รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปครึ่งทางแล้วสำหรับปี 2022 นับเป็นปีที่วงการภาพยนตร์คึกคักไม่น้อย เพราะเพียงครึ่งปีแรกก็มีภาพยนตร์กระแสแรงผลัดเปลี่ยนกันเข้าฉายอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่เป็นการกลับมาอย่างสวยงามของ Sam Raimi โดยกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 877 ล้านเหรียญ ครองตำแหน่งแชมป์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมี The Batman ของผู้กำกับ Matt Reeves ที่เป็นการเริ่มศักราชใหม่ของอัศวินรัตติกาลได้อย่างน่าสนใจ Top Gun: Maverick ที่ใครจะไปคิดว่าภาพยนตร์ภาคต่อของ Tom Cruise ที่ห่างจากภาคแรกกว่า 36 ปีเรื่องนี้จะยังสร้างฮือฮาได้เป็นปรากฏการณ์ หรือแม้กระทั่งหนังจากสตูดิโออินดี้อย่าง A24 เรื่อง Everything Everywhere All at Once ก็ทำให้ผู้ชมตื่นตะลึงได้ไม่น้อย ดังนั้นอีกครึ่งปีที่เหลือจึงน่าสนใจไม่น้อยว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องใดสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จได้อีกบ้าง ซึ่งตัวเต็งน่าจะเป็นทั้ง 6 เรื่องที่หยิบยกมากล่าวถึงในบทความนี้

 

ภาพ: Bearthai

1. Jurassic World: Dominion (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 8 มิถุนายน 2022)

     และแล้วก็เดินทางบทสรุปของไตรภาค Jurassic World ในชื่อ Jurassic World: Dominion ซึ่งนี่จะเป็นภาคที่ตัดสินเลยก็ว่าได้ว่าภาพรวมของการหยิบตำนาน Jurassic Park มาสร้างสรรค์ครั้งนี้ของผู้กำกับ Colin Trevorrow นั้นจะถือว่ารุ่งหรือร่วง เนื่องจาก 2 ภาคก่อนหน้านี้ทั้ง Jurassic World และ Jurassic World: Fallen Kingdom การตอบรับอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดี ดังนั้นหากอยากให้ไตรภาคนี้เป็นตำนาน Jurassic World: Dominion ต้องดีกว่า 2 ภาคที่ผ่านมา

     ในส่วนเนื้อเรื่องบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 4 ปีหลังจากอิสลาร์ นูบลาร์ ถูกทำลาย ตอนนี้ ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่ และออกล่าไปพร้อมกับมนุษย์ทั่วโลก ความสมดุลอันเปราะบางนี้จะเปลี่ยนโฉมอนาคตและตัดสินว่า มนุษย์จะยังคงเป็นผู้ล่าที่อยู่ลำดับปลายสุดบนดวงดาว และยังคงอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนดารานำยังคงได้ Chris Pratt และ Bryce Dallas Howard มาประจำการเช่นเดิม สมทบด้วย Sam Neill, Laura Dern, และ Jeff Goldblum ยิ่งทำให้เรื่องราวนั้นน่าติดตามมากขึ้นไปอีก

 

 

ภาพ: ColliderImage

2. Thor: Love & Thunder (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 6 กรกฎาคม 2022)

     อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เหล่าแฟนบอยแห่งจักรวาล Marvel เฝ้ารอมากที่สุด เนื่องจากนี่จะเป็นครั้งแรกที่ฮีโร่ในจักรวาลนี้จะมีภาพยนตร์เป็นของตัวเองถึง 4 ภาค นอกจากนั้นการที่ Natalie Portman จะกลับมารับบทเป็น Jane Foster อีกครั้ง ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความน่าดูให้กับ Thor: Love & Thunder ไปอีกเท่าตัว โดยในภาคนี้บอกเล่าเรื่องราวหลังธอร์ตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับแก๊ง Guardians of the Galaxy ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับ Gorr the God Butcher ที่รับบทโดย Christian Bale ผู้แสวงหาการสูญพันธุ์ของเทพเจ้าทั้งมวลเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ ธอร์ควานหาความช่วยเหลือจาก Valkyrie (Tessa Thompson), Korg (Taika Waititi) และแฟนเก่าของเขา Jane Foster (Natalie Portman) อีกทั้ง Taika Waititi ที่เคยฝากความสำเร็จไว้ในภาค Ragnarök มานั่งแท่นกำกับเช่นเดิม ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกภาคที่ไม่ควรพลาดแม้แต่นิดเดียว

 

 

ภาพ: Major Cineplex

3. Mission: Impossible - Dead Reckoning - Part One (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 14 กรกฏาคม 2022)

     การผจญภัยของ Ethan Hunt ยังไม่สิ้นสุดลง และดูเหมือนว่ามันจะเข้มข้นมากขึ้นด้วยซ้ำใน Mission: Impossible ในภาค 7 ที่ใช้ชื่อว่า Mission: Impossible - Dead Reckoning - Part One ถึงแม้ว่านี่จะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ได้รับบทผลกระทบจากการต้องหยุดถ่ายทำมากที่สุดจากการระบาดของโควิด 19 แต่ในที่สุดหากไม่มีอะไรผิดพลาด 14 กรกฏาคม 2022 ทุกคนน่าจะได้รับชมพร้อมกัน จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมารับประกันได้เลยว่าภาคนี้จะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นสุดมัน บวกกับภาพเบื้องหลังกองถ่ายที่ Tom Cruise สวมหัวใจเพชรขี่มอเตอร์ไซค์วิบากทะยานเหินข้ามสะพานด้วยตัวเองก็น่าจะเพียงพอเป็นเหตุผลที่จะตีตั๋วเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์แล้ว

 

ภาพ: Cnet

4. Black Adam (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 20 ตุลาคม 2022)

     ถึงแม้ว่า Shazam อาจจะไม่ได้สร้างกระแสฟีเวอร์ได้เท่ากับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพยนตร์ผลงานการกำกับขออง Zachary Levi เรื่องนี้ก็ได้รับการยกย่องในวงกว้างในด้านความขบขันและหัวใจของตัวละคร ซึ่งก่อนที่ภาคต่อจะมีกำหนดฉายในปี 2023 ในปีนี้ศัตรูตัวฉกาจของชาแซมก็ได้เดบิวต์ในฉบับคนแสดงเช่นกัน เขาคนนั้นคือ Black Adam

     ความน่าสนใจที่สุดของ Black Adam คือการได้ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชนอย่าง Dwayne "The Rock" Johnson มารับบทนำ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ถึงแม้จะยังเปิดเผยออกมาไม่มากนัก ทว่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ Black Adam เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การเฝ้ารอแห่งปี

 

ภาพ: Srcdn

5. Black Panther: Wakanda Forever (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 10 พฤศจิกายน 2022)

     การจากไปของ Chadwick Boseman คือความโศกเศร้าที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงแต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป เช่นเดียวกับเฟรนไชส์ Black Panther ที่ยังคงมีภาคต่อออกมาในชื่อ Black Panther: Wakanda Forever ส่วนรายละเอียดทุกอย่างยังคงถูกเก็บเป็นความลับ รวมถึงประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ว่าตัวละครฝ่าบาท T'Challa จะเป็นอย่างไรต่อไป จะมีการแคสต์นักแสดงคนใหม่มารับบท หรือจะตัดตัวละครนี้ยกไว้บนหิ้งและดำเนินเรื่องด้วยตัวละครใหม่ ร่วมหาคำตอบของคำถามนี้ได้พร้อมกันในโรงภาพยนตร์

 

 

ภาพ: Kapook

6. Avatar: The Way of Water (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 15 ธันวาคม 2022)

     หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนโลกภาพยนตร์เอาไว้ในปี 2009 จนกลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ถึงแม้จะโดน Avengers: Endgame เข้ามาเบียดแย่งตำแหน่ง แต่สุดท้ายก็กลับมาทวงคืนบัลลังก์ได้ ผ่านมา 13 ปี ในที่สุดผู้ชมทั่วโลกก็จะได้รับชมภาคต่อ Avatar ในชื่อ Avatar: The Way of Water แล้วในช่วงปลายปี 2022 ถึงตอนนี้จะยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราวให้ทุกคนได้รับรู้ ทว่าจากทีเซอร์แรกที่ปล่อยออกมางานภาพทวีความวิจิตรตระการตายิ่งกว่าภาคแรกหลายเท่าตัว สมกับเป็นงานที่ James Cameron ทุ่มเททั้งแรงกายและจิตวิญญาณมากมายขนาดนี้เพื่อสร้างสรรค์ออกมา ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง