เปิดโพย 7 หนังสือ LGBTQ+ เพราะเรื่องของรสนิยมทางเพศไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด
หนังสือเหล่านี้ถือเป็นหนังสือที่มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมอันเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกเพศอีกด้วย
ในเดือน Pride Month นี้เป็นอีกหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของเหล่ากลุ่มผู้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทั้งในด้านโครงสร้างทางสังคมและด้านโครงสร้างทางกฎหมายมาอย่างยาวนาน ในบทความนี้โว้กจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ผ่านหนังสือทั้ง 7 เล่ม ที่สอดแทรกเนื้อหาของกลุ่ม LGBTQ+ ไว้ในหลากหลายมิติ
ภาพจาก voiceofsandiego.org
1. The Gay Revolution: The Story of the Struggle โดย Lillian Faderman
หนังสือเรื่อง “The Gay Revolution: The Story of the Struggle” โดยนักเขียนเชิงประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันอย่าง Lillian Faderman ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวแบบ Non-Fiction ที่ว่าด้วยการต่อสู้ของกลุ่ม LGBTQ+ บนผืนประวัติศาสตร์ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน โดยเนื้อหาในหนังสือจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ช่วงเวลา คือ
- ยุคก่อนการปฏิวัติ ยุคสมัยที่การเป็น LGBTQ+ เป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่ถูกยอมรับในสังคม
- ยุคการลุกฮือ ช่วงเวลาที่เหล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศออกมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม
- ยุคโรคเอดส์ระบาด ที่ทำให้สังคม LGBTQ+ ผูกมัดแน่นเข้าด้วยกันมากขึ้น เพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ อย่างเข้มข้น
- ยุคแห่งความก้าวหน้า ช่วงสมัยที่การยอมรับผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับมากขึ้น ทั้งในแง่สังคมและสิทธิตามกฎหมาย
- ยุคแห่งการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุด เล่าถึงช่วงปัจจุบันที่การต่อสู้ของเหล่า LGBTQ+ เพื่อความเท่าเทียมที่แท้จริงยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
นับเป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ชวนให้นักอ่านได้ทำความรู้จักกับเส้นทางประวัติศาสตร์ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
ภาพจาก cbs42.com
2. Love Wins: The Lovers and Lawyers Who Fought the Landmark Case for Marriage Equality โดย Debbie Cenziper และ Jim Obergefell
หนังสือเรื่องถัดมากับ “Love Wins: The Lovers and Lawyers Who Fought the Landmark Case for Marriage Equality” ผลงานของ 2 คู่รักเพศเดียวกันอย่าง “Debbie Cenziper และ Jim Obergefell” เป็นหนังสือที่สอดแทรกเรื่องราวการต่อสู้ในประเด็นสิทธิการแต่งงานของคนเพศเดียวกันในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเนื้อหาในหนังสือเป็นการบอกเล่าผ่านมุมมองของคู่รัก 32 คู่ที่เป็นโจทก์หลักในคดีนี้ ซึ่งทั้งสองนักเขียนได้บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ความรักของทั้งคู่ที่วาดฝันถึงงานแต่งงานของตัวเอง สู่การต่อสู้ในเชิงกฎหมายและสิทธิของคู่รัก LGBTQ+ รวมไปถึงความโศกเศร้าจากความสูญเสียและประเด็นเรื่องมรดกซึ่งเป็นส่วนที่เหล่าถึงผลลัพธ์จากการต่อสู้ในชั้นศาลของประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้นอกจากจะบอกเล่าถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิในการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน ยังเป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยห้วงอารณ์ที่ชวนให้คนอ่านสะเทือนใจ รวมถึงยังเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านมุมมองมองความรักของชาว LGBTQ+ หลากหลายคู่อีกด้วย
WATCH
ภาพจาก wikipedia.com
3. When We Rise: My Life in the Movement โดย Cleve Jones
“When We Rise: My Life in the Movement” โดย Cleve Jones หนังสือแนวอัตชีวประวัติของโจนส์ เด็กหนุ่มที่เกิดและเติบโตในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกเล่าตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กของเขาที่ต้องเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนา ก่อนที่จะค้นพบและนิยามตนเองว่าเป็น “เกย์” และย้ายไปใช้ ณ ซานฟรานซิสโกในช่วงปี 1970 ที่การเรียกร้องและขับเคลื่อนในสังคมผู้มีความหลากหลายทางเพศกำลังลุกฮือ ตลอดจนเล่าถึงเรื่องราวของความสูญเสียผู้คนรอบตัว จากการแพร่ระบาดของโรคเอดส์อีกด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นอีกหนึ่งเล่มที่ครบรส ทั้งการสร้างแรงบันดาลใจ ความตื่นเต้น และความโศกเศร้า ด้วยความครบครันเหล่านี้ทำให้หนังสือเล่มนี้ยังคว้ารางวัลคุณภาพอย่าง Lambda Literary Award และ National Book Critics Circle Award อีกด้วย
ภาพจาก Kangitanka บน Pinterest
4. The Men with the Pink Triangle โดย Heinz Heger
หนังสือเล่มถัดมากับ “The Men with the Pink Triangle” โดย Heinz Heger ซึ่งเขียนถึงหนึ่งในนักรณรงค์และนักต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมของเหล่า LGBTQ+ คนแรกๆ ในประเทศเยอรมันอย่าง “Josef Kohout” โดยเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เริ่มต้นตั้งแต่ชีวิตของโจเซฟในวัยเด็ก ก่อนที่จะค้นพบเพศวิถีของตนเองในช่วงทศวรรษ 1930 และถูกจับกุมคุมขังในค่ายกักกันนาซีที่เขาต้องเผชิญกับความโหดร้าย การถูกแบ่งแยก เหยียดหยามและทรมานเพียงเพราะเขาเป็นเกย์ ไม่เพียงเท่านั้นหนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าถึงช่วงชีวิตของโจเซฟที่ต้องทนทุกข์อยู่กับภาพจำอันเลวร้ายที่ได้พบเจอ ถึงแม้ชีวิตของเขาจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งอิสรภาพแล้วก็ตาม
นอกจากหนังสือเล่มนี้จะอัดแน่นด้วยเรื่องราวที่ชวนหดหู่เท่านั้น แต่ยังเป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่ถูกถ่ายทอดจากประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ทั้งยังเล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องฟันฝ่ากับความยากลำบาก เพื่อลบล้างแผลใจจากความโหดร้ายในค่ายกักกัน ตลอดจนการลุกขึ้นสู้เพื่อคอมมูนิตี้ของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศเยอรมันอีกด้วย
ภาพจาก glreview.org
5. Transgender Warriors: Making History from Joan of Arc to Dennis Rodman โดย Leslie Feinberg
หนังสืออีกหนึ่งเล่มที่เป็นเรื่องราวแบบ Non-Fiction อย่าง “Transgender Warriors: Making History from Joan of Arc to Dennis Rodman” โดย Leslie Feinberg หนังสือชวนให้เราได้สำรวจผืนประวัติศาสตร์ของเหล่าทรานส์เจนเดอร์ว่าพวกเขาหรือเธอไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น Joan of Arc หรือ Queen Nzinga ที่มีตัวตนอยู่จริง ตลอดจนการบอกเล่าถึงเรื่องราวของความเท่าเทียมและสิทธิของคนข้ามเพศตั้งแต่การจลาจล Stonewall จนเป็นจุดกำเนิดการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ในปัจจุบัน
นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของคนข้ามเพศที่เข้มข้นแล้ว หนังสือเล่มดังกล่าวยังสะท้อนในอีกแง่มุมของทรานส์เจนเดอร์ในอนาคตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับในสังคม ความรุนแรงต่อผู้ข้ามเพศ และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ นับเป็นหนังสืออีกหนึ่งเรื่องที่พาเราไปรู้จักกับอีกหนึ่งแง่มุมของผู้มีความหลากหลายทางเพศได้อย่างดี
ภาพจาก edu.svet.gob.gt
6. Crip Theory: Cultural Signs of Queerness and Disability โดย Robert McRuer
หนังสือเรื่อง “Crip Theory: Cultural Signs of Queerness and Disability” โดย Robert McRuer ศาสตราจารย์ด้านภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงซ้อนระหว่างความพิการและความหลากหลายทางเพศผ่านกรอบมุมมองทางวัฒนธรรมในสังคม บอกเล่าผ่านความสัมพันธ์ของทฤษฎีใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดหลักของทฤษฎี Crip, การศึกษาความพิการและทฤษฎีของกลุ่ม queer ตลอดจนการวิเคราะห์ผ่านวัฒนธรรมกระแสหลักที่มองข้ามหรือกีดกันผู้พิการและ LGBTQ+
โดยในหนังสือเล่มนี้โรเบิร์ตได้ศึกษาถึงความสัมพันธ์ของสังคม ผู้พิการ และผู้มีความหลากหลายทางเพศในแง่มุมที่ท้าทายมุมมองแบบเดิมๆ ที่เชื่อว่าความพิการและความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งที่ "ผิดปกติ" และควรได้รับการแก้ไข ซึ่งโรเบิร์ตก็ได้โต้แย้งผ่านงานเขียนของเขาว่า “ความพิการและความหลากหลายทางเพศ” เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายของมนุษย์และควรค่าแก่การเฉลิมฉลองไม่แพ้ความหลากหลายในแง่มุมอื่นๆ
ภาพจาก cjr.org
7. Real Queer America: LGBT Stories From Red States โดย Samantha Allen
ปิดท้ายด้วยหนังสือเรื่อง “Real Queer America: LGBT Stories From Red States” ผลงานการเขียนโดย Samantha Allen นักเขียนชาวอเมริกันที่หยิบยกเอาชีวิตของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กซึ่งถูกเรียกว่า “Red State” หรือรัฐแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อกันว่าไม่เป็นมิตรต่อกลุ่ม LGBTQ+ ประกอบไปด้วยเนื้อหา 5 ส่วนสำคัญ ตั้งแต่ประสบการณ์ชีวิตของผู้มีความหลากหลายทางเพศในพื้นที่เมืองเล็กๆ ของรัฐโอคลาโฮมา รัฐเท็กซัส รัฐโคโลราโด รัฐนอร์ทดาโกต้า และอนาคตของกลุ่ม LGBTQ+ ในอเมริกาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัฐแดงนั่นเอง ซึ่งหนังสือเล่มนี้นอกจากจะเหมาะกับคนที่ต้องการศึกษาถึงชีวิตของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเเล้ว ยังเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการทำความเข้าใจถึงวิถีชีวิตเพื่อการสร้างสังคมและพื้นที่ที่ปลอดภัยและเท่าเทียมอีกด้วย
หนังสือทั้ง 7 เล่มนี้ที่โว้กประเทศไทยได้หยิบยกมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือที่ขีดเขียนขึ้นผ่านเรื่องราวของผู้มีความหลากหลายทางเพศเท่านั้น เป็นหนังสือที่ชวนให้ผู้คนได้เข้ามาทำความรู้จักกับกลุ่ม LGBTQ+ ได้ในหลากหลายแง่มุม ทั้งยังเป็นหนังสือที่มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมอันเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนทุกเพศอีกด้วย
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH