FASHION

เจฟ ซาเตอร์ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Valentino ในยุคเปลี่ยนผ่านโดย Alessandro Michele

จากการเป็นศิลปินและแขกคนโปรดของแบรนด์ Valentino ตั้งแต่ยุค Pierpaolo Piccioli ตอนนี้เจฟ ซาเตอร์เตรียมเดินหน้าไปพร้อมกับแบรนด์และดีไซเนอร์คนใหม่อย่าง Alessandro Michele

     จุดเริ่มต้นของกระแส ‘THAI POWER’ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่าศิลปินดาราและเซเลบริตี้จากประเทศไทยได้ปรากฏโฉมอย่างโดดเด่นและสร้างมูลค่าทางสื่อ พร้อมจุดกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องกับแบรนด์แฟชั่นระดับชั้นนำของวงการ ซึ่ง เจฟ-วรกมล ซาเตอร์ คือหนนึ่งในศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นและสามารถถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของตัวเองสู่ระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เจฟร่วมงานกับแบรนด์ Valentino มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคของ Pierpaolo Piccioli จนกระทั่งตอนนี้เขาได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการแล้ว


     ผลงานเพลง ‘BLACK TIE’ คือผลงานเพลงที่มีเบื้องหลังสอดคล้องกับแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปิแอร์เปาโล ดีไซเนอร์หัวเรือใหญ่ของแบรนด์ ณ ขณะนั้นออกแบบชุดสั่งตัดพิเศษให้กับเจฟเพื่อสวมใส่ในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ชื่อเพลงยังสอดคล้องกับคอลเล็กชั่นที่ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนรังสรรค์ขึ้นและจัดโชว์อย่างยิ่งใหญ่ช่วงปารีสแฟชั่นวีก สำหรับเจฟกับสถานะ Local Talent ที่เป็นที่โปรดปรานของดีไซเนอร์และแบรนด์เป็นอย่างมากทำให้หลายคนจับตามองว่าเจฟจะเดินหน้าต่อไปกับวาเลนติโน่ได้ไกลเพียงใด



WATCH




เจฟ ซาเตอร์ ร่วมชมโชว์ Pavillon des Foiles ณ ปารีสแฟชั่นวีก / ภาพ: Courtesy of Valentino

     การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน การเปลี่ยนผ่านสำคัญในปีนี้คือ Alessandro Michele ก้าวเข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ กุมบังเหียนแบรนด์วาเลนติโน่พร้อมเปลี่ยนแปลงมิติความสร้างสรรค์ไปเป็นคนละแนว โดยเขาหยิบยกเอาแรงบันดาลใจจากผลงานคลังเก่าของ Valentino Garavani ช่วงยุคต่างๆ มีตีความและสอดแทรกด้วยแนวทางแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงผลงานบนรันเวย์เท่านั้น ทว่ายังเปิดมุมมองให้เห็นถึงคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ในภาพรวมที่เปลี่ยนไป และนั่นรวมถึงแขกคนสำคัญต่างๆ ที่อเลสซานโดรขนทัพ ‘เพื่อนเก่า’ กลับมาร่วมในโชว์ครั้งแรกกันอย่างหนาตา ไม่ว่าจะเป็น Harry Styles และ Jared Leto เป็นต้น

     จากศิลปินคนโปรดและแขกคนสำคัญในยุคปิแอร์เปาโล เจฟเดินทางผ่านการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดีไซเนอร์คนใหม่เต็มรูปแบบ ช่วงเวลานี้เป็นดั่งหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเจฟจะเดินหน้าไปพร้อมกับวาเลนติโน่ในการแปลงโฉมยุคสมัยใหม่นี้หรือไม่ และแล้วจากการคาดการณ์ต่างๆ นานาก็มาถึงบทสรุป วาเลนติโน่ภายใต้การกุมบังเหียนของอเลสซานโดร แต่งตั้งให้เจฟเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ นับเป็นการเติบโตขึ้นอีกขั้นในแวดวงแฟชั่น และสะท้อนให้เห็นถึงพลังความนิยม รวมถึงสไตล์แฟชั่นที่สามารถลื่นไหลไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เจฟ ซาเตอร์ ถ่ายภาพร่วมกับ Alessandro Michele หัวเรือคนใหม่ของ Valentino หลังจบโชว์ Pavillon des Foiles / ภาพ: @jeffsatur

     การร่วมงานของเจฟและวาเลนติโน่ในยุคใหม่ย้อนกลับไปตั้งแต่การบินลัดฟ้าสู่กรุงปารีสเพื่อชมโชว์ Pavillon des Foiles หรือโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 โชว์รันเวย์ครั้งแรกของอเลสซานโดร หลังจากเผยคอลเล็กชั่น Avant Les Débuts มาแล้วในรูปแบบลุคบุ๊ก โดยเจฟในฐานะแขกคนสำคัญได้ปรากฏตัวอย่างโดดเด่นท่ามกลางแขกทั้งเก่าและใหม่จำนวนมาก นอกจากนี้เมื่อกลับจากโชว์ดังกล่าวเจฟก็ยังร่วมงานกับแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานพรีวิวคอลเล็กชั่นแรกของอเลสซานโดรอย่างเป็นทางการ ณ สยามพารากอน หลังจากนั้นไม่นานก็มีประกาศการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งสำคัญปิดท้ายปลายปีอย่างสวยงาม เชื่อว่าปีหน้ากับบทบาทแบรนด์แอมบาสเดอร์ เราจะเห็นเจฟโลดแล่นไปพร้อมกับวาเลนติโน่ในยุคสมัยของอเลสซานโดรแน่นอน


     “สำหรับผมแฟชั่นคือความสนุกสนานและการสนับสนุนแนวคิดที่ว่าความงามนั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งและหลากหลาย การที่ผมได้มาเป็นส่วนหนึ่งของวาเลนติโน่ และการสร้างสรรค์ของอเลสซานโดร มิเคเล่ทำให้ผมได้เห็นว่าความงามนั้นอยู่ในทุกๆ รายละเอียด ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้และได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของวาเลนติโน่” เจฟ ซาเตอร์กล่าวถึงการได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้ ชมภาพจากเซ็ตการประกาศตำแหน่งสำคัญเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

1 / 3



2 / 3



3 / 3



WATCH