ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์น้อยใหญ่ทั่ววงการแฟชั่นหันหน้าเข้าหาการคอแลบอเรชั่นกันอยู่ตลอดในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยการสร้างความแปลกใหม่คือปัจจัยสำคัญในการดึงดูดผู้คนหันมาสนใจและขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ให้กว้างขึ้น โดยแบรนด์สัญชาติอเมริกันสุดคลาสสิกอย่าง Tommy Hilfiger ก็ไม่ปฏิเสธวิธีการดังกล่าว ล่าสุดแบรนด์จับมือกับดีไซเนอร์ชาวอังกฤษอย่าง Richard Quinn เพื่อสรรสร้างคอลเล็กชั่นแคปซูลร่วมกันภายใต้ชื่อ “Tommy Hilfiger x Richard Quinn”

     จุดเด่นของแบรนด์ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์คือการขับเสน่ห์ของแฟชั่นสไตล์ “Preppy” ให้ลื่นไหลไปในทุกยุคทุกสมัย ในขณะที่ของริชาร์ดคือการนำเสนอความขบถในแนว “Punk” และ “Kink” การจับมือกันครั้งนี้จึงเปรียบดั่งงานแต่งงานของตัวแทนวัฒนธรรมอเมริกันกับตัวแทนวัฒนธรรมรองจากสหราชอาณาจักร ซึ่งแนวทางทั้ง 2 แบบดูจะขัดแย้งกันอยู่ แต่เมื่อถูกจับมาคลุกเคล้าผสมผสานกันก็สามารถออกมาเป็นโปรเจกต์แฟชั่นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง และสิ่งสำคัญที่สุดคือทั้ง 2 ฝ่ายให้อิสระในการเลือกสรรเอกลักษณ์ของตัวเองเพื่อสอดแทรกอยู่ในชิ้นงานแต่ละชิ้นอย่างอิสระ คอลเล็กชั่นนี้จึงมีกลิ่นอายความคลาสสิกและจัดจ้านในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังหยิบเอาวัฒนธรรมต่างๆ จาก 2 ฟากมารวมกัน เช่น วัฒนธรรมพังก์ เชียร์ลีดเดอร์ กีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย

     คอลเล็กชั่นแคปซูลนี้ประกอบด้วยไอเท็มราวๆ 40 ชิ้น มีจุดเด่นคือซิลูเอตของริชาร์ดที่สร้างความประทับใจให้กับสาวกแฟชั่นมาแล้วทั่วโลก ที่ครั้งนี้ถูกนำมาผสมผสานกับแพตเทิร์นการตัดเย็บสุดคลาสสิกของทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ถ้าจะมีบอกว่าชุดของแบรนด์อเมริกันคลาสสิกจะมีชุดแมวหรือซิลูเอตประหลาดตาแบบนี้คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่วันนี้เกิดขึ้นแล้วกับโปรเจกต์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการแฟชั่นปี 2022 โปรเจกต์นี้ โดยทอมมี่ให้สัมภาษณ์กับโว้กอเมริกาว่าเขาชื่นชอบเสื้อแจ๊กเก็ตสไตล์ไบเกอร์ของคอลเล็กชั่นนี้เป็นอย่างมาก ส่วนริชาร์ดกล่าวว่าไม่สามารถเลือกชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้เลย เพราะเขารักแต่ละชิ้นในความโดดเด่นของตัวมันเอง และผลงานทุกชิ้นถูกสร้างขึ้นอย่างยอดเยี่ยม เขาถึงขั้นกล่าวว่า “มันสวยงามจากด้านในสู่ด้านนอก”

     กุญแจสำคัญของการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นแคปซูลครั้งนี้คือการเปิดใจ ทั้งคู่มีสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทว่าการเปิดใจสร้างสิ่งใหม่โดยการใช้ความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์มาหาจุดลงตัวนั้นสามารถสร้างผลผลิตด้านแฟชั่นที่ไม่มีใครคาดคิดได้แบบนี้ ในด้านการตลาดทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์สามารถดึงชื่อริชาร์ด ควินน์ให้ได้รับการจดจำในฐานะแบรนด์ระดับสากลมากขึ้น ในทางกลับกันแบรนด์อเมริกันคลาสสิกก็เปิดมิติมุมมองใหม่ให้ทุกคนเห็นว่าแบรนด์ไม่เคยหยุดนิ่ง นับเป็นอีกหนึ่งการคอแลบอเรชั่นที่มีความน่าสนใจและแตกต่างไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง