***บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ And Just Like That***

 

     สิ้นสุดการรอคอยกันไปแล้ว สำหรับซีรีส์ภาคต่อ ‘And Just Like That’ ที่ลงจอฉายผ่านสตรีมมิ่ง HBO Go ไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยไฮไลต์สำคัญนอกเหนือไปจากประเด็นดราม่าต่างๆ นานา ที่ใครต่างรอคอยก็เห็นจะหนีไม่พ้นการกลับมาของเหล่าตัวละครสุดไอคอนิก ทั้ง Carrie Bradshaw, Miranda Hobbes และ Charlotte York ยกเว้นก็เสียแต่ตัวละคร Samantha Jones ที่หายไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อันเป็นผลกระทบมาจากดราม่าไม่ลงรอยกันในชีวิตจริงของนักแสดง

     ทว่าเมื่อพูดถึงตัวละครซาแมนธาขึ้นมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ตอนนี้ก็คือ บทซีรีส์กับที่มาที่ไปที่ตัวละครซาแมนธาต้องหายไปจากซีรีส์ภาคต่อ โดยในซีรีส์ตอนแรกที่ฉายไปแล้วนั้น บอกเล่าเอาไว้ว่า ตัวละครซาแมนธาเดินทางไปรับงานพีอาร์ที่ลอนดอน เนื่องจากธุรกิจการโปรโมตหนังสือให้กับแคร์รี่ แบรดชอว์ นั้นไม่ได้รุ่งเรืองอีกต่อไปแล้ว การจากไปของเธอครั้งนี้ ในซีรีสส์ฉายภาพให้เห็นว่าไม่มีการติดต่อกลับของซาแมนธากับเพื่อสาวอีก 3 คนของเธออีกเลยหลังจากนั้น ซึ่งแฟนคลับตัวยงหลายคนต่างลงความเห็นว่า เป็นการเขียนบทซีรีส์ที่ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ เนื่องจากหากใครก็ตามที่ติดตาม Sex in the City มาตั้งแต่ปี 1998 ปีแรกที่ซีรีส์ออกฉาย จะพบว่าความสัมพันธ์ของแก๊งสาวสี่คนนี้เป็นมากกว่าแค่ผลประโยชน์ หากเป็นความผูกพันแบบเพื่อนรักเพื่อนตายเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการเขียนบทเพื่อหาจุดลงให้ตัวละครซาแมนธาแบบนั้นจึงไม่น่ายอมรับสักเท่าไหร่

     กระนั้นการเปิดดู And Just Like That ของเหล่าแฟนคลับที่คิดถึงซาแมนธาก็ใช่ว่าจะต้องผิดหวังเสียเมื่อไหร่ แม้ว่าตัวละครดังกล่าวจะไม่ได้มาปรากฏตัวให้เห็น หากผู้กำกับ และคนเขียนบทก็ยังใจดีอยู่บ้าง อุทิศบางช่วงเวลาตลอดทั้ง 2 ตอนที่ออกฉายไปแล้วนั้นให้กับตัวละครนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเว้นที่นั่งไว้ให้เธอในฉากเปิดเรื่อง กับโต๊ะสี่ที่นั่งที่ทุกคนคุ้นเคย, บทพูดที่พูดถึงซาแมนธาอยู่ตลอดเวลา เรื่อยไปจนถึงช่อดอกไม้แห่งความห่วงใยจากซาแมนธาที่ถูกส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาปรากฏในซีนใหญ่สำคัญในตอนที่สอง ทั้งหมดนี้ก็พอจะบรรเทาความคิดถึงที่เราทุกคนมีต่อตัวละครซาแมนธาได้ไม่มากก็น้อย

     นอกจากเรื่องของตัวละครซาแมนธาแล้วนั้น อีกหนึ่งฉากสุดช็อกที่ทำเอาคนดูอึ้งกิมกี่ไปตามๆ กันก็คือ ฉากการตายของมิสเตอร์บิ๊ก สามีของตัวละครแคร์รี่ ผู้ชายที่เธอวิ่งตามหารักแท้มาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน การตายของบิ๊กนั้นเป็นฉากที่ไม่ได้มีอะไรหวือหวา จัดฉากให้ง่ายแสนง่ายอย่างที่เสียงพากษ์บอกเอาไว้ว่า “and just like that…Big died” ง่ายๆ แค่นั้น กับสาเหตุการตายด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน แต่เชื่อว่าแฟนคลับหลายคนคงต้องกดย้อนดูกันอยู่หลายรอบอย่างแน่นอน เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า

     กระนั้นหลังจากที่ซีรีส์สองตอนแรกพาเราทุกคนหักเลี้ยวไปแล้ว กับประเด็นการเสียชีวิตของบิ๊ก และข้อแก้ตัวของการหายไปของซาแมนธา สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนตั้งคำถามต่อไปหลังจากนั้นก็คือ “แล้วตัวละครแคร์รี่หลังจากไร้เงามิสเตอร์บิ๊ก จะกลับมาใช้ชีวิตโสดอีกครั้งในวัย 50 ปีอย่างไร”...

     บทเรียนชีวิตของหญิงวัย 50 อันแสนยากลำบาก ถูกถ่ายทอดผ่านบทซีรีส์ได้อย่างแยบยล แฝงเอาไว้ในทั้งบทพูด และการแสดงออกของตัวละครหลักทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น การหันมารับงานจัดพอดแคสต์ของแคร์รี่ แบรดชอว์ ในยุคที่หนังสือไม่ตอบโจทย์ยุคสมัยอีกต่อไป แต่เธอก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก และเราก็คงจะต้องติดตามดูกันต่อไป, การเข้าคลาสเรียนเกี่ยวกับวิชาสิทธิมนุษยชนของตัวละครมิแรนด้า ฮอบส์ ซึ่งเป็นตัวละครที่อายุมากที่สุดในห้องเรียนนั้น ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการปรับตัวให้เข้ากับเด็กๆ วัยรุ่นให้ได้ หรือแม้แต่การกลับมาเป็นโสดอีกครั้งของแคร์รี่ แบรดชอว์ ที่ยังคงเป็นข้อสงสัยของเหล่าสาวกว่าชีวิตของตัวละครตัวนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าติตดตามไม่น้อย เพราะในซีรีส์ 2 ตอนแรกเริ่มฉายให้เห็นภาพความยากลำบากในการข้ามผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้ของแคร์รี่ออกมาทีละนิดแล้วเช่นกัน

     ท้ายที่สุดแล้ว ผู้เขียนก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า การกลับมาของซีรีส์ ‘And Just Like That’ ที่เป็นซีรีส์ภาคต่อของ ‘Sex and the City’ นั้น ไม่ใช้ซีรีส์ขายฝันสำหรับหญิงสาววัย 30 ปีที่กำลังออกตามหารักแท้ หรือความฝันในเมืองใหญ่อีกต่อไป หากเติบโตขึ้นตามชีวิตตัวละคร และได้กลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่กำลังมองหาความหมายที่แท้จริงของชีวิตในโลกกว้างได้เปิดดู และติดตามชีวิตของพวกเธอไปจนจบ...