LIFESTYLE

EURO 2020 ทัวร์นาเมนต์ที่มีมากกว่าฟุตบอล แต่คือพื้นที่ขนาดใหญ่ของการจุดประเด็นสำคัญทั่วโลก

ถ้าเปรียบเป็นภาพยนตร์การฟาดแข้งบนสังเวียนหญ้าคือพลอตหลัก แต่ทุกประเด็นที่เกิดขึ้นถือเป็นพลอตย่อยที่ทำให้ EURO 2020 สมบูรณ์แบบ

     มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลยูโรคือทัวร์นาเมนต์แข่งขันฟุตบอลระดับโลกของชาติชั้นนำทางลูกหนังจากทวีปยุโรป มีความยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงฟุตบอลโลกเท่านั้น แต่ฟุตบอลไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นประเด็นอันน่าพูดถึงในทัวร์นาเมนต์ล่าสุดนี้ เพราะในเชิงวัฒนธรรม การขับเคลื่อนทางสังคม และกระแสโลกต่างๆ ถูกนำมาพูดถึงและกลายเป็นเรื่องสำคัญที่น่าสนใจไม่แพ้การฟาดแข้งในสนามของซูเปอร์สตาร์ระดับโลก วันนี้โว้กจะพาไปชมว่ามีประเด็นไหนบ้างที่อีเวนต์กีฬาสามารถแตกหน่อให้เราได้สัมผัสเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากกว่ามุมของกีฬา

Pride Win!

Harry Kane สวมปลอกแขนกัปตันทีมสีรุ้งลงสนามในศึกฟุตบอลยูโร 2020 / ภาพ: The Independent

     การแข่งขันฟุตบอลแน่นอนว่าจะต้องมีกัปตันทีมและกัปตันนั้นก็มีสัญลักษณ์แสดงถึงตำแหน่งสำคัญ บ่งบอกสถานะให้แตกต่างจากผู้เล่น 10 คนที่เหลือด้วยปลอกแขน ซึ่งในยูโร 2020 นี้ปลอกแขนกัปตันทีมมีนัยยะสำคัญมากมายให้พูดถึง ก่อนหน้านี้ยูฟ่า (UEFA) หรือสมาสมฟุตบอลของทวีปยุโรปได้สนับสนุนคำว่า “Respect” เพื่อต่อต้านการเหยียดผิวและให้ความเคารพต่อทุกคน ในทัวร์นาเมนต์นี้มีการเพิ่มเติมความหลากหลายเข้าไปโดยมีทีมชาติหลายทีมเลือกยื่นเรื่องขอสวมปลอกแขนสีรุ้งเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ+ สืบเนื่องจากช่วงเวลาจัดการแข่งขันตรงกับเดือนมิถุนายนหรือ #PrideMonth พอดิบพอดี เห็นได้จากปลอกแขนของกัปตันทีมชาติเยอรมันอย่าง Manuel Neuer และกัปตันทีมชาติอังกฤษ Harry Kane แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ผู้ชายสามารถมีส่วนสำคัญเพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้องความเท่าเทียมได้ในจุดที่ตัวเองยืนอยู่เช่นกัน

Vaccinated Fans

บรรยากาศอันคึกคักของแฟนบอลเนเธอร์แลนด์ในสนามอัมสเตอร์ดัม อารีนา / ภาพ: Daily Union

     สำหรับประเทศแถบยุโรปส่วนมากได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่กันอย่างทั่วถึง ในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้จึงถือเป็นทัวร์นาเมนต์แรกหลังการแพร่ระบาดหนัก ซึ่งเราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของกองเชียร์จากชาติต่างๆ หลั่งไหลเข้าสู่สนามจำนวนมาก แม้จะไม่เต็มความจุแต่ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างมีคุณภาพ นับเป็นภาพความประทับใจที่สะท้อนผ่านหน้าจอให้เราได้รับชมกัน ผู้คนในทวีปยุโรปพร้อมออกมาปฏิสัมพันธ์อย่างเดิมอีกครั้ง เราก็หวังว่าประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกจะก้าวไปถึงจุดนั้นให้ได้เร็วที่สุด



WATCH




Cultural & State Conflict

David Alaba กัปตันทีมชาติออสเตรียต้องเข้ามาห้าม Marko Arnautovic ที่ฉลองประตูด้วยการสบถคำหยาบคายเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเชื้อชาติ / ภาพ: The New York Times

     ทวีปยุโรปถือว่ามีความหลากหลายมากพอสมควร ทั้งในเชิงวัฒนธรรมและการแบ่งเขตแดน ปัญหาเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา และการเมืองระหว่างประเทศมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และส่งผลถึงฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบนี้ ประเทศฮังการีเป็นประเทศที่เพิ่งผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่อง LGBTQ+ ในเชิงลบ ในขณะเดียวกันก็เป็นประเทศที่ไม่คุกเข่าแสดงการสนับสนุนความเท่าเทียมด้านชาติพันธุ์ก่อนเป่าเริ่มเกม ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญคือนักเตะชื่อดังของออสเตรียอย่าง Marko Arnautovic ที่สบถคำออกมาระหว่างฉลองประตูในเกม ออสเตรียพบกับนอร์ธ มาซีโดเนีย ซึ่งเบื้องหลังการกล่าวคำแย่ๆ ออกมาคือปัญหาความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติเซอร์เบียของเจ้าตัวกับพื้นเพเชื้อสายแอลเบเนียของคู่แข่ง เรื่องนี้ทำให้เขาโดนแบนไป 1 นัดพร้อมกับต้องออกมาขอโทษผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทันที โดยเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเชิงชาติพันธุ์เท่านั้น แต่เป็นปัญหาระหว่างประเทศที่มีการแตกตัวของรัฐยูโกสลาเวียในอดีต การแบ่งแยกดินแดนในช่วงต่อมา และความจงเกลียดจงชังแบบไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดจนถึงปัจจุบัน

New Normal but Original Fashion

Roberto Mancini กุนซือ(ขวาสุด) และสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติอิตาลี / ภาพ: The Telegraph

     แน่นอนว่าการเข้ามาเชียร์ฟุตบอลติดขอบสนามแฟนๆ มักจะสวมเสื้อทีมชาติของตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นแม้จะต้องเผชิญกับการกักตัวอยู่บ้านนานแรมปี แต่แฟนบอลยุโรปยังไม่ลืมวิถีการเข้าชมฟุตบอลและเชียร์ตามเมืองต่างๆ พวกเขาจัดเต็มเรื่องแฟชั่นการเชียร์ตามแต่ละประเทศอย่างชัดเจน เราได้เห็นหมวกไวกิ้งจากชาวสวีเดน การเพนต์ธงชาติต่างๆ สีสันอันจัดจ้านจากกองเชียร์ที่รวมกลุ่มกันจนเป็นเหมือนกลุ่มสีขนาดใหญ่ แต่ที่ขาดไม่ได้คือเครื่องแบบสุดเนี้ยบของโค้ชและทีมงานของอิตาลีที่ได้รับการสนับสนุนโดย Giorgio Armani เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันครั้งไหน ทีมชาติอิตาลีก็ยังคงเข้าป้ายในฐานะเจ้าแฟชั่นของโลกฟุตบอลอยู่เสมอ

Healthy, Sponsor, and Respectability

ช่วงเวลาแห่งประเด็นร้อนที่ Cristiano Ronaldo ย้ายขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมบนโต๊ะสัมภาษณ์ / ภาพ: Times of India

     อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสร้อนยาวนานหลายสัปดาห์คงเป็นเรี่องของซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่าง Cristiano Ronaldo ที่ปฏิเสธการตั้งขวดเครื่องดื่มอัดลมยี่ห้อหนึ่งไว้หน้าไมค์บนโต๊ะสัมภาษณ์และหยิบมันออกพร้อมพูดว่า “água” หรือน้ำเปล่าในภาษาโปรตุเกส เพราะเขาเลือกไม่ดื่มน้ำอัดลมและต้องการดื่มน้ำเปล่าเพื่อสุขภาพแทน แต่ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์มากมายเรื่องความเหมาะสมและการให้เกียรติสปอนเซอร์ เพราะสปอนเซอร์รายนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่ขับเคลื่อนให้ทัวร์นาเมนต์นี้เกิดขึ้นอย่างราบรื่น ทั้งนี้การกระทำของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ยังทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบตามมาจากนักเตะหลายคน อย่างเช่น Paul Pogba ก็เลือกหยิบขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังออก แม้มันจะเป็นสูตรแอลกอฮอล์ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีพฤติกรรมตรงข้ามเกิดขึ้นจนสร้างรอยยิ้มได้มากมายทั้งพูดแซว หยิบมาดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้โต๊ะสัมภาษณ์ของฟุตบอลยูโรมีสีสันขึ้นอีกเป็นกอง เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าผู้มีอิทธิพลเพียงคนเดียวสามารถสร้างแรงกะเพื่อมได้มหาศาล จนยูฟ่าต้องออกกฎพิเศษเพื่อรักษาสิทธิ์ของสปอนเซอร์ งานนี้ก็คงต้องชั่งน้ำหนักกันแล้วว่า สุขภาพ สปอนเซอร์ และความเหมาะสมจะหลอมรวมกันอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา

Football!

บรรยากาศการฉลองของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์อย่างคึกคักในเกมพบกับฝรั่งเศสที่แสดงให้เห็นทัวร์นาเมนต์นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่หลังยุคโควิด-19 ได้อย่างยอดเยี่ยม / ภาพ: Matichon

     สุดท้ายฟุตบอลก็เป็นเรื่องของฟุตบอล ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าเกมการแข่งขัน แม้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นทั้งในและนอกสนามมากมาย แต่เกม 90 นาทียังคงเป็นแก่นของยูโร 2020 ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ อาจเกิดขึ้นอีกตราบใดที่การแข่งขันยังไม่จบ ติดตามกันต่อไปว่าทัวร์นาเมนต์นี้จะมีอะไรให้เราพูดถึงกันอีกบ้าง อย่างน้อยยูโรครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้การแข่งขันฟุตบอลอาจเป็นความชื่นชอบของคนกลุ่มหนึ่ง แต่มันสามารถเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ให้ความเคลื่อนไหวด้านต่างๆ ของโลกมีโอกาสปรากฏชัดในสายตาคนทั่วไปอย่างเป็นรูปธรรม และนี่คือคำนิยามของวลีที่ว่า “เป็นมากกว่าฟุตบอล” อย่างแท้จริง

WATCH

คีย์เวิร์ด: #EURO2020