกต่อไป หากคือการสร้างอัตลักษณ์ และวัฒนธรรมส่งออกให้แข็งแกร่ง พร้อมรังสรรค์ Soft Power เป็นของตัวเอง เพื่อแทรกซึมไปทั่วโลกให้ได้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นต่างหากที่จะทำให้คุณสามารถขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ...