หากคลิกเข้ามาที่บทความนี้เชื่อว่าผู้อ่านคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ‘สารเติมเต็ม’ ที่คาใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นสารเติมเต็ม คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ใช้สารสำคัญอะไร เหมาะกับใคร และควรเลือกอย่างไรถึงจะปลอดภัยทำแล้วสบายใจ โว้กบิวตี้ขออาสาพาสำรวจหนึ่งในเทรนด์หัถตการยอดฮิตนี้ รวมถึงอัปเดตนวัตกรรมสารเติมเต็มล่าสุด จวบจนเหตุผลที่ทำไมประเทศผู้ผลิตถึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจก่อนโทรนัดรับบริการที่คลินิก

 

บทบาทของสารเติมเต็มในรูทีนการดูแลผิวในยุคปัจจุบัน

     ‘สารเติมเต็ม’ คือ หัตถการการเติมไฮยาลูโรนิก แอซิดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อช่วยยกกระชับบริเวณที่หย่อนคล้อย รวมถึงนิยมใช้ปรับรูปหน้าให้ดูสวยได้รูป ไม่ว่าจะจากปัจจัยของอายุที่เพิ่มขึ้น มลภาวะ ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ เช่น การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งหนึ่งในสัญญาณการร่วงโรยของผิวได้แก่ สูญเสียความยืดหยุ่น ดูหย่อนคล้อย มีริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ รวมถึงผิวหน้าที่ดูโทรมแห้งกร้านหรือบริเวณใต้ตาที่ขาดความกระชับ โดยบางครั้งการดูแลด้วยสกินแคร์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การเติมเต็มผิวด้วยสารเติมเต็มจึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลผิวให้ดูอิ่มฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในปัจจุบันสารเติมเต็มนั้นถูกผลิตออกมาให้เลือกหลากหลายแบบ โดยบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการผลิตสารเติมเต็มมายาวนานกว่า 20 ปี และปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก มากกว่า 100ล้าน ไซริงค์  ทั่วโลก** มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นตรงที่มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ โดยมีมากถึง 7 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับการแก้ไขปัญหาของแต่ละส่วนบนใบหน้าครบทั้งใบหน้า ตั้งแต่ บริเวณขมับ ใต้ตา แก้ม ร่องแก้ม ปาก คาง สันกราม รวมถึงการปรับคุณภาพผิว โดยคิดค้นมาให้สอดรับกับความต้องการของใบหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตนเอง

 

 

ทำไม ‘สารเติมเต็มอเมริกา’ ถึงมัดใจสายหัตถการ

     "สารเติมเต็มจากอเมริกา" ใช้เทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทำให้ได้สารที่มีคุณลักษณะเป็นเอกลักษณ์และมอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยสารเติมเต็มแต่ละยี่ห้อ แม้จะมาพร้อมไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) ที่เหมือนกัน แต่ก็มีเทคโนโลยี รวมถึงขั้นตอนในการผลิตและเทคนิคการเติมที่ต่างกัน จึงทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจุดเด่นของสารเติมเต็มอเมริกาหรือที่เรียกในแวดวงหัตถการแบบสั้นๆ ว่า “สารเติมเต็มเมกา” คือการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการผลิตและให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพ โว้กบิวตี้รวมลิสต์เหตุผลว่าไมควรเลือกสารเติมเต็มเมกามาฝากกัน

• มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดีจึงทนต่อการขยับของผิวหน้า ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังเติมเข้าผิวหน้า ผิวจะดูเรียบเนียน ไม่จับตัวเป็นก้อน
• ช่วยแก้ไขจุดที่มีปัญหาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และแก้จุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ปาก ร่องแก้ม หลังเติมเข้าสู่ผิวสามารถขยับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง

• ไม่ว่าจะอยากเติมเต็มหรือปรับรูปหน้าส่วนไหนก็ตอบโจทย์ โดยสามารถออกแบบแผนการรักษาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเพื่อช่วยให้ได้รูปลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะและผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลาย มากถึง 7 รุ่น ทำให้ตอบโจทย์กับรูปหน้าครบทุกมิติ
• สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ สามารถเติมใหม่ได้เรื่อยๆทั้งนี้ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานมากถึง 24 เดือน ไม่ต้องเติมบ่อย เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด
• เติมแล้วสบายใจเพราะปลอดภัย โดยได้รับการรับรองคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไทย (อย.ไทย) ,กรมควบคุมคุณภาพของยุโรป (EDQM) และ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA)

• ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูง โดยมีการออกแบบไซริงค์ที่มีรูปแบบพิเศษเฉพาะให้เหมาะกับมือของคุณหมอ ช่วยลดการออกแรงในการกดไซริงค์ฉีดยา ช่วยให้เนื้อเจลออกมาอย่างสม่ำเสมอ มอบประสบการณ์การรักษาที่ดีกับคนไข้ โดยไซริงค์ที่ใช้งานจะได้รับการตรวจสอบจากพนักงาน 40 คนก่อนออกจากโรงงานสู่ผู้บริโภค โดยปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 100 ล้านไซริงค์ทั่วโลก^**

มีเทคนิคการเติมและวิเคราะห์ออกแบบรูปหน้าของคนไข้เพื่อยกกระชับและฟื้นฟูใบหน้าด้วยสารเติมเต็มโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก ที่เรียกว่า เทคนิค “MD Code” เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์วางแผนการเติมจุดที่สำคัญและหลีกเลี่ยงจุดที่อันตรายบนใบหน้าของคนไข้แต่ละราย ได้อย่างเป็นระบบและถูกขั้นตอน โดยคำนึงถึงโครงสร้างใบหน้าโดยรวมของแต่ละเคสโดยเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อย่างปลอดภัยที่สุด

 

 

สารเติมเต็มยุคใหม่ช่วยออกแบบใบหน้าในฝันได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น

        ปัจจุบันสารเติมเต็มยุคใหม่มาพร้อมเนื้อสัมผัสที่ก้าวล้ำไปไกล โดยสามารถนำมาช่วยเติมเต็มผิวได้หลากหลายแบบ โดยเฉพาะสารเติมเต็มจากประเทศอเมริกาที่คิดค้นเนื้อของสารเติมเต็มมาให้เหมาะกับผิวหรือรูปหน้า รวมถึงเป้าหมายของการเติมเต็มที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ซึ่งบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากสหรัฐอเมริกามีเทคโนโลยีผลิตเฉพาะที่เรียกว่า  Vycross และ Hylacross ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะโดยเป็นการนำโมเลกุลของไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) มาเชื่อมต่อกันด้วยสารเชื่อม ทำให้ได้เนื้อเจลมีลักษณะพิเศษ อย่างเช่น เนื้อเจลจะยึดเกาะกันได้ดึงป้องกันการไหลไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ และเนื้อเจลมีความเรียบเนียนจึงมอบผลลัพธ์ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

 

 

เติมเต็ม ปรับ บูสต์

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าสารเติมเต็มในปัจจุบันมีตัวเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ทั้งในด้านการเติมเต็มผิว ปรับรูปหน้า ไปจนถึงบูสต์ความอิ่มฟูให้ผิวดูเรียบเนียน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ 

สายเติมเต็ม: สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาจากอายุที่มากขึ้น เช่น ร่องแก้ม ขมับ แก้ม ริมฝีปาก นิยมใช้สารเติมเต็มเนื้อสัมผัสนิ่มๆ กลางๆ ซึ่งจะทำให้รูปหน้ามีความเป็นธรรมชาติ

สายปรับรูปหน้า: สำหรับผู้ที่มีใบหน้าไม่สมส่วน เช่น คางสั้น หน้ากลมกรามไม่คมชัด นิยมใช้สารเติมเต็มเนื้อสัมผัสแข็งเพราะจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจน

สายบูสต์ผิว: สำหรับผู้ที่ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น หรือต้องการมีผิวสุขภาพดีเรียบเนียน บูสต์ความสดใสและอิ่มฟูให้ผิว นิยมใช้สารเติมเต็มที่มีเนื้อสัมผัสนิ่มที่สุด เพื่อให้เนื้อสัมผัสเรียบเนียนไปกับผิวหน้า

สารเติมเต็มนับเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์ต่อการฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย รวมถึงช่วยคืนความสดใสให้ใบหน้าดูเปล่งปลั่ง โดยเป็นหัตถการที่ไม่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจอยากลองสารเติมเต็มเป็นหนึ่งในตัวช่วยผิว แนะนำว่าก่อนเข้ารับบริการควรทำการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น พร้อมพิจารณาจากคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้บริการ และที่ไม่ควรมองข้ามคือที่มาของสารเติมเต็มที่ควรผ่านมาตรฐานระดับสากล ยุโรป (EDQM)  และ อเมริกา (USFDA) 

 

 

เครดิตอ้างอิง:
**ข้อมูลจากบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2004- เมษายน ปี 2022