“No Tofu No Life” คือสโลแกนของร้านที่มี 4 สุดยอดผู้สร้างสรรค์ความอร่อยในแวดวงอาหารเป็นผู้ก่อตั้ง ได้แก่ เชฟกากั้น อนันต์ จากร้าน Gaggan (เจ้าของรางวัล Asia’s Best Restaurant 4 ปีซ้อน และได้มิชลิน 2 ดาว) เชฟทาเคชิ ฟุกุยาม่า จากร้าน La Maison de la Nature GOH (1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย) บิ๊ก-วเรศรา สมิตะสิริ เจ้าของร้านคั่วกลิ้งผักสด และตระกูลมิฮาระ ผู้ผลิตเต้าหู้เจ้าดังแห่งเมืองฟุกุโอะกะที่ตัดสินใจปิดร้านที่ญี่ปุ่นมาเปิดใหม่ที่ถนนสาทรใต้ ได้ยินแค่ 4 ชื่อนี้ก็รับประกันความอูมามิแล้ว

ในซอยเล็กๆ บนถนนสาทร เรามาหยุดยืนอยู่หน้าร้านอาหารที่ตกแต่งเรียบง่ายด้วยทางเข้าปูนเปลือยผสมกับไม้โทนสีมะฮอกกานี ถนนหน้าร้านเป็นทางลาดนิดๆ ทำให้นึกถึงร้านเด็ดตกแต่งสไตล์มินิมัลที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยในประเทศญี่ปุ่น พอก้าวเข้าไปก็เจอสวนหย่อมญี่ปุ่นกับบ่อหินขนาดจิ๋ว ถึงกับถามตัวเองว่านี่เราอยู่กรุงเทพฯ หรือฟุกุโอะกะกันแน่

เรานั่งรอจานแรก (จาก 16 คอร์ส) อย่างตื่นเต้น ลุ้นว่าเชฟจะเสิร์ฟอะไร...มันคือน้ำเต้าหู้สดจากฟุกุโอะกะแต่มาคู่กับส้มยูซุบดบนช้อนคันจิ๋ว ต่อจากนั้นเชฟก็ยกกล่องเบนโตะไม้ 3 ชั้นผูกผ้าสไตล์ญี่ปุ่นอย่างน่ารัก (เหมือนกล่องข้าวจากคุณแม่โนบิตะ) มาวาง ข้างในคือเต้าหู้เนื้อครีมมี่ 3 แบบกินกับเกลือทะเลและน้ำมันมะนาว หลังจบคอร์สที่ 2 ความประหลาดใจยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่คิดว่าเต้าหู้ธรรมดาๆ จะนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูได้หลากสไตล์ขนาดนี้ เช่น เต้าหู้งาโมจิที่มีเนื้อหนืดเป็นพิเศษ ซุปลูกชิ้นปลาเอดามาเมะผสมเต้าหู้และเนื้อปู Zuwai ส่วนจานเด็ดที่ประทับใจขอยกให้ DIY มากิ คือการใช้สาหร่ายห่อเป็นมากิ แล้วตักเต้าหู้ยูกิเนื้อครีมมี่ผสมกับไข่หอยเม่นด้วยตนเอง ปิดท้ายความฟินด้วยโซเมนเย็นกินคู่กับเทมปุระจุ่มน้ำเต้าหู้ปรุงรสสูตรเด็ดของทางร้าน

ดังที่วิถีแห่งเซนกล่าวไว้ว่า “ความธรรมดาคือสิ่งวิเศษ” และเราก็ได้เรียนรู้สิ่งนี้จากเต้าหู้ที่มิฮาระ โทฟุเทน

ร้าน Mihara Tofuten Bangkok 
โทร. 08-3655-4245

 

ถ่ายภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช