FASHION
#VogueTrends คัมภีร์รวมเทรนด์หลักแห่ง Fall/Winter 2017นี่คือคัมภีร์รวมเทรนด์หลักแห่งฤดูกาล Fall/Winter 2017 ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายต้องรีบอัพเดตให้ด่วน! |
1 / 13
Free Spirit
อิสรเสรีแห่งจิตวิญญาณที่ถ่ายเทไปสู่เสื้อผ้าหน้าผมอย่างสนุกสนาน นี่คือยุคใหม่ของการแสดงตัวตน
ภายใต้แอตติจูด ก็นี่คือฉัน! กลั่นกรองออกมาเป็นสไตล์สดใหม่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ หลอมรวมทุกสิ่งที่ไม่เข้ากัน
(ให้เข้ากัน) เสมือน Journal บันทึกการผจญภัยหลากสีสันจากทั่วทุกมุมโลกไว้บนผืนผ้า โดยประทับตรา
More Is More ผ่านเทคนิคและซิลูเอตมากเลเยอร์ ดังที่เห็นจากงานแพตช์เวิร์กกลิ่นอายหรูหราของ
Dolce & Gabbana หรือจะเลือกเริงร่าในร่างสาวยิปซีจอมซ่าแบบ Gucci ก็ไม่ผิดโจทย์
2 / 13
The Warmest Red
ภารกิจดับลมหนาวด้วยสีแดงเพลิงประจำฤดูกาลนี้ที่ถูกเหล่าดีไซเนอร์ยกมาถล่มรันเวย์น้อยใหญ่
ทั่วทุกสารทิศ มอบดีกรีความฮอตขั้นสุดแก่บรรดาหญิงสาวผู้หนาวเหน็บ เนื้อผ้าจะหนาสู้ลมหรือบางเบา
พลิ้วไหวกลับมิใช่ประเด็น เพราะไม่ว่าจะฮอตแหวกอกแบบ Chloé และ Jason Wu หรือฮอตพอเป็นพิธี
อย่าง Fendi ยัน Giambattista Valli ก็สามารถปลดปล่อยอณูพลังสุดเซ็กซี่ไปดับหนาวสู้กับ
โค้ตผ้าวูลคอเฟอร์จาก Emporio Armani ได้อย่างสบายมาก
3 / 13
DENIM DREAMS
ชั่วโมงนี้ต้องหลีกทางให้กระแสอมตะ Double Denim (การใส่ยีนส์แบบแพ็กคู่ทั้งท่อนบนและท่อนล่าง)
ที่กลับมายึดครองเมืองอีกครั้ง เปิดฉากด้วยความคูลฉบับมินิมัลกับโค้ตเดนิมฟอกสีดำจาก
The Row ที่เสริมรับกับชุดเดนิมสุดคลาสสิกสไตล์ Calvin Klein Collection และ A.P.C. ได้เป็นอย่างดี
หรือจะแทรกดีเทลขี้เล่นอย่างการปักเม็ดมุกบนเดนิมโดย Paul & Joe ก็เก๋ไก๋พอกันกับงานสกรีนลาย
สุดเท่ระดับพระกาฬที่เห็นใน Off-White และ Dior
4 / 13
Shearling the Day
สวมวิญญาณนักล่าสาวประจำฤดูหนาวแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยแจ็กเกตหนังแกะ Shearling ที่มีดีทั้งแบบ
ดั้งเดิมเหมือนกับรันเวย์ Saint Laurent และ Coach 1941 หรือจะเผยโฉมอย่างสร้างสรรค์แบบ J.W.Anderson
(ที่ถูกรื้อโครงใหม่เป็น Shearling เข้าชุดสุดเก๋) บ้างก็ถูกดัดแปลงเป็นโอเวอร์โค้ตตัวยาวแบบ Balmain ให้อารมณ์เท่ละมุนตา หรือไม่ก็ถูกฟอกสีให้สวยเจิดจ้าอย่างที่เห็นจากชิ้นเด่นของ Vionnet และ Zimmermann
5 / 13
Noir et Bleu
ดำดิ่งสู่ความลุ่มลึกของโทนสีสุภาพอย่างดำและน้ำเงิน คู่ดูโอ้ที่เปรียบเสมือนส่วนผสมระหว่างความเรียบโก้
และความดุดันอันนำสมัย ผลลัพธ์คือภาพลักษณ์ใหม่ของบรรดาอิสตรีหัวโมเดิร์นผู้แข็งแกร่ง ประเภทนักสู้
หน้านิ่งผู้ไม่ยอมจำนนให้ใคร แต่ยังดำรงไว้ซึ่งความถ่อมตนอย่างเยือกเย็น ทั้งหมดทั้งมวลถูกตีความ
ด้วยการจับคู่เทกซ์เจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างวูลเนื้อหยาบกับผ้าไหมเนื้อเบา
หรือแม้กระทั่งหนังเงางามที่ตัดกับผ้ากำมะหยี่สุดคลาสสิก
6 / 13
Happy Furry Friends
ขอต้อนรับการกลับมาของแก๊งเพื่อนเก่า (ประจำซีซั่น) อย่างขนเฟอร์ที่นอกจากจะมอบความอบอุ่น
พร้อมโททัลลุคปุกปุยสุดชิกแล้ว ยังถูกเติมแต่งไปด้วยมิติใหม่ของเหล่าเทกซ์เจอร์และคู่สีแสนสนุก
มีทั้งงานไล่เกรเดียนต์สีจากบนลงล่าง จนถึงงานคอลลาจสีตัดสไตล์ป๊อปอาร์ต หรือแม้แต่สีแบบ
“ข้ามาโทนเดียว” ก็ยังถูกจับโยนมาให้บังเกิดเป็นลุคสุดปังบนรันเวย์ นับว่าเป็นอีกหนึ่ง
เมเจอร์เทรนด์น่ากอดที่สลัดความหดหู่ของหนาวนี้ไปได้เป็นปลิดทิ้ง
7 / 13
SACRED URSULA
เมื่อแม่มดปลาหมึกม่วง Ursula ขอพักยกความ Bad แห่งดินแดนใต้สมุทรเอาไว้ก่อน มาจำแลงเป็น
สาวใสใจสะอาดเพื่อลิ้มลองรสชาติความเป็นมนุษย์ (ตามแบบเงือกน้อย Ariel) บนรันเวย์ฤดูกาลนี้
จึงปกคลุมไปด้วยโทนสีม่วงสไตล์เออร์ซูลา! ทั้งม่วงอ่อน ม่วงเข้ม ทั้งฉาบกากเพชรและประดับพู่
หรือนี่คือใบเบิกทางที่เป็นดั่งสีสัญลักษณ์ของหญิงสาวยุคมิลเลนเนียลแนวใหม่ผู้เต็มไปด้วย
ความรุ่มรวย เย่อหยิ่งแบบพอดี ฟุ้งฝันในเรื่องแฟนตาซี และร้ายกาจในยามจำเป็น
8 / 13
The Nightingale
ไม่มีอะไรจะสวยสง่าไป
กว่าการห่อหุ้มร่างกายในฤดูหนาวด้วยขนนกอัน
พลิ้วไหว รันเวย์ลุคในซีซั่นนี้จึงมีพื้นที่ให้เหล่าขนนก
กระจอกเทศได้โชว์ฟอร์มกันอย่างเฉิดฉาย ขอให้นึกถึงภาพสาวสังคมร่วมสมัย
ในงานกาล่านั่งจิบมาร์ตินี่ด้วยมาดนางพญาในชุด
เดรสเลอค่าที่ฟุ้งฝันไปด้วยกลิ่นอายเฟมินิน เรียกได้ว่านี่คือลุคของนางเอกประจำค่ำคืนยุคใหม่ที่สามารถกล่อมราตรีกาลให้หวาน
ชื่นใจ ดั่งนกไนติงเกล
ตัวน้อยในยามค่ำคืน
9 / 13
Mint CONDITION
สวยสายเขียวเกาะกระแสโลกคือความออร์แกนิกที่ก้าวเข้ามารับบทบาทสำคัญ (ตามบัญญัติแห่งวิกฤต Global Warming)
แต่ความเขียวในหนนี้กลับสดใสและใหม่กว่าเดิม เพราะไม่ว่าจะเขียวสวยสดแบบ
สเปียร์มินต์ใน MSGM หรือจะเขียวเย็นๆ สไตล์เปป-เปอร์มินต์อย่าง Mulberry และ Miu Miu ก็สร้างความชื่นตาและชื่นใจได้ดีไม่แพ้กัน ส่วนอีกหนึ่งเขียวที่น่าสนใจคือเขียวฉ่ำแบบ Double Mint รสใหม่ดังที่เห็นบนรันเวย์ Sies Marjan
10 / 13
BEST BLANKET
ถ้าหนาวมากก็ห่มผ้าซะ!
จัดเป็นฤดูกาลที่เหล่าดีไซเนอร์พร้อมใจกันสร้างเทรนด์ “ผ้าห่มหนีหนาว” อุทิศให้แก่สาวๆ ที่ต้องการความอบอุ่นในระดับแมกซ์
ไม่ว่าจะหนาวนิดหน่อยแบบ Chanel หนาว
ค่อนข้างมากอย่าง Sonia Rykiel หรือจากที่เห็นใน Rick Owens นั่นเรียกว่าซูเปอร์หนาว ไอเดียขำขันที่ก่อเกิดเป็นซิลูเอตแนวใหม่คลอดลุคอุ่นเก๋ๆ แบบไม่ได้
ตั้งใจ นี่คือยุคของการเล่นใหญ่ (และอย่าได้แคร์สายตาใคร) ก็มันหนาวจะให้ทำไง...แนะให้หาผ้าห่มติดตัวไว้ก่อนเป็นดี
11 / 13
FANTASTIC PLASTIC POWER
แนวคิดสุดฮิปจากชาว Mods และกระแสมาแรง
ของทศวรรษ 1990
ถูกผสมผสานกันอย่าง
สนุกสนาน ชี้ชวนให้เหล่า
สาวน้อย (และใหญ่) หัวใจ
บับเบิลกัมมาร่วมสนุกกับ
บรรดาเทรนด์พลาสติกแห่งอดีตกาล (ในภาคอนาคต) เพิ่มเติมคือลูกเล่นของ
ความเอดจี้ เลเยอร์อย่างมี
ชั้นเชิง และดีเทลคราฟต์เหนือความคาดหมาย อารมณ์เหมือนช่วงพักเบรกจากเหล่าสงครามแห่งสไตล์ รับมือความเย็นกันแบบสบายๆ ด้วยโมเมนต์สวยใสในเวอร์ชั่นพลาสติก
12 / 13
Dear Nasa
“ท่องไปบนดวงดาว ก้าวลงบนดวงจันทร์ แต่เราคงพบกัน...ด้วยยานของเวลา” สาวๆ จาก Chanel อาจเป็นแกนนำในการฮัมเพลง พบกันบนดวงดาว ประจำฤดูกาลนี้ ที่ว่าด้วยการ
เดินทางท่องอวกาศของ
คนแฟชั่นที่ยกขบวนสีเงินเมทัลลิกแวววาวมาประชันกันให้วิบวับไปหมด เริ่มจากชุดสะเก็ดดาวของ Saint Laurent ที่ส่องแสงเหมือนดวงดาวเรือนล้านบนทาง
ช้างเผือก ไปจนถึงเงินเหลือบๆ
โดย Christopher Kane
ที่เก๋ไก๋ดั่งถูกเคลือบไว้ด้วยสารกัมมันตรังสี
13 / 13
BLACK MAGIC WOMAN
ขุมพลังมนตร์ดำแห่งอำนาจอันเย้ายวนที่ถูกร่ายเวทขึ้นใหม่โดยกลุ่มแม่มดประจำศตวรรษที่ 21 เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ ลึกลับน่าค้นหา แต่แฝงไว้ด้วยเวทมนตร์แห่งจันทราซึ่งถ่ายทอดผ่านเหล่าสัญลักษณ์อย่างดวงดาวและพระจันทร์เสี้ยว
บ้างก็อาศัยเพียงซิลูเอต
กรุยกรายแบบยุคกลางสร้างลุคสีดำเจ้าเสน่ห์
ได้อย่างชาญฉลาด เผยเนื้อหนังบางส่วนให้พอสวยดั่งความงามของ
จันทคราส จัดเป็นเทรนด์ต้องคำสาปที่จะอยู่คู่กับรันเวย์ไปอีกนานแสนนาน
WATCH