michael-jordan-magic-johnson
LIFESTYLE

เคล็ดลับการพลิกบทบาทจากยอดนักกีฬาสู่นักธุรกิจมือทองของ Michael Jordan และ Magic Johnson

เมื่อ 2 ตำนานแห่ง NBA กลายเป็นนักธุรกิจมือทองที่ใครหลายคนต่างสงสัยว่าพวกเขามีเคล็ดลับอย่างไรถึงประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้

michael-jordan

       Michael Jordan / ภาพ: NBA

 

       ผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลแห่งบาสเกตบอล NBA นอกจากนั้นเขายังเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่รวยที่สุดในปัจจุบัน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท นอกจากเขาจะเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งแล้ว ในแง่ของธุรกิจเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แน่นอนว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเขามาจากแบรนด์รองเท้า Jordan ในเครือของ Nike ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์รองเท้าสนีกเกอร์ที่มียอดขายสูงที่สุด นอกจากนั้นที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้คือจอร์แดนยังมีธุรกิจอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือบริษัทดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์

michael-jordan

Michael Jordan / ภาพ: Insider

 

       "ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่งขันกีฬาหรือสนามธุรกิจ จอร์แดนมักจะมองไปที่จุดสูงสุดเสมอ ถ้าคุณอยู่ใกล้ชิดกับเขาคุณจะรู้เลยว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ จอร์แดนเป็นคนประเภทนี้แหละ" แอนดรูว์ วอลเตอร์ เพื่อนสนิทและที่ปรึกษาการลงทุนของไมเคิล จอร์แดนกล่าวกับ Life Hack นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไม่ว่าจะวงการไหนที่จอร์แดนย่างกรายไปก็จะมีความสำเร็จรอเขาอยู่เสมอก็คือความยอดเยี่ยมในการทำงานเป็นทีม

       "ความสามารถพิเศษชนะเกม แต่การทำงานเป็นทีมและความฉลาดชนะการแข่งขัน" ส่วนหนึ่งในบทสัมภาษณ์ของจอร์แดนหลังจากที่เขาพา Chicago Bulls คว้าแชมป์ NBA ในปี 1992 ซึ่งทัศนคติแบบนี้ก็สามารถพบเห็นได้เช่นกันเมื่อเขาทำธุรกิจ นั่นก็คือการที่เขา กับ ทิงเกอร์ ฮาตฟิลด์ ดีไซเนอร์คู่บุญผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ Air Jordan ขึ้นมาซึ่งพวกเขาก็สนิทสนมกันราวกับพี่น้องหรือญาติในครอบครัว 

       และสุดท้ายยังมีอีกหนึ่งวิชาที่จอร์แดนนำมาจากสนามบาสเกตบอล และประยุกต์ให้เข้ากับการทำธุรกิจ อย่างที่ทราบกันดีว่าจอร์แดนเป็นผู้เล่นที่ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ พร้อมปะทะได้เสมอเมื่อไม่ได้รับความยุติธรรม เช่นเดียวกับในสนามธุรกิจที่ครั้งหนึ่งเคยมีร้านซูเปอร์มาร์เก็ตนำชื่อของจอร์แดนไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้ามองในอีกมุมมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จอร์แดนไม่คิดเช่นนั้น เขาคิดว่าตัวเขาคือแบรนด์ และเขาจะไม่ยอมให้ใครมาลดคุณค่าแบรนด์นี้ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจฟ้องก่อนที่เขาจะชนะคดีนี้ และได้รับค่าชดเชยมาถึง 8.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 270 ล้านบาท

magic-johnson

Magic Johnson / ภาพ: Colorlines

 

       เช่นเดียวกับ Magic Johnson ตำนานนักบาสเกตบอลแห่ง NBA และทีม Los Angeles Lakers การันตีด้วยแหวนแชมป์ 5 วง รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล (MVP) 3 สมัย และติดทีม All-Star ประจำฤดูกาลอีก 12 สมัย ถือเป็นหนึ่งในนักบาสเกตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาลก็ว่าได้ เช่นเดียวกับในสนามธุรกิจ ที่แมจิกก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท

       แมจิกคือผู้ก่อตั้ง Magic Johnson Enterprises บริษัทสินเชื่อการลงทุนที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี นอกจากนั้นยังนั่งแท่นผู้บริหาร Los Angeles Dodgers ทีมเบสบอลชื่อดังในลีก MLB รวมถึงเคยนั่งแท่นผู้บริหารของ Los Angeles Lakers อดีตทีมที่สร้างชื่อเขาขึ้นมา โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้คือการได้เรียนรู้มาจากสนามบาสที่เขาเติบโตมาทั้งสิ้น



WATCH




magic-johnson

Magic Johnson / ภาพ: NBA

 

       เมื่อสมัยแมจิกยังวัยเยาว์ เขาจะมีการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเล่นบาสเกตบอลแต่ละครั้งอยู่เสมอ เริ่มตั้งแต่การเดินทางไปที่สนาม ขาไปแมจิกจะเดาะลูกบาสด้วยมือขวา ส่วนขากลับจะเดาะลูกด้วยมือซ้าย เพื่อให้สามารถใช้ทั้งสองมือได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนที่เขาเข้ามาเป็นรุกกี้ที่ Los Angeles Lakers ก็เช่นกัน เขาจะมาที่สนามซ้อมเร็วกว่าคนอื่น 2-3 ชั่วโมงเสมอเพื่อเตรียมความพร้อม และเมื่อถึงเวลาทำธุรกิจ แมจิกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เขาเลือกที่จะเตรียมความพร้อมด้วยการปรึกษาไมเคิล โอวิตซ์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์ เพราะตัวแมจิกรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ การเตรียมความพร้อม และการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญย่อมเป็นประโยชน์

       นอกจากนี้ด้วยตำแหน่งการเล่นพอยต์การ์ดหรือการ์ดจ่าย ทำให้ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการจ่ายบอลยามอยู่ในสนาม แมจิกต้องละเอียดรอบคอบ เพราะนี่คือตำแหน่งที่เป็นเหมือนผู้บัญชาการเกมรุกของทีม โดยความละเอียดรอบคอบนี้แมจิกเล่าว่าเขาซึมซับมันมาจากพ่อของเขา ซึ่งทำอาชีพเป็นพนักงานขับรถเก็บขยะ และเขาในวัยเด็กก็มักจะออกไปช่วยพ่อของเขาเสมอ โดยวันหนึ่งในฤดูหนาว แมจิกเก็บขยะจากถังขยะข้างทางขึ้นรถ โดยไม่ได้ใส่ใจความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากนัก ตามพื้นยังมีเศษขยะหล่นเกลื่อนกลาดอยู่รายทาง แต่ด้วยอากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้เด็กชายจอห์นสันปล่อยมันทิ้งไว้ แล้วรีบเข้าไปซุกไออุ่นจากฮีตเตอร์ในรถ เมื่อพ่อของเขาเห็นแบบนั้น ก็ยื่นที่โกยขยะให้แมจิก ก่อนจะพูดว่า "ถ้าแกเป็นคนครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ โตไปแกก็จะเป็นนักบาสเกตบอลที่ครึ่งๆ กลางๆ ใช้ชีวิตแบบครึ่งๆ กลางๆ ไปตลอด" ซึ่งคำพูดในวันนั้นประทับในความทรงจำของแมจิกมาเสมอ แม้กระทั่งในวันที่เขากลายเป็นนักธุรกิจ เขาจึงถือคตินี้มาตลอดว่า "การใส่ใจรายละเอียดคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคำติชมที่ลูกค้ามีต่อเรา เราต้องรับฟังและทำความเข้าใจมันให้ดีที่สุด"

michael-jordan-magic-johnson

Michael Jordan และ Magic Johnsonภาพ: S.E.O.

 

       เรื่องราวของ 2 นักบาสเกตบอลตำนานแห่ง NBA คือบทพิสูจน์ว่าแก่นแท้ของกีฬากับธุรกิจนั้นแท้จริงแล้วมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่ก็ไม่การันตีเสมอไปว่านักกีฬาชื่อดังจะสามารถกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ทุกคน เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ ว่ากลยุทธ์ในสนามกีฬาแบบไหนจะเหมาะสมและเข้ากับธุรกิจที่กำลังทำอยู่



ข้อมูล : Forbes
ภาพ : Sportcasting
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #MichaelJordan #MagicJohnson