ถ้าใครเป็นแฟนดิสนีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหญิงเบลล์กับเจ้าชายอสรูจากเรื่อง “Beauty and the Beast” และเป็นแฟนการท่องเที่ยวปราสาทในยุโรปตัวยงคงจะต้องมองหาปราสาทหลักต่างๆ จากดิสนีย์อย่างแน่นอน แต่ทว่าโลกแฟนตาซีกับโลกความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เกี่ยวโยงกันมากนักจึงทำให้สถานที่ในฝันของใครหลายคนอยู่ได้เพียงในฝันเท่านั้น วันนี้ความฝันของใครหลายคนกำลังจะเป็นจริงเพราะปราสาทที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแอนิเมชั่นอมตะเรื่องนี้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการแล้ว

ปราสาทของเรื่อง Beauty and the Beast ฉบับภาพยนตร์ / ภาพ: Michale Korte

     สถานที่ดังกล่าวชื่อว่า พระราชวังช็องบอร์ (Château de Chambord) ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำลัวร์ในช็องบอร์ จังหวัดลัวเรแชร์ ประเทศฝรั่งเศส โดย Sarah Greenword ผู้อำนวยการสร้างของกลุ่มซีรีส์ภาพยนตตร์ดิสนีย์ฉบับดัดแปลงเข้ามาดูสถานที่แห่งนี้ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานออกแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่น-มิวสิคัลปี 2017 อ้างอิงจาก Tyla เว็บไซต์บันเทิงสากลชื่อดัง หลังจากที่ซาร่าห์เข้ามาดูแล้วจึงมีการปรับเปลี่ยนตีความตามบทบรรยายต้นฉบับและสร้างสรรค์ออกมาเป็นอาณาจักรของเจ้าชายแบบที่เราเห็นกันบนจอเงิน สร้างความประทับใจให้กับแฟนดิสนีย์อย่างมาก

ภาพวาด Château de Chambord / ภาพ: P.Alix

     พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างสำหรับพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 โดยเริ่มสร้างในปี 1519 ช่วงเวลา 4 ปีให้หลังหลังจากกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสทรงเข้าพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ ความซับซ้อนของการออกแบบและขนาดอันใหญ่โต รวมถึงปัญหาเชิงเทคนิคในสมัยนั้นทำให้ใช้เวลาการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบนานถึง 28 ปี แต่ทว่าชาโตยิ่งใหญ่แห่งนี้ไม่เคยถูกใช้เป็นสถานที่พักอาศัยอย่างเป็นทางการจนกระทั่งในศตวรรษที่ 18 พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เคยเข้ามาประทับอยู่ช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะส่งต่อมรดกชิ้นนี้ผ่านสายเลือดจากรุ่นสู่รุ่นมาเรื่อยๆ ผ่านเหตุการณ์มามากมาย โฟกัสไปที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ชาโตแห่งนี้ตกเป็นของฝ่ายศัตรูของฝรั่งเศส หลังจากนั้นดยุกแห่งปาร์ม่าฟ้องร้องคืนกลับมาได้ และตกเป็นทรัพย์สินของรัฐฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1930 เป็นต้นมา

Château de Chambord มุมสูง / ภาพ Elementerre

     ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ไม่ได้น้อยหน้าพระราชวังดังๆ ในยุโรปเลยแม้แต่น้อย ด้วยจำนวนห้องกว่า 426 ห้อง สวนอันเขียวขจี วิวทิวทัศน์ สระน้ำ และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายทำให้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายการท่องเที่ยวสำคัญหากนักท่องเที่ยวเปิดใจออกจากตัวเมืองปารีสสู่แถบชนบท จะเรียกว่าเป็น “UNSEEN” เก่าแก่อีกแห่งของฝรั่งเศสก็ไม่ผิดนัก ถ้าใครวาดฝันเกี่ยวกับงานเทศกาลสำคัญของพระราชวังและอยากสัมผัสประสบการณ์โบราณเกินกว่า 300 ปี ที่นี่จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะทั้งกลิ่นอายสถานที่และรูปแบบของงานที่จัดถูกออกแบบมาได้ตรงตามบันทึกประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีการปรับบางอย่างให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นเล็กน้อย

ความยิ่งใหญ่ของ Château de Chambord สะท้อนผิวน้ำอย่างสาวยงาม / ภาพ: Ystory.fr

     ส่วนเรื่องกิจกรรมอื่นๆ ขณะเข้าชมนอกจากนักท่องเที่ยวจะเห็นสิ่งปลูกสร้างคุณภาพเยี่ยมจากศตวรรษที่ 16 แล้วยังมีกลิ่นอายย้อนยุคแบบยุโรปเช่นการนั่งรถม้าดั่งเจ้าหญิงฝรั่งเศส หรือถ้าใครมองหาสิ่งที่สูญหายไปจากโลกในทศวรรษ 2020s อย่างการสู้รบแบบ “Jousting” หรือนิทรรศการพิเศษของที่นี่ก็ตอบโจทย์การซึบซับความน่าสนใจของประวัติศาสตร์ได้แบบไม่รู้ตัว เมื่อหลุดเข้ามาในโลกฝรั่งเศสยุคเก่าของที่นี่แล้วรับรองว่านักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยจะต้องเสพความสุขในรูปแบบที่ต่างกันได้อย่างเต็มที่ เพราะพระราชวังช็องบอร์นั้นครบเครื่องจริงๆ

ภาพความยิ่งใหญ่หากมองผ่านสวนด้านหน้า / ภาพ: connexionfrance.com

     นอกจากความเก่าแก่และการผันเปลี่ยนสู่สถานที่ท่องเที่ยว พระราชวังช็องบอร์ยังกลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย เพราะที่นี่คือสถานที่ลับในการเก็บรักษางานศิลปะจำนวนนับไม่ถ้วนระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานศิลปะดังกล่าวนั้นรวมถึงโมนาลิซ่า สุดยอดภาพที่ตอนนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กลางกรุงปารีส หากไม่มีพระราชวังแห่งนี้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อาจขาดไฮไลต์ตลอดกาลไปเหมือนกัน เหตุผลนี้เองพระราชวังช็องบอร์จึงกลายเป็นสถานที่สำคัญของโลกตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้

อีกหนึ่งภาพความสวยงามของ Château de Chambord / ภาพ: bloischambord

     ใครสนใจเยี่ยมชมความสวยงามของสถาปัตยกรรม ย้อนรอยชีวิตสมัยอู้ฟู่ของฝรั่งเศส ซึบซับประเพณีในสมัยโบราณ และสัมผัสความเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์โลกของพระราชวังแห่งนี้ ห้ามพลาดเพราะตอนนี้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมแล้ว สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 12 ยูโรหรือแค่ประมาณ 400 บาทเท่านั้น นอกจากนี้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรีอีกด้วย ใครมีโอกาสไปเที่ยวฝรั่งเศสและหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวง เมืองช็อกบอร์ จังหวัดลัวเรแชร์ คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นี่น่าสนใจอย่างมาก แฟนดิสนีย์ยิ่งต้องห้ามพลาดเพราะเบลล์กับเจ้าชายอสูรก็ดำเนินเรื่องหลักกันที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยวย่อมมีเบื้องหลัง ยิ่งท่องเที่ยวยิ่งมีเรื่องราว และเรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้นคือสีสันที่คอยแต้มให้ชีวิตของมนุษย์สวยงามเสมอ...