LIFESTYLE

5 บทบาทการแสดงที่พิสูจน์ว่า Nicolas Cage เป็นนักแสดงยอดฝีมือ

ผลงานการแสดงที่บ่งบอกว่าเป็นยอดฝีมือแห่งฮอลลีวูด ไม่ใช่แค่ดาราหนังเกรดบีหรือเจ้าพ่อมีม...

       จากซุปเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ แห่งฮอลลีวูดในช่วงทศวรรษ 90 แต่อยู่ๆ กราฟชีวิตของ Nicolas Cage ก็ค่อยๆ ดิ่งลงด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เงินทองมากมายที่หามาได้นั้นหมดลงในเวลาอันรวดเร็วก่อนที่จะตามมาด้วยหนี้ก้อนโต ดังนั้นจากที่เคยรับงานแสดงในหนังฟอร์มยักษ์เป็นหลัก กลับกลายเป็นเขาต้องรับแทบทุกงานที่ติดต่อเข้ามาเพื่อหาเงินมาปลดหนี้ และส่วนใหญ่ก็เป็นงานแสดงในหนังเกรดบีเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้นับตั้งแต่ยุคมิลเลเนี่ยมเป็นต้นมา ภาพของนิโคลัสในหนังเกรดบีต่างๆ จึงเป็นภาพที่ผู้คนเห็นได้จนชินตาจนสิ่งนี้แทบจะกลายเป็นภาพลักษณ์ประจำตัวของเขา และพาลให้หลงลืมภาพการเป็นนักแสดงยอดฝีมือเบอร์ต้นๆ ไปเสียเกือบหมด

       อย่างไรก็ตามในปัจจุบันกราฟชีวิตของนิโคลัสก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้างเพราะเขากลับมามีงานแสดงในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะในผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง 'The Unbearable Weight of Massive Talent' ซึ่งมีโปรแกรมเข้าฉายในช่วงเดือนเมษายน 2022 ที่นิโคลัสได้แสดงให้เห็นว่าเขาข้ามผ่านช่วงเลวร้ายของชีวิตมาได้แล้วจริงๆ โดยในเรื่องนี้เขารับบทเป็นตัวเอง และเรื่องราวก็เป็นการล้อเลียนชีวิต Nicolas Cage ในช่วงตกต่ำออกมาในรสชาติคอมเมดี้แบบจัดเต็ม ดังนั้นเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะได้รับชม The Unbearable Weight of Massive Talent บทความนี้จะเป็นการทบทวนความจำว่านิโคลัสไม่ใช่แค่ดาราหนังเกรดบีและเจ้าพ่อมีม แต่เป็นอีกหนึ่งยอดฝีมือแห่งฮอลลีวูดด้วยบทบาทการแสดงคุณภาพเยี่ยมทั้ง 5 เรื่องนี้

Leaving Las Vegas (1995)

       หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่านิโคลัสเคยคว้ารางวัลออสการ์เมื่อย้อนกลับไปในปี 1995 ถึงแม้รายชื่อคู่แข่งคนอื่นๆ ในสาขานักแสดงนำชายจะมีแต่ระดับโหดหิน ไม่ว่าจะเป็น Anthony Hopkins, Sean Penn หรือ Richard Dreyfuss ทว่าสุดท้ายกลับเป็นนิโคลัสจากบทนำในภาพยนตร์เรื่อง 'Leaving Las Vegas' ที่ฝ่าด่านอรหันต์ คว้ารางวัลกลับบ้านได้สำเร็จ

       แน่นอนว่าไม่ใช่โชคช่วยหรือเรื่องบังเอิญ เพราะนิโคลัสในบทบาทของ Ben Sanderson ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้ล้มเหลวในชีวิต และเลือกที่จะปล่อยตัวเองให้เมาจนตายที่ลาสเวกัส ได้วาดลวดลายการแสดงอย่างน่ามหัศจรรย์ เขาค่อยๆ นำพาผู้ชมให้มีอารมณ์ร่วมกับตัวละคร โดยไล่ระดับไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ความสมเพชเวทนา เอาใจช่วย สงสาร และท้ายที่สุดคือหัวใจที่แตกสลาย หากใครอยากรับชมนิโคลัสในอารมณ์ดราม่าเข้มๆ Leaving Las Vegas คือตัวเลือกแรกที่ไม่ควรพลาด

Adaptation (2002)

       อีกหนึ่งผลงานการแสดงขอนิโคลัสที่ไปได้ไกลถึงการเข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายในปี 2002 ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ได้รับรางวัลกลับบ้าน แต่บทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่อง 'Adaptation' ก็ควรค่าแก่การยกย่องไม่แพ้กัน ความโดดเด่นแรกของนิโคลัสในเรื่องนี้คือการที่เขาต้องรับบทเป็นตัวละครถึง 2 ตัว ได้แก่ Charlie Kaufman และ Donald Kaufman ถึงแม้จะเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน แต่ก็มีบุคลิกและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันพอสมควร ซึ่งนิโคลัสสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการให้ผู้ชมรับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังแสดงเป็นตัวละครไหน โดยไม่ต้องมีบริบทอื่นใดมาขยายความเพิ่มเติม นอกจากนั้น Adaptation ยังเป็นภาพยนตร์ที่เปิดเรื่องมาด้วยความราบเรียบ ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่ระดับความตื่นเต้นเร้าใจขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งนิโคลัสคือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวของไดนามิกเป็นไปอย่างลื่นไหล



WATCH




Mandy (2018)

       ถึงแม้จะไม่มีรางวัลจากเวทีใหญ่มาการันตีเหมือน 2 เรื่องแรก แต่บอกได้เลยว่านิโคลัสในบท Red Miller จากภาพยนตร์เรื่อง 'Mandy' เป็นการแสดงที่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ยังคงตาตรึงใจผู้ชมอย่างไม่เสื่อมคลาย โดยเรื่องนี้กล่าวถึงเรื่องราวของ Red Miller ชายผู้ออกตามล่าแก้แค้นลัทธิคริสเตียนและแก๊งนักขี่มอเตอร์ไซค์ที่ฆ่าแฟนสาว และเผาเธอทั้งเป็นต่อหน้าเขา ดังนั้นตลอดทั้งเรื่องจึงเต็มไปด้วยความรุนแรง รวมถึงการแสดงออกแบบสุดโต่ง ซึ่งเข้าทางลีลาการแสดงในแบบฉบับนิโตลัสไปเต็มๆ ราวกับบทภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ 

Color Out of Space (2019)

     เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของนิโคลัสที่ยากจะมีใครเลียนแบบได้คือการที่ผู้ชมจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าตัวละครที่เขาสวมบทบาทในเรื่องนั้นจะดำเนินไปในทิศทางไหน เป็นตัวดีหรือตัวร้าย และกำลังจะทำอะไรต่อไป อาจเป็นเพราะประสบการณ์อันโชกโชนของเขาที่ผ่านมาแล้วแทบจะทุกบทบาท เมื่อนิโคลัสได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง 'Color Out of Space' ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวปลายปากกาของ H. P. Lovecraft ตำนานนักเขียนสายสยองขวัญ จึงเป็นส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว เนื่องจากจุดเด่นในงานของ H. P. Lovecraft คือการที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเรื่อง ความสยองขวัญมาในรูปแบบที่เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะหยั่งถึงได้ ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน ดังนั้นเมื่อนิโคลัสปรากฏตัวอยู่ใน Color Out of Space ผู้ชมจึงรู้สึกหวาดระแวงกับตัวละครของเขาอยู่ตลอดเวลา

Pig (2021)

       ผลงานเรื่องล่าสุด และเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนของนิโคลัสว่าเขากลับมายืนหยัดในฐานะนักแสดงยอดฝีมือแห่งฮอลลีวูดได้แล้วจริงๆ โดย 'Pig' บอกเล่าเรื่องราวของ Rob นักล่าเห็ดทรัฟเฟิลที่มีหมูคู่ใจรับบทโดยนิโคลัส เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและแก้เหงา แต่วันหนึ่งหมูสุดรักกลับโดนลักพาตัวไป เขาจึงได้ออกเดินทางเพื่อตามหาหมูคืนมาให้จงได้ หากฟังแค่พล็อตหลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นหนังคอมเมดี้ที่ล้อเลียน John Wick ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย เพราะ Pig มาพร้อมกับรสชาติดราม่าเข้มข้น และการแสดงของนิโคลัสที่เข้าถึงความเป็นมนุษย์ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้นำพาให้ Pig กลายเป็นภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยมที่ไม่ควรมองข้าม

ภาพ : Amazonaws, I0.wp, I1.wp, I.guim.co.uk, Sandiegoreader
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #NicolasCage