LIFESTYLE
กล้องใหญ่ไม่จำเป็น! รู้จัก “ส้ม ร็อกซี่” ช่างภาพสาวที่ถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มและโทรศัพท์มือถือเท่านั้น“ตอนนี้นอกจากเป็นแฟชั่นสไตลิสต์แล้ว ส้มเป็นช่างภาพด้วย แต่จะถ่ายรูปโดยใช้กล้องฟิล์มอย่างเดียว ถ้าเป็นดิจิทัลก็จะใช้มือถือเท่านั้น” |
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ ส้ม ร็อกซี่ เราคิดไปว่าเธอน่าจะเป็นนางแบบสายสตรีต แต่จริงๆ แล้วส้ม-ดวงพร นุรารักษ์เป็นแฟชั่นสไตลิสต์ที่ทำงานละเอียดจนแทบจะเป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ ที่บังเอิญถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มตามแบบได้สวยจน #SOMFILMSNAP ทำให้เธอมีโอกาสได้เป็นช่างภาพ และบังเอิญกำลังสนใจเรื่องเรกิ และกำลังฝึกฝนเพื่อเป็นเรกิมาสเตอร์พร้อมๆ ไปกับกำลังมีความสุขที่ได้ทำงานและเดินทางเป็นอย่างยิ่ง
“ตอนนี้นอกจากเป็นแฟชั่นสไตลิสต์แล้ว ส้มเป็นช่างภาพด้วย แต่จะถ่ายรูปโดยใช้กล้องฟิล์มอย่างเดียว ถ้าเป็นดิจิทัลก็จะใช้มือถือเท่านั้น แล้วก็เป็นที่ปรึกษาให้ Soho House จุดเริ่มต้นของการถ่ายรูปคือไปเทศกาลกล้องฟิล์มแล้วก็ถ่ายเล่น โพสต์บนโซเชียลมีเดียส่วนตัว ต้องบอกก่อนว่าส้มไม่ได้มีพื้นฐานการถ่ายภาพอะไรมากนะคะ เลยใช้กล้องฟิล์มพวกคอมแพกต์ที่ไม่ต้องปรับอะไรมากและง่ายสำหรับเรา ลองมาหลายตัว Leica ก็เคยลอง แต่ยังไม่ค่อยคุ้น ตัวปัจจุบันที่ใช้คือ Contax เพราะชอบความคอนทราสต์ของรูปที่ออกมา ทำให้มู้ดมันดูสนุกสำหรับส้ม แล้วมีพี่คนหนึ่งเห็น เลยชวนไปถ่ายแบ็กสเตจ จากนั้นก็ได้ถ่ายรูปลงในคอลัมน์ Club Culture ใน Cheese Magazine ได้ถ่ายลุคบุ๊ก ส้มได้รับโอกาสหลากหลายมาก ตั้งแต่ถ่ายคอลัมน์ให้นิตยสารจนถึงมิสยูนิเวิร์สและแฟชั่นวีกในต่างประเทศ”
1 / 2
2 / 2
WATCH
อย่างที่บอกว่าส้มเป็นสไตลิสต์มาก่อน รับงานหลากหลายรูปแบบ แต่คนมักจะนึกภาพว่าเธอเป็นสาวสายสตรีตเนื่องจากชื่อที่ใช้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าขอให้เป็นแค่ชื่อเถอะ เพราะว่าการเล่นเซิร์ฟกับเธอคงไปด้วยกันไม่ไหวจริงๆ และจากสไตลิสต์ที่ชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก ปัจจุบันส้มทำงานทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป และเธอขอบอกไว้ตรงนี้ว่า งานของเธอไม่ใช่งานเก๋ไก๋สวยงาม แต่เป็นการรับบทนางแบก เพราะไม่ว่าจะแบก หาม ตามหาของ ส้มทำเองคนเดียวหมด
“พูดกันตรงๆ งานของส้มคือกรรมกรนะคะ สำหรับสไตลิสต์คนอื่นส้มไม่ทราบแต่ส้มชอบที่จะต้องไปเห็นชุดเอง ก่อนถ่ายเตรียมงานและทำการบ้านเยอะมาก พรอปทุกอย่างเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ่าย 2 ลุคแต่ส้มจะมีเสื้อผ้าแล้ว 20 ชุด เตรียมให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ ผู้ช่วยคือแทบจะช่วยแค่หน้างานเท่านั้น ในขณะที่ถ้าเป็นงานถ่ายรูป เราแค่เตรียมฟิล์มเตรียมกล้องให้พร้อม ที่เหลือเราต้องไปเผชิญเอาหน้างาน แต่อย่างหนึ่งที่ส้มต้องทำก่อน ไม่ว่าจะทำงานอะไร ทำงานที่ไหน...ส้มจะไหว้เจ้าที่ก่อน (หัวเราะ)”
ตอนแรกเราก็หัวเราะไปพร้อมส้ม เพราะนึกว่าเธอเล่นมุก แต่วีรกรรมการตามหาศาลพระภูมิเจ้าที่อันแสนไกลตอนไปถ่ายภาพงานประกวดมิสยูนิเวิร์สยืนยันว่าส้มไม่ได้มูเล่นๆ “ไม่มีศาลก็ไหว้เจ้าที่ใต้ต้นไม้เอาค่ะ คือไม่ว่าเราจะเตรียมตัวมาดีขนาดไหน เผื่อขนาดไหน สุดท้ายก็ยังต้องการที่พึ่งทางใจ คงเหมือนหลายคนที่เชื่อเรื่องดวง เรื่องสีมงคลเชื่อหมอดู ส้มสนใจเรื่องพลังงาน เรื่องคริสตัลจนไปเรียนเรกิมาแล้วนะคะ จบเลเวล 1 แล้ว ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ แต่พอเขาอธิบายว่ามันก็เหมือนเวลาเราไปทำสปาแล้วรู้สึกผ่อนคลายเพราะบรรยากาศ หรือเวลาเรานั่งอยู่กับคนที่มีอารมณ์โกรธในห้องแล้วเรารับรู้มันได้ นั่นก็คือพลังงานเหมือนกันแล้วช่วงนี้รู้สึกเหมือนต้องการบำบัดตัวเอง เลยสนใจเรื่องนี้ค่อนข้างมาก หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นมาสเตอร์ที่สามารถช่วยบำบัดคนอื่นได้”
สำหรับคนที่สงสัยว่าถ้าอยากได้โอกาสแบบส้ม แค่เรียนจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แล้วใช้ชีวิตเก๋ๆ รอให้มีใครสักคนมาค้นพบพรสวรรค์นั้นก็พอแล้วใช่ไหม ส้มตอบทันทีว่าความพยายามและสร้างโอกาสให้ตัวเองต่างหากคือประตูที่จะเปิดกว้างให้โอกาสดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต
“ส้มไม่เคยรอ...ระหว่างเรียนก็ทำเทสต์ชุดส่งให้แมกกาซีนเมืองนอก ศึกษาอย่างดีว่านิตยสารที่เราอยากส่งให้ สไตล์ของเขาเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนมากจะมีข้อกำหนดว่าต้องยืมจากกี่แบรนด์ อย่างไรบ้าง เราต้องพยายามศึกษาแล้วสร้างงานที่ตอบโจทย์ แต่ถ้ายังไปถึงขั้นนั้นไม่ไหว โซเชียลมีเดียของตัวเองนี่แหละ ถ้าใช้ให้เป็นและสม่ำเสมอก็สามารถเป็นเครื่องมือที่จะเปิดโอกาสให้เราได้เหมือนกัน อีกส่วนก็คือต้องเตรียมตัวและสกิลของเราให้พร้อมเสมอ เมื่อไรที่โอกาสผ่านเข้ามา เราจะได้พร้อมรับและไปต่อได้ทันที”
ข้อมูล : Vogue Thailand
WATCH