คนไทยได้อะไร...จากการมาเยือนเมืองไทยของ Naomi Campbell เพื่อช่วยรัฐบาลเฟ้นหานางแบบระดับโลก

     นับเป็นข่าวที่หลายคนจับตามอง สำหรับการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของซูเปอร์โมเดลระดับโลกอย่าง Naomi Campbell เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมาเพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ณ ตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีพันธกิจสำคัญในการเจรจาและหารือเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่ระดับโลก ผ่านการคัดเลือกนางแบบหน้าใหม่จากประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลไทยชุดนี้ต้องการส่งเสริมให้กลายเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญควบคู่ไปกับโครงการซอฟต์พาวเวอร์ หนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาบลพรรคเพื่อไทย

     การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของซูเปอร์โมเดล Naomi Campbell ปรากฏตัวในชุดผ้าทวีดลายตารางสีแดง จากแบรนด์ CHANEL คอลเล็กชั่นครูส ประจำปี 2023 โดยฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์คนก่อน Virginie Viard ซึ่งได้แรงบันดาลใจสำคัญมาจากการแข่งรถซึ่งเดินทางไปโชว์คอลเล็กชั่นดังกล่าว ณ โมนาโก

     (สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับนางแบบไทยบนเวทีโลกได้ที่ เปิดใจนางแบบไทยเพียงหนึ่งเดียวในแฟชั่นโชว์ CHANEL SS22 ที่กรุงปารีส 'แจน-ใบบุญ' เล่าเบื้องหลังกับโว้กประเทศไทย)

     อย่างไรก็ตาม ประเด็นของการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ Naomi Campbell เพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ยังสร้างเสียงวพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถาม ถึงแนวทางการปฎิบัติในการคัดเลือกนางแบบหน้าใหม่จากประเทศไทยเพื่อไปแจ้งเกิดบนเวทีโลกว่าจะออกมาเป็นเช่นไรต่อไป เพราะหากพูดกันตามความเป็นจริงต่อหน้าแล้ว แม้ว่ารัฐบาลจะมองเห็นศักยภาพในตัวคนในประเทศ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีที่ควรได้รับการสนับสนุน และคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ได้ไปแจ้งเกิดบนรันเวย์แฟชั่นระดับโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแล้ว ทว่าในการเดินทางไปทำงานเดินแบบในต่างประเทศนั้นไม่ได้ใช้แค่หน้าตาที่สะสวยหรือเอ็กซอติกเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องอีกมากมายที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงควบคู่ไปกับโครงการดังกล่าว...

     ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปลดล็อกพาสปอร์ตอันอ่อนแอของประเทศไทย เพราะหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศที่หากินกับอุตสาหกรรมอาชีพนางแบบนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่พากปอร์ตของไทยไม่อาจผ่านเข้าได้โดยไม่มีวีซ่า อีกทั้งสัญญาการจ้างงานในต่างประเทศที่ทำขึ้นเพื่อคนต่างชาติก็นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้รอบคอบด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องของรูปร่าง หน้าตา และบุคลิกภาพ ของนางแบบโลกที่หลากหลายและมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ก็อาจไม่ได้การันตีความสำเร็จโดยเร็ว และอีกมากมาย ที่มากกว่าแค่การเชิญให้ Naomi Campbell มานั่งไขว่ห้างเสริมบารมีและมอบของที่ระลึก ณ ตึกไทยคู่ฟ้า นั่นเองเป็นภารกิจที่รัฐบาลต้องวางแผนคิดและทำงานให้รอบด้าน เพื่อส่งเสริมศักยภาพคนไทยให้ไปถึงจุดแห่งความสำเร็จนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ในช่วงเวลาอีกราว 2 ปีที่เหลือนี้