การโคจรมาพบกันระหว่างแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่ออย่าง Guerlain และ Violette Serrat เมกอัพอาร์ทิสต์ชาวฝรั่งเศสที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝ่ายเมกอัพของเกอร์แลง คือการนำเสนอความงามแบบฉบับสาวปารีเซียงบทใหม่ที่สดใหม่ยิ่งขึ้น “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ ช่วง 6-8 เดือนก่อนหน้านี้เราได้พูดคุยถึงการร่วมงานกันก่อนที่ฉันจะเปิดตัวแบรนด์ของตัวเอง 'Violette_fr' ในตอนแรกฉันกะที่จะบอกปฏิเสธไปเพราะคงไม่สามารถทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันได้ แต่มันยากที่จะปฏิเสธจริงๆ สำหรับเมกอัพอาร์ทิสต์สัญชาติฝรั่งเศสอย่างตัวฉันที่จะได้รับเกียรติดำรงตำแหน่งอย่างครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ให้กับแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่ออย่าง Guerlain มันคือความฝันเลยค่ะ เมื่อเกอร์แลงแชร์ทิศทางของแบรนด์ว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน ฉันพบว่าเราทั้งคู่มีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน สิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้คือเกอร์แลงเป็นแบรนด์เครื่องสำอางแรกของโลกที่ทำลิปสติกแบบแท่ง ฉันเองที่เป็นแฟนคลับตัวยงของลิปสติกจึงรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ และปฏิเสธไม่ได้ที่จะร่วมงานกับแบรนด์ นี่คือบทใหม่สำหรับแบรนด์เกอร์แลงที่มาพร้อมกับจังหวะ ทีมงาน และเป้าหมายที่สดใหม่ ฉันมีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะนำเสนอความสดใหม่ให้กับแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างเกอร์แลง” วิโอเลตเล่าถึงการได้มาร่วมงานกับแบรนด์เกอร์แลงกับโว้กบิวตี้ผ่านบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟทางอีเมล์ ซึ่งเราได้พูดคุยกันถึงบทบาทใหม่ของเธอ มุมมองความงาม พร้อมอัพเดตไอเท็มเมกอัพชิ้นใหม่ล่าสุดจากเกอร์แลงอย่างคุชชั่น Parure Gold โดยเธอนั้นได้พาเราทำความรู้จักคุณสมบัติของคุชชั่นใหม่พร้อมแชร์ทิปส์การลงเมกอัพให้ดูเผยผิวตามแบบฉบับของสาวปารีเซียง

 

Violette ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝ่ายเมกอัพของแบรนด์ Guerlain

     “สำหรับฉันคำว่าความงามควรช่วยให้เรารักในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ใช่ทำให้เราอยากเปลี่ยนแปลง” วิโอเลตแชร์ถึงมุมมองความงามของเธอกับโว้ก หากตามไปที่เพจอินสตาแกรม @Violette_fr ซึ่งเปรียบเสมือนมู้ดบอร์ดบิวตี้ของเธอนั้น จะพบกับลุคเมกอัพแบบฉบับสาวปารีเซียงที่มีซิกเนเจอร์เป็นลิปสีแดงสด และงานผิวที่ดูคลีนบางเบา โดยเธอได้ทวิสต์ลุคคลาสสิกเหล่านี้ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยสีสันเมกอัพสุดป๊อปอย่างเช่น เพิ่มกิมมิคให้กับการแต่งตาด้วยอายไลเนอร์ที่มีสีสันแทนการใช้อายแชโดว์ หรือแมตช์สองคู่สีเมกอัพขั้วตรงข้ามเข้าด้วยกันให้ลุคดูเฟรชและทันสมัย ซึ่งเป็นเทคนิคการเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับลุคเมกอัพในชีวิตประจำวันที่ทำตามได้ง่ายๆ ซึ่งเธอได้แชร์ผ่านทั้งทาง Violette_fr แบรนด์ของตัวเธอเอง รวมถึงถ่ายทอดผ่านทางเมกอัพของแบรนด์ Guerlain ด้วย “สิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับเมกอัพคืออิทธิพลที่มีต่ออารมณ์ของเรา ทำให้เรารู้สึกบางอย่างได้ จะบอกว่าทำให้เรารู้สึกมีสมาธิก็ได้นะ อย่างฉันในตอนนี้ที่มีทั้งลูกสาวตัวน้อยและงาน ฉันไม่สามารถทำสมาธิได้เลย แต่อย่างไรก็ตามเวลาที่ฉันได้ทาลิปสติก ฉันสามารถทาและก็คุยกับคนไปพร้อมๆ กันได้  มันเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายและมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเรา ฉันมองเมกอัพเป็นแบบนั้นเสมอมา ไม่เคยมองว่ามันเป็นสิ่งที่ไว้ใช้แก้ไขในสิ่งที่ตัวเราเป็น แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย Violette (@violette_fr)

     หากส่องกระเป๋าเมกอัพของวิโอเลตตอนนี้จะไม่มีรองพื้นเนื้อหนาหนักให้เห็นแต่จะเจอเมกอัพที่เป็นคีย์ไอเท็มเพียงไม่กี่ชิ้นที่ช่วยครีเอตลุคเก๋ในสไตล์น้อยแต่มากได้ “แน่นอนว่าต้องมีบรอนเซอร์อย่าง Terracotta จาก Guerlain โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะช่วยมอบฟินิชผิวดูบ่มแดดได้เป็นอย่างดี และก็ต้องมีมาสคาร่าค่ะ และคงเป็นลิปสติก Rouge G ซึ่งฉันรักมากๆ มันจะอยู่ในกระเป๋าของฉันเสมอเลย” เธอเผยถึงไอเท็มเมกอัพที่พกติดตัวเป็นประจำ “ลุคเมกอัพของฉันจะไม่ค่อยซ้ำกันในแต่ละวันค่ะ จะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของวันนั้น อย่างวันก่อนฉันทาลิปสติก Rouge G วันนี้ฉันใช้อายแชโดว์ Yeux Paint  จาก Violette_fr บนเปลือกตา พรุ่งนี้อาจไม่แต่งอะไรเลยหรือใช้เป็นกลิตเตอร์ มันเปลี่ยนตลอดเวลา เพราะอย่างนี้ฉันถึงอยากให้ทุกคนสนุกกับการแต่งหน้าด้วยการเชื่อมโยงเมกอัพเข้ากับมู้ดในวันนั้นๆ” ถึงแม้ในแต่ละวันเธอจะปรับเปลี่ยนการแต่งหน้าไปตามมู้ดของวันแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมในทุกๆ ลุคคือการใช้เบสเมกอัพที่บางเบาดูเป็นธรรมชาติอย่าง คุชชั่น Parure Gold จาก Guerlain

 

 

 

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย Violette (@violette_fr)

 

     จากไลน์รองพื้นเนื้อลิควิด ล่าสุด Parure Gold ได้ถูกพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นคุชชั่นที่ยังคงเอกลักษณ์ของรองพื้นผสมทองคำที่เลื่องชื่อในเรื่องเนื้อสัมผัสที่หรูหรา เบาสบายผิว และมอบฟินิชลุคดูโกลว์เปล่งประกาย “สูตรใหม่นี้ประกอบด้วยส่วนผสมของทองคำ 24 กะรัต เป็นสูตรแบบ 24-Hour Care และ 24-Hour Wear ที่ช่วยบำรุงพร้อมช่วยให้ผิวสวยตลอดวัน ทั้ง 3 องค์ประกอบรวมตัวกันอยู่ในตลับจิวเวอร์รีสีทองแบบเอ็กซ์คลูซีฟซึ่งเป็นสีที่สำคัญต่อตัวฉันมาก มันเป็นสีที่ประกายแสงได้ด้วยตัวเอง โดยเมื่อนำส่วนผสมที่ช่วยสร้างประกายให้กับผิวที่เรียกว่า Pearliser มาผสานเข้ากับสูตรของคุชชั่น จะช่วยให้ผิวดูโกลว์ การมีส่วนผสมนี้ประกอบอยู่จะช่วยสร้างงานผิวที่ดูเปล่งประกายแบบที่หลายคนชื่นชอบ” วิโอเลตอธิบายถึงคุชชั่นสูตรใหม่ พร้อมแชร์ทิปส์การลงคุชชั่นให้ดูเผยผิวในแบบฉบับของเธอ “ส่วนตัวฉันไม่ใช่แฟนคลับของรองพื้นที่มอบการปกปิดที่ดูหนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาใช้ฉันจะลงบนผิวค่อนข้างบางเบา แค่ให้พอเคลือบผิว โดยจะค่อยๆ เพิ่มการปกปิดในบริเวณที่ต้องการอย่างรอบดวงตาและรอบขอบปากเพื่อช่วยลบเงา สำหรับผิวของฉัน ฉันจะไม่ลงแป้งเลยเพราะเป็นคนที่มีผิวค่อนข้างแห้ง สำหรับผิวประเภทอื่น ฉันแนะนำให้ลงแป้งในบางบริเวณแบบพอเหมาะโดยยังคงเก็บความแวววาวเอาไว้บางส่วนเพื่อให้ผิวยังคงดูมีความเป็นผิวอยู่”

 

 

     วิโอเลตได้เสริมต่อถึงเทคนิคที่เรียบง่ายที่จะช่วยให้เมกอัพติดทนและไม่ดูเค้กตกร่องได้ง่ายระหว่างเมื่อต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นแบบประเทศไทยอย่างการค่อยๆ เลเยอร์เบสเมกอัพ “ถ้าอยู่กับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นสิ่งแรกเลยคืออย่าลงเมกอัพจนเยอะเกินไปค่ะ จริงอยู่ที่คุณสามารถใช้เบสเมกอัพเนื้อเข้มข้นในสูตรที่ติดทนนานได้ อย่างไรก็ตามฉันอยากแนะนำให้คุณพักผิวให้ได้หายใจบ้าง เพราะเหตุนี้คุชชั่นสูตรใหม่ของเกอร์แลงจึงตอบโจทย์มากๆ เพราะเราสามารถบิ้วท์เลเยอร์การปกปิดได้ตามที่ต้องการโดยที่ไม่ทำให้ฟินิชเมกอัพดูหนาเกินไป การลงแป้งเพื่อช่วยเซ็ตเมกอัพสามารถช่วยได้เช่นกัน หรืออาจใช้เป็นกระดาษซับมันช่วยซับความมันส่วนเกินในบ้างบริเวณออกแทนการใช้แป้ง คุชชั่นเป็นไอเท็มที่พกพาได้สะดวกจึงสามารถติดตัวไปด้วยได้ทุกที่เพื่อใช้ทัชอัพในระหว่างวันได้ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากถ้าอยู่กับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น” 

     

     คุชชั่น Parure Gold มาพร้อมส่วนผสมจากทองคำที่เข้มข้นกว่ารองพื้นสูตรลิควิดถึง 10 เท่า โดยผสานส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและแลดูอ่อนเยาว์ไปด้วยในขั้นตอนเดียว อีกทั้งมาพร้อมส่วนผสมของ SPF 40 and PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวในระหว่างวัน โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาสบายผิว มอบฟินิชแบบแมตต์แต่ยังคงให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ บรรจุมาในตลับสีทองเรียบหรูเป็นเอกลักษณ์ด้วยอักษรตัว G สลักด้านบน โดยมาในรูปแบบรีฟิลที่สามารถซื้อเติมได้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Guerlain ในเรื่องการช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม 

 

 

เรื่องและสัมภาษณ์: แก้วสิริ ศรีสำอาง