เรื่องราวของการสูญเสียและการจากลาอาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่อยากพูดถึงและไม่ต้องการที่จะพบเจอ ทว่าสิ่งเหล่านี้อาจใช้ไม่ได้กับหญิงสาวคนนี้อย่าง “Elvita Adams” หญิงสาวที่ต้องการก้าวสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่เธอกลับมีชีวิตรอดมาด้วยปาฏิหาริย์ที่น่าเหลือเชื่อ โดย เอลวิต้า หญิงผิวดำชาวบรองซ์ที่มีชีวิตสุดแสนจะธรรมดา หลายๆ คนที่รู้จักเธอในขณะนั้นต่างเล่าเรื่องของเธอให้กับสื่อฟังว่าเธออาจกำลังพบกับมรสุมชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการโดนไล่ออกจากงานอย่างกะทันหัน หรือแม้กระทั่งเงินสวัสดิการจากรัฐไม่เพียงพอในการประทังชีวิตของเธอ ทำให้เธอเลือกที่จะเดินทางมายังแมนฮัตตันเพื่อจบชีวิตตัวเอง

ภาพจาก historydefined.net
เรื่องราวของเอลวิตา อดัมส์ ได้รับความสนใจและเป็นข่าวแพร่ไปทั่วในฐานะ “ผู้รอดตายด้วยปาฏิหาริย์” เพราะเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ปี 1979 เอลวิตาได้เดินทางไปยังตึก Emprie State เพื่อยุติความทุกข์ของเธอ เธอเลือกที่จะเดินขึ้นบนชั้นที่ 86 ของตึก ก่อนจะปีนข้ามรั้วกั้นและกระโดดลงมา แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตามปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นกับเธอ ด้วยระดับความสูงที่มีลมแรงพัดผ่านทำให้ร่างของเอลวิตาที่กำลังลอยออกจากอาคาร โดนลมแรงพัดกลับเข้าตึกในชั้นที่ 85 ทำให้เธอรอดตายได้อย่างหวุดหวิด และทำให้เธอเป็นคนแรกที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุพลัดตกตึกที่เอ็มไพร์สเตต

ตึก Emprie State / ภาพจาก iloveny.com
ภายหลังการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ เอลวิตาก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่ได้จะมาเพื่อกระโดดตึกแต่อย่างใด เธอเพียงเยี่ยมชมความงามของแสงไฟในเมือง และต้องการคว้าพวกมันไว้เท่านั้น ภายหลังการรักษาร่างกายจากกระดูกเชิงกรานร้าวและอาการบาดเจ็บอื่นๆ เรียบร้อย เธอถูกส่งตัวต่อให้กับแผนกจิตเวชเพื่อรักษาอาการทางจิตของเธอต่อไป ปัจจุบันไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร แต่เรื่องราวของเธอยังได้รับความสนใจอยู่เสมอ ถึงขั้นถูกหยิบไปทำเป็นละครหญิงเดี่ยวโดย Ashley Lloyd Smith ภายใต้ชื่อเรื่อง "I've Been Elvita Adams"

#VogueFoodGuide เปิด 7 ไอเดียสร้างสรรค์เมนูอาหารคาว-หวานต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส!



