Jonathan Anderson หัวเรือของ Loewe ออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังร่วมงานกันนานถึง 11 ปี

     ‘Jonathan Anderson’ นับเป็นดีไซเนอร์เนื้อหาที่สุดคนหนึ่งในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาสร้างสรรค์จักรวาล Loewe ให้เป็นพื้นที่ของความสดใหม่ ในขณะเดียวกันก็เชิดชูงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงสัญชาติสเปนเสมอมา เขาสามารถผสมผสานเรื่องความทันสมัย ถ่ายทอดผ่านแฟชั่นที่ทั้งเนี้ยบประณีต เปี่ยมเสน่ห์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนผลักดันให้โลเอเว่เป็นแบรนด์ระดับแถวหน้า ทั้งยังสร้างภาพจำความเก๋มีสไตล์ผูกประสานไปกับการเติบโตของแบรนด์อย่างน่าสนใจ เป็นเวลาร่วม 11 ปีกับการสร้างบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาให้กับโลเอเว่ ตอนนี้ถึงเวลาจากลาอย่างเป็นทางการ

     นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา เส้นทางของโจนาธานคือการมีเป้าหมายเพื่อสรรสร้างแฟชั่นอันยอดเยี่ยมภายใต้ชายคาโลเอเว่ (ในขณะที่ยังนำเสนออีกแง่มุมภายใต้แบรนด์ JW Anderson ของตนเอง) ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลงานของโจนาธานสร้างเทรนด์แฟชั่นรูปแบบใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เรื่อยไปจนถึงไลฟ์สไตล์และงานศิลปะ ดูเหมือนว่าโจนาธานคือบุคคลสำคัญของโลกแฟชั่นยุคใหม่ และเป็นดีไซเนอร์เนื้อหอมที่แบรนด์ระดับแถวหน้าต่างจับจ้องชนิดตาเป็นมัน

     การจากลาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการแฟชั่นและถือเป็นประเด็นที่นำมาสู่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพรวมเป็นอย่างมาก เพราะการขยับโยกย้ายของโจนาธานที่ไปพร้อมพลังความสร้างสรรค์และอิทธิพลของการหล่อหลอมมิติความสวยงามและเก๋มีสไตล์ในยุคปัจจุบัน โดยเขากล่าวว่า “เมื่อ 11 ปีก่อนผมได้รับโอกาสที่ยอดเยี่ยม โอกาสที่จะได้เขียนบทหน้าใหม่ในเรื่องราวที่มีอายุจนถึงตอนนี้กว่า 179 ปี ตั้งแต่วันแรกที่โลเอเว่ ผมสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงถึงสตูดิโอดีไซน์และอเตลิเยร์ ที่ซึ่งเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่เป็นสองรองใคร ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันงานคราฟต์” ประโยคถ่ายทอดความประทับใจของเขากับเมซง พร้อมเสิรมว่า “ตลอดระยะเวลามากกว่า 11 ปี ผมโชคดีที่รายล้อมด้วยคนที่เปี่ยมจินตนาการ ทักษะ ความคิด และการยืนหยัดที่แข็งแกร่ง พร้อมตอบรับกับไอเดียที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานของผม เมื่อมองกลับไปแบรนด์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากโชว์เดียวหรือแม้แต่ปีเดียวด้วยซ้ำ มันถูกสร้างขึ้นในทิศทางที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์อย่างช้าๆ ซีซั่นแล้วซีซั่นเล่า ปีแล้วปีเล่า”

     “หนึ่งในความสำเร็จที่ทำให้ผมภูมิใจที่สุดคือ ‘Craft Prize’ เราสร้างแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนและสร้างการมองเห็นสำหรับงานคราฟต์อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือปรมาจารย์เก่าแก่ รวมถึงไอเดียใหม่ๆ ผมอยากจะขอบคุณทีม ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกคณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญสำหรับการสละเวลาและความทุ่มเท” โจนาธานกล่าวถึงโมเมนต์ที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต นอกจากนี้ยังกล่าวถึงประสบการณ์ ณ โลเอเว่เพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่วันแรกผมตั้งใจจะสร้างสรรค์แบรนด์ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ไอเดียนี้ตั้งอยู่บนฐานของความไว้ใจและเอื้ออาทรของศิลปิน ช่างฝีมือ องค์กรมูลนิธิ พิพิธภัณฑ์ และแกลอรี่ ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนด้วยผลงาน ผมรู้สึกซาบซึ้งกับพวกคุณทุกคน” ก่อนจะปิดท้ายว่า “ขอบคุณสำหรับทุกคนที่สนับสนุนผมและวิสัยทัศน์ของผม รวมถึงทุกคนที่ทำให้โชว์ทุกโชว์เป็นไปได้ และเหล่าคนที่ปรากฏในแคมเปญ เขียนบทความ ซื้อผลิตภัณฑ์ หรือเพียงแค่กดไลก์โพสต์ คุณทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ เขาว่ากันว่าสิ่งดีๆ ต้องมาถึงจุดจบ แต่ผมไม่เชื่ออย่างนั้น ในขณะที่บทชีวิตของผมจบลง (ณ โลเอเว่) เรื่องราวของโลเอเว่จะดำเนินต่อไปอีกหลายปีต่อจากนี้ และผมจะเฝ้าดูด้วยความภาคภูมิใจ” – ด้วยรักจากโจนาธาน

     “ยังไม่มีเป้าหมายและยังไม่มีผู้ทดแทน” แม้จะเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการแฟชั่น แต่อนาคตของโจนาธานและโลเอเว่ยังไม่ถูกเปิดเผย ทว่ามีความเป็นไปได้ว่าเขาจะมุ่งหน้าสู่ Dior และสรรสร้างคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าบุรุษ ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 เป็นผลงานชิ้นแรก ในส่วนของดีไซเนอร์ที่เข้ามารับบทบาทมีชื่อของ Jack McCollough และ Lazaro Hernandez อดีตดีไซเนอร์ของ Proenza Schouler ตัวเต็งจ๋าที่ผู้เชี่ยวชาญและสื่อทั่วโลกต่างจับจ้องว่าจะมารับหน้าที่ผลักดันโลเอเว่ต่อไปในอนาคต ติดตามกันต่อไปว่าโจนาธานจะไปดิออร์จริงหรือไม่ และคู่แจ็กกับลาซาโร่จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จของโลเอเว่ตามคาด หรือจะมีม้ามืดสอดแทรกเข้ามาในสมการนี้ สาวกแฟชั่นห้ามพลาดเด็ดขาด

(อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมกับกระแสข่าวการเปลี่ยนแปลงดีไซเนอร์กับบทความ รวมทุกข่าวลือในโลกแฟชั่น! ดีไซเนอร์คนไหนกำลังจะโดนโละและเปลี่ยนตัวออกจากกระดานแฟชั่นบ้าง)