FASHION

Christian Lacroix ถูกซื้อกิจการแบบเบ็ดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์จากบริษัทสิ่งทอสัญชาติสเปน

Sociedad Textil Lonia หรือ STL เข้าซื้อแบรนด์ Christian Lacroix พร้อมกุมอำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จ เตรียมเดินหน้าบนเส้นทางแฟชั่นในยุคใหม่ต่อไป

ภาพ: Courtesy of Christian Lacroix

     เมื่อพูดถึงแบรนด์ Christian Lacroix เชื่อว่าสาวกแฟชั่นพันธุ์แท้หลายคนคงหวนย้อนกลับสู่มิติความงดงามอันทรงพลังและมีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นตั้งแต่ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ในชื่อเดียวกับตนเองนำเสนอความยอดเยี่ยมของเมซงแห่งนี้ช่วงยุค 1980s ถึงประมาณยุค 1990s (แบรนด์ก่อตั้งปี 1987) ทว่าช่วงหลังแบรนด์ห่างหายและตัดขาดจากกระแสแฟชั่นยุคใหม่ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีธรรมชาติของการผันเปลี่ยนที่ผันผวนไปจากยุคสมัยอันรุ่งเรือง ทำให้ตอนนี้แบรนด์กำลังมุ่งสู่เส้นทางใหม่พร้อมเจ้าของแบรนด์ที่มากุมอำนาจเบ็ดเสร็จแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

แคมเปญสุดท้ายช่วงปลายปี 2024 ของแบรนด์ Christian Lacroix ก่อนจะถูกเข้าซื้อกิจการโดย STL ในช่วงต้นปี 2025 / ภาพ: Courtesy of Christian Lacroix

     Sociedad Textil Lonia (STL) บริษัทสิ่งทอสัญชาติสเปนคือผู้เข้าซื้อกิจการแบรนด์คริสเตียน ลาครัวซ์แบบเบ็ดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มีสิทธิ์ครอบครองและควบคุมแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสที่โด่งดังและทรงพลังอย่างมากในช่วงยุค 1980s ต่อเนื่องจนถึงยุค 1990s อย่างเด็ดขาด โดยทาง STL ระบุว่าถึงความโดดเด่นของแบรนด์คริสเตียน ลาครัวซ์ว่าเป็นแบรนด์ที่ผูกโยงเรื่องปรัชญาการออกแบบและงานฝีมือได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกล่าวในประกาศการซื้อกิจการว่า “เราชื่นชมวิสัยทัศน์ ความมหัศจรรย์ และงานฝีมือของเมซง ลาครัวซ์ ดังนั้นเมื่อมีโอกาส เราก็พร้อมรับมัน”

     “เราจะสร้างความมั่นใจว่าเอกลักษณ์อันโดดเด่นและผลงานอันล้ำค่าของเขาต่อที่มีโลกแฟชั่นจะบรรลุถึงศักยภาพสูงสุด” STL ระบุเพิ่มเติมถึงแนวทางการพัฒนาเมซงลาครัวซ์ที่เป็นดั่งตำนานหน้าหนึ่งของโลกแฟชั่นให้ดำเนินกิจการไปในอนาคตอย่างมีเป้าหมาย โดยทางบริษัทก็ได้ติดต่อกับดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์โดยตรงก่อนที่จะมีประกาศคว้าสิทธิ์ในชื่อตัวเองและอาร์ไคฟ์ของแบรนด์ทั้งหมด “เรา (คริสเตียนและครอบครัวผู้เป็นเจ้าของ STL) น่าจะได้พบกันอย่างไม่เป็นทางการในอนาคตอันใกล้” เขากล่าวกับ Vogue Business

ช่วงสุดท้ายของโชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2009 ที่ Christian Lacroix ออกมารับเสียงปรบมือเป็นครั้งสุดท้าย / ภาพ: Condé Nast Archives (Vogue Runway)

     สำหรับแบรนด์คริสเตียน ลาครัวซ์โดดเด่นอย่างมากในช่วงยุค 1980s ถึง 1990s อย่างที่กล่าวไป ภายใต้การกุมบังเหียนของคริสเตียนเอง เขารังสรรค์ผลงานระดับโอตกูตูร์และงานฝีมือชั้นยอดจำนวนมากเสิร์ฟโลกแฟชั่นมาเป็นเวลานานนับทศวรรษ โดยถือเป็นแบรนด์ภายใต้กลุ่มเครือ LVMH ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากแบรนด์หนึ่ง การที่วัฏจักรแฟชั่นจะเล่นงานและก้าวสู่ขาลงในช่วงยุคมิลเลนเนียล เขาสร้างสรรค์ไลน์การผลิตที่หลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้าโอตกูตูร์ เรดี้ทูแวร์ ยีนส์ เครื่องหนัง จิวเวลรี และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมขยายตลาดด้วยการเปิดบูติกไปตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก

     จนกระทั่งในปี 2005 ก็ถึงคราวที่ LVMH ขายกิจการของแบรนด์สู่ Falic Fashion Group และถือเป็นการเปลี่ยนมือครั้งแรกจนนำไปสู่การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ช่วงท้ายในชีวิตการเป็นดีไซเนอร์แบรนด์ตนเอง คริสเตียนจัดโชว์โอตกูตูร์ด้วยแพสชั่นอันยิ่งใหญ่ และมาโค้งคำนับปิดท้ายโชว์ครั้งสุดท้ายในโชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2009 ตอนนี้แบรนด์กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ภายใต้การกำกับดูแลของ STL ซึ่งทางบริษัทระบุอีกว่า “เรากำลังใช้เวลาอันมีคุณภาพเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นด้วยความระมัดระวัง” แต่ยังไม่มีการระบุรายละเอียดแน่ชัด ทั้งทิศทางของแบรนด์ที่เป็นรูปธรรมหรือแม้แต่ชื่อดีไซเนอร์ที่จะรับตำแหน่งผู้กุมบังเหียนของเมซงระดับไอคอนแห่งนี้ สาวกแฟชั่นคงต้องติดตามกันต่อไปว่าคริสเตียน ลาครัวซ์กำลังจะเดินไปในทิศทางใด เวลาคือสิ่งที่จะเป็นคำตอบในสมการการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างแน่นอน



WATCH




WATCH