หลังจากเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันที่ 21 เมษายน 2022 ก็มีเหตุการณ์สร้างรอยยิ้มบนโลกโซเชียลอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อนักแสดงหนุ่มอย่าง ‘หมาก-ปริญ สุภารัตน์’ ได้โพสต์ภาพแหวนเพชรเม็ดงามบนนิ้วนางของนักแสดงสาว ‘คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส’ และรูปคู่สุดหวานเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าหมากได้ขอคิมเบอร์ลี่แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่ทั้งคู่บินลัดฟ้าเที่ยวไกลถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (คลิกอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ ที่นี่) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพราะเส้นทางในวงการบันเทิงทำให้ทั้งคู่ได้โคจรมาเจอกันด้วยบทบาทต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงบทพระนางที่เคมีเข้ากันอย่างฉุดไม่อยู่ เรียกได้ว่าหวานไม่แพ้นอกจอเลยทีเดียว วันนี้โว้กจะพาย้อนความรักของทั้งคู่กับผลงานในจอแก้วที่การันตีทั้งความสามารถและการก่อตัวของความรู้สึกจนกลายเป็นความรักที่สวยงามนอกจอมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพจากละครเรื่อง '4 หัวใจแห่งขุนเขา' / ภาพ: Panthip

     เปิดประเดิมด้วยผลงานละครเรื่องแรกที่ทั้งคู่ได้แสดงร่วมกันคือ ‘4 หัวใจแห่งขุนเขา’ ต้องบอกเลยว่าในปี 2010 ไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้เพราะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการละครที่นำเสนอเรื่องราวเป็นชุดซีรี่ส์อันประกอบด้วย ธาราหิมาลัย ดวงใจอัคนี ปฐพีเล่ห์รัก และวายุภัคมนตรา ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักอันเหลือเชื่อของพี่น้องแฝดไข่คนละใบทั้ง 4 คนในตระกูลอดิศวรคือ ดิน (แสดงโดย หมาก-ปริญ สุภารัตน์) น้ำ (แสดงโดย คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส) ลม (แสดงโดย บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) และไฟ (แสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) กล่าวได้ว่าเรียกเรตติ้งจากแฟนๆ ละครได้อย่างล้นหลาม ทั้ง 4 เรื่องจะได้เห็นบทบาทแต่ละคนโดดเด่นแตกต่างกันไป แต่ในขณะนั้นหมากและคิมเบอร์ลี่ยังมีความกุ๊กกิ๊กน่ารักในฐานะพี่น้องท้องเดียวกันจนผู้ชมก็อินว่าบรรดาพี่ชายโดยเฉพาะพี่คนโตอย่างดินมีความหวงน้องสาวมากที่สุด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ได้รู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้นในฐานะพี่น้อง

 

ภาพจากละครเรื่อง 'สามหนุ่มเนื้อทอง' / ภาพ: Sanook

     ผ่านมาได้ 1 ปีทางผู้จัดละครก็เห็นแววเริ่มป้อนงานละครให้กับทั้งคู่มีผลงานชิ้นใหม่ที่ท้าทายกับบทบาทที่แตกต่างเมื่อ ‘สามหนุ่มเนื้อทอง’ จับคู่ให้หมากกับคิมเบอร์ลี่มาเล่นบทพระนางคู่กันเป็นครั้งแรก ก็ทำเอาแฟนคลับต่างฮือฮาเพราะไม่เคยเห็นทั้งคู่อยู่ในบทบาทนี้ รวมถึงนักแสดงนำที่มีถึง 4 คนอย่าง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, มารี เบรินเนอร์, เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ และเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ด้วยนักแสดงที่มากคุณภาพรวมถึงยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ (ในเวลานั้น) ก็ยิ่งทำให้กระแสตอบรับออกมาดีเยี่ยม โดยเฉพาะตัวละคร กริช และ แอ๊ว ที่รับบทโดย หมากและ คิมเบอร์ลี่ ทำให้ผู้ชมต่างจับตามองเคมีที่เข้ากันของทั้งคู่จนเกิดกระแสคู่จิ้นลบภาพจำความเป็นพี่น้องของดินและน้ำไปเลยทีเดียว

ภาพจากละครเรื่อง 'ปัญญาชนก้นครัว' / ภาพ: Teenee

     ไม่นานเกินรอในปีเดียวกันทางต้นสังกัดก็เอาใจเหล่าแฟนคลับ MK (ย่อมาจากชื่อของ Mark และ Kimberley ในภาษาอังกฤษ) จัดผลงานละครของทั้งคู่อย่าง ‘ปัญญาชนก้นครัว’ เสิร์ฟลงจอแก้ว เผยให้เห็นความน่ารักของ ‘หมาก-คิม’ ที่ออร่าความเข้ากันมันทวีคูณมากขึ้น ด้วยบทที่คิมเบอร์ลี่ได้รับอย่างเอมิกา ลูกสาวท่านผู้ว่าฯ ในตระกูลใหญ่ตะกูลหนึ่งที่หวังอยากคว้าเกรดเอในวิชาการละครจนต้องยอมปลอมตัวเป็นแม่บ้าน ‘ชะเอม’ เข้าไปทำงานในบ้านของชายหนุ่ม ‘ตั้ม’ ปลัดสุดหล่อที่คอยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเอมิกาอยู่เสมอว่าเธอมีความรู้ต่างๆ มากมายที่ไม่น่าจะเป็นแค่สาวใช้ธรรมดา แต่สุดท้ายความใกล้ชิดของทั้งคู่ก็ก่อตัวขึ้นเป็นความรักอย่างห้ามไม่ได้ ด้วยบุคลิกสุดเปิ่นของชะเอมที่คิมก็ตีบทแตกสุดๆ และหนุ่มมาดนิ่งอย่างปลัดตั้มซึ่งหมากก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน รวมถึงทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้นในชีวิตจริงเพราะทำงานร่วมกันบ่อย ทำให้แฟนๆ ต่างก็เริ่มเชียร์กันกลายๆ ว่าอยากให้รักกันจริงในนอกจอ แต่ตอนนั้นทั้งคู่ยังได้แค่ปฏิเสธและเป็นพี่น้องที่สนิทกันต่อไป

ภาพจากละครเรื่อง 'ต้นรักริมรั้ว' / ภาพ: BlogGang

     ผลงานคู่ของทั้งหมากและคิมเบอร์ลี่เว้นช่วงนานจนเหล่าแฟนคลับก็อดคิดถึงไม่ได้ ในปี 2013 ทั้งคู่ก็กลับมาอีกครั้งกับ ‘ต้นรักริมรั้ว’ ที่เรียกได้ว่าผู้ชมต่างพากันจิกหมอนไปตามๆ กัน เพราะการกลับมาครั้งนี้ของหมากและคิมเบอร์ลี่ในบทบาท กบ และ บัว เพื่อนรักข้างบ้านที่เติบโตมาด้วยกันนั้นมีเรื่องของแต่ละคนให้ปั่นป่วนอยู่เสมอ แต่สุดท้ายความวุ่นวายก็ผันตัวเป็นความรักจนท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน ด้วยเนื้อเรื่องที่น่ารักกุ๊กกิ๊กบวกกับความสนิทของทั้งคู่ที่เริ่มจะมีแววหวานกันนอกจอ ยิ่งทำให้แฟนๆ อดเชียร์ไม่ได้ว่าทั้งคู่น่าจะมีโอกาสได้สานสัมพันธ์กันจริงๆ จนเวลาผ่านไปไม่นาน ความสนิทและความใกล้ชิดจากผลงานการแสดงก็ทำให้หมากและคิมเบอร์ลี่ตัดสินใจศึกษาดูใจกัน ก็ทำเอาบรรดาแฟนคลับต่างเฮกันยกใหญ่เมื่อเสียงเชียร์และความรู้สึกที่ลุ้นอยู่ในอกนั้นเป็นจริงเสียที

ภาพจากละครเรื่อง 'แอบรักออนไลน์' / ภาพ: Kapook

     ความรักอันหอมหวานของหมากและคิมเบอร์ลี่ก็มีมาให้ชมอยู่เรื่อยๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียหรือตามงานอีเวนต์ต่างๆ (ที่ทั้งคู่ออกงานร่วมกัน) ก็เรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับไม่น้อย และแน่นอนว่าก็มีผลงานละครมาให้ชมอีกเช่นเคย เมื่อปี 2015 ทั้งคู่ได้แสดงร่วมกันอย่าง ‘แอบรักออนไลน์’ ทำให้ผู้ชมทั้งบ้านทั้งเมืองต่างฟินไปกับ ปราณณ์ (แสดงโดยหมาก) และ พริบพราว (แสดงโดยคิมเบอร์ลี่) ปรากฏการณ์ MK สร้างเรตติ้งได้อย่างถล่มทลายอีกครั้งถึงขั้นเวลาค่ำในช่วงที่ละครออนแอร์ ท้องถนนโล่ง รถน้อยมากจนน่าแปลกใจ เพราะส่วนหนึ่งต่างคนต่างรีบกลับบ้านมาชมละครเรื่องนี้ ยิ่งมีนักแสดงนำอีก 2 คนอย่าง แอน ทองประสม และ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล มาช่วยเพิ่มสีสันความสนุกก็ยิ่งเพิ่มความสมบูรณ์แบบของเรื่องให้ลงตัวมากขึ้น อีกทั้งหมากและคิมเบอร์ลี่ก็เป็นที่จับตามองมากขึ้นเพราะการแสดงของทั้งคู่มีแต่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนได้กระแสตอบรับที่ดีเสมอมา

ภาพจากละครเรื่อง 'คมแฝก' / ภาพ: Series Lakorn Thai

     เดินทางมาถึงผลงานล่าสุดของละครคู่หมากและคิมเบอร์ลี่ในปี 2018 ที่หลายคนต่างจับตามองกับละครรีเมกเรื่องนี้เป็นอย่างมากกับ ‘คมแฝก’ ที่เป็นผลงานแหวกแนวจากละครคู่ที่พวกเขาเคยร่วมงานกันมา ไม่ว่าจะเป็นบทบู๊หรือการผสมแนวพีเรียดเล็กน้อยทำให้ได้รสชาติใหม่อย่างที่ผู้ชมไม่เคยได้รับ แม้จะเป็นละครที่บู๊กระหน่ำแต่แฟนๆ ก็หาเรื่องฟินจากฉากเลิฟซีนพอกล้อมแกล้ม หรือแม้กระทั่งความดราม่าที่ทั้งสองก็เข้าถึงบทบาท ทำเอาแฟนละครหลั่งน้ำตากันถ้วนหน้าและต่างก็ออกปากชมเป็นเสียงเดียวกันว่านอกจากเคมีที่ลงตัวทั้งในจอและนอกจอแล้ว ฝีมือการแสดงของทั้งคู่ก็เป็นที่ยอมรับว่าทั้งสองคือนักแสดงแถวหน้าของประเทศไทยอย่างแท้จริง

     จากผลงานการแสดงที่ผ่านมาของหมากและคิมเบอร์ลี่ ทั้งความเป็นมืออาชีพและพรสวรรค์ของทั้งคู่ก็ทำให้ผู้ชมติดตามและคอยสนับสนุนกันอย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่เริ่ม รวมถึงให้กำลังใจเกี่ยวกับความรักของทั้งคู่มาเสมอจนกลายเป็นความสุขตามที่หวัง แน่นอนว่าภาพความรักอันสวยงามที่เคยฝากไว้ในจอแก้วได้ฉายผ่านมาทางชีวิตจริงเรียบร้อยแล้วเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปด้วยกัน แม้ตอนจบของละครจะครองรักกันแบบใดก็ตาม แต่ผู้เขียนเชื่อว่าต่อจากนี้ทั้งคู่เลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันแล้ว ภาพฝันต่างๆ ที่เคยวาดไว้จะสวยงามและเกิดขึ้นในชีวิตจริงต่อไปอย่างแน่นอน โว้กขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้