FASHION

คุยกับ ผู้พันเบิร์ด หัวหน้าชุมโจรในหนังไทยฟอร์มยักษ์ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์!

แม้แต่สารพัดเสือยังต้องก้มหัวให้หัวหน้าชุมโจรผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคกลาง

พูดคุยกับ พันเอกวันชนะ  สวัสดี (ผู้พันเบิร์ด) กับการรับบทเป็น เสือฝ้าย ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “ขุนพันธ์2” เจ้าของสโลแกน “บารมีของเสือฝ้ายยิ่งใหญ่เหนือทุกอิทธิพล แผ่ขยายอำนาจไปทั่วทั้งสุพรรณบุรี แม้แต่สารพัดเสือยังต้องก้มหัว คือ หัวหน้าชุมโจรผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคกลาง”

 

อยากให้ผู้พันเบิร์ดพูดถึงท่านขุนพันธ์ว่าโดยส่วนตัวรู้จักท่านในมุมไหนอย่างไร

ผู้พันเบิร์ด ผมรู้จักขุนพันธ์ในด้านประวัติศาสตร์ของภาคใต้ และก็รู้ว่าท่านเป็นตำรวจที่มีคุณธรรม ตามล่าโจรอะไรอย่างนี้ครับ  รวมถึงมีเครื่องรางของขลังดังมาอยู่ช่วงหนึ่ง อันนั้นคือเป็นสิ่งที่ผมรู้จักแต่ว่าประวัติศาสตร์จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จัก แต่พอหลังจากที่ดังขึ้นมาแล้วผมก็ไปอ่านประวัติ

 

 

 

ส่วนตัวรู้สึกอย่างไรกับคำว่าคาถาอาคม

ผู้พันเบิร์ด สำหรับผมเองผมให้คำจำกัดความคำว่าคาถาอาคมเหมือนกับเป็นคุณธรรมประจำใจ เป็นสิ่งที่เป็นเกราะคุ้มกันคือเราต้องทำความดี เราถึงจะพ้นความอันตรายต่างๆได้ คาถาเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ จะเป็นการท่อง หรือแม้การสักยันเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วที่มันหลุดรอดผ่านพ้นตรงนั้นมาได้เพราะว่าคุณงามความดีที่ทำ รวมถึงการฝึกฝน และก็การฝึกซ้อมที่มาก  มันทำให้เกิดพุทธานุภาพ ฤทธานุภาพ ขึ้นมาได้นะครับ

 

 

 

บทบาทคาแรคเตอร์ของเสือฝ้ายที่ผู้พันเบิร์ดต้องสวมจิตวิญญาณถ่ายทอดออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

ผู้พันเบิร์ด  สำหรับเสือฝ้าย ก็เป็นเสือที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์จริง ในเรื่องนี้เป็นเสือที่มีบารมีสูง มีอำนาจด้วย ก็จะถ่ายทอดทางภาพยนตร์ เช่น มาจากคำพูดของคนอื่นๆที่บอกเสือฝ้ายว่าเป็นจอมพลฝ้าย เป็นพ่อฝ้าย ครูฝ้าย เป็นพี่ฝ้าย สิ่งเหล่านี้มันบอกคาแรคเตอร์ในภาพยนตร์เป็นอย่างดี ก็แสดงให้เห็นว่าเสือฝ้ายเป็นทุกอย่างของคนในชุมชนนั้น เสือฝ้ายต้องเป็นคนที่เด็ดขาด คือหมายถึงว่าเวลาออกปล้นฆ่าก็คือฆ่าไว้ชีวิตก็คือการไว้ชีวิต มีความเป็นลูกผู้ชาย แต่ในเรื่องนี้จะมีจุดพลิกผลันในตัวละครของเสือฝ้ายพอสมควร ที่ มันมีเหตุผลของตัวละครตัวนี้ที่ซับซ้อนพอสมควร และก็ทำให้ผมต้องละเอียดมากขึ้นกับการที่จะศึกษาตัวเสือฝ้ายให้ดี

 

 

 

ในขณะที่ขุนพันธ์มีอาคมของขลัง หนังเหนียว กำพรางตัว แล้วเสือฝ้ายมีอาคมอะไร

ผู้พันเบิร์ด เสือฝ้ายมี 2 อย่างเลย อย่างแรกคือ รอยสักทางด้านหน้า ที่เป็นช้างเอราวัณ ก็จะมีพลัง เหมือนกับมีพลังช้างสาร แต่ในทางด้านหลังเรามีท้าวเวสสุวรรณ  ซึ่งมันเป็นพุทธานุภาพที่ทำให้แคล้วคลาดจากพวกคุณไสย มนต์ดำอะไรพวกนี้ครับ ป้องกันตัวเองจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง ที่จะถูกเข้ามาใส่ตัวมีทั้ง 2 อย่างนี้ก็น่าจะอยู่ยงคงกระพันแล้วแหละ

 

ในขุนพันธ์ภาค2 เราจะได้เรื่องราวใหม่ๆ ตัวละครใหม่ ๆ ได้เห็นความแตกต่างจากภาคแรก เราได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง ขุนพันธ์กับ2เสือคู่ปรับ เสือฝ้าย เสือใบ และการเข้ามาร่วมเป็น1ในเสือของขุนพันธ์ อยากให้ผู้พันเบิร์ดเล่าให้ฟัง

ผู้พันเบิร์ด อยากจะพูดถึงขุนพันธ์ก่อน คาแรคเตอร์น่าสนใจตรงที่ว่าเขาต้องเข้ามาอยู่ในชุมชนโจรของเสือฝ้าย มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงคาแรคเตอร์บางอย่าง แต่ขุนพันธ์ก็ซับซ้อนไปกว่านั้นเพราะเขาเป็นตำรวจเขาต้องมาจับโจรสิ แต่กลับกลายมาเป็นโจรซะเอง อะไรมันเป็นจุดพลิกผันของตัวเขา ในขณะที่เขาเข้ามาอยู่กับเสือฝ้าย มันก่อเกิดความเป็นมิตรภาพ  รักกันเหมือนพี่น้องร่วมสาบาน  จุดเปลี่ยนของภาพยนตร์นี้จะมีอะไรบ้าง นี่คือความยากของขุนพันธ์ ส่วนเสือใบเขามีความสนุกสนานในคาแรคเตอร์ของเขา คนจะรู้สึกผ่อนคลายสนุกครบรส เสือใบเป็นคนที่เสือฝ้ายไว้ใจมากที่สุด ใครจะเข้ามาอยู่ที่นี่ก็ต้องได้รับความเห็นชอบของเสือใบก่อน เหล่านี้ผมว่ามันเป็นการไว้ใจซึ่งกันและกัน มันรักและไว้ใจกันได้แบบนี้ มันตายแทนกันได้ ในขุนพันธ์ 2 เรามีขุนพันธ์ที่เป็นเสือบุตร์สามเสือมาอยู่ด้วยกัน ผมว่าทางการเอาไม่อยู่ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้นอกเหนือจากสามเสือ แล้วมันดันมีตำรวจที่ใช้คราบของตำรวจแต่จริงๆแล้วมันเป็นโจร  อันนี้น่ากลัวกว่า

 

 

 

ด้วยความเป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่น พีเรียด แฟนตาซีมีอาคมต่างๆ รวมไปถึงการขี่ม้า ยิงปืน หนักใจอะไรมั้ย

ผู้พันเบิร์ด  สำหรับฉากแอคชั่น ฉากขี่ม้าของผมไม่มีปัญหาเลย เป็นสิ่งที่ชอบเลย เหมือนได้กลับไปได้รับเอาความรู้สึกเก่าๆในการขี่ม้า วันที่ผมไปถ่ายครั้งแรกผมก็จำได้ว่าผมขี่ม้าตัวที่ผมเคยขี่ และก็ซ่อมมัน เพื่อให้มันจำได้ว่าจำได้มั๊ยน้ำหนักแบบนี้ หมายความว่าผมรู้ว่าครั้งต่อไปผมต้องขี่ตัวนี้อีกในอนาคตของการถ่ายทำเรื่องนี้ครับ ผมจะขี่ และให้มันจำผมได้ว่าจำไว้นะผมเนี่ยที่ชื่อเสือฝ้าย ต่อไปนี้เจอน้ำหนักแบบนี้ ใช้ขาแบบนี้คุณต้องเชื่อผมนะ ม้าที่ผมขี่ชื่อโต้เลนเต้ ทุกครั้งที่ขี่เนี่ย ม้ามันจะมีความฉลาด การจำน้ำหนักการจำกลิ่น เราก็ปลอบโยนให้อาหารเราก็ขี่แบบทะนุถนอมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องปืนไม่เป็นปัญหาครับ อาจจะเป็นปืนยาวที่เราไม่คุ้นเคย ปืนลูกซองบ้างอะไรอย่างนี้ เพราะว่าคุ้นชินอยู่ในเรื่องของอาวุธ เรื่องของการแอคชั่นการออกกำลังกาย สำหรับขุนพันธ์ 2 ด้วยคาแรคเตอร์ของผมสักมาขนาดนี้มันก็เลยมีการนำเสอนทั้งในแง่ฤทธานุภาพ พุทธานุภาพ หลายอย่างมาก  ดังนั้นมันจะนำเสนอในเรื่องของการดวลกันด้วยเวทย์สยบด้วยคาถาแล้วล่าหัวกันด้วยอาคม

 

 

ดีกรีความเข้มข้นของแอคชั่นซีนนี้ของภาพยนตร์เห็นว่าถึงไหนถึงกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่วันแรกฉากแรกที่เปิดตัวเสือฝ้าย ผู้กำกับโขมก็จัดเต็มเลย

ผู้พันเบิร์ด สำหรับในฉากแรกที่ผมเข้าเลย มันเป็นการที่ไม่ต้องทำอะไรเยอะแต่รู้ได้ว่าเสือฝ้ายโหด  วันแรกมานี่ให้ผมยิงบาซูก้าใส่พวกญี่ปุ่นที่ทำร้ายคนไทย ทรมานคนไทย  นั่งรถคลาสสิคมาแบบชิลๆแสดงว่าคาเรคเตอร์ของเขาคงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะใช้อาวุธหนักขนาดนั้น เขาเด็ดขาดและก็เลือดเย็น ในขณะเดียวกันมันมีฉากหนึ่งที่เราประชุมพวกเสือด้วยกัน  เพื่อที่จะไปออกปล้นเหมือนจะไปล้างแค้น ก็มีความเหี้ยมอยู่ในสายตาและคำพูด  ได้เห็นถึงการชิงความเป็นใหญ่ในละแวกภาคกลาง มันต้องเหี้ยมคิดการใหญ่ใจต้องเด็ด เสือมันมีคุณสมบัติออย่างหนึ่งคือเวลาที่มันเจ็บมันไม่ให้ใครรู้หรอกแต่มันจะกลับไปเลียแผลของมันในถ้ำ แต่เมื่อไหร่ที่เสือออกมาจากถ้ำแล้วจะรู้ว่าเสือโหดและดุ

                                                                                                                                                       

อยากให้พูดถึงผกก. ก้องเกียรติ โขมศิริ ร่วมงานกับพี่โขมเป็นอย่างไรบ้าง

พี่เบิร์ด  :  พี่โขมเป็นคนทำงานเร็ว และก็เป็นคนที่แม่นช็อตซีนต่างๆ บางทีรู้เลยว่าตัดแค่นี้ผ่านแล้ว อยากบอกกับพี่โขมว่า ถ้ามีโอกาสอยากร่วมงานกับพี่โขมอีก  เป็นคนที่ชัดเจนมากทำให้เราทำงานแม่นและง่าย  นักแสดงก็ไม่เหนื่อยนะ รู้ว่าสิ่งสำคัญของช็อตซีนต่างๆมันคืออะไร ถ้าต้องเอา ! เขาก็ไม่ยอมนะถ้าสิ่งต่างๆที่เขาต้องการเขาก็ไม่ยอม แต่บางอย่างมันไม่ใช่สิ่งสาระสำคัญ เขาก็ยอมได้

 

 

 

มีซีนไหนที่ชอบหรือประทับใจเป็นพิเศษมั้ย

ผู้พันเบิร์ด เป็นซีนเล็กๆซีนหนึ่งที่สาบานเป็นเพื่อนกัน เรารู้สึกได้ว่าเรารักอนันดานะ รักเป้ คือมันเหมือนเป็นเพื่อนกันจริงๆ รู้สึกได้ มันเป็นซีนที่เรานั่งล้อมวงกันสาบานต่อหน้าองค์พระพุทธรูปใหญ่ในโบสถ์วัด เราจะเป็นเพื่อนกันเราจะไม่หักหลังกัน มีสุขก็ร่วมสุข มีทุกข์ก็ร่วมทุกข์  ดื่มน้ำร่วมสาบานกรีดเลือดลงไป คนดูจะรู้สึกว่าไม่อยากให้มันเกิดอะไรขึ้นกับสามคนนี้เลย  ผมเองผมยังรู้สึกแบบนั้นเลย แต่ผมก็ไม่บอกว่าปลายเรื่องมันจะเป็นยังไง และก็ซีนเล็กๆอีกซีนหนึ่งคือผมเล่นอยู่คนเดียว

 

 

ถ้าในชีวิตจริงเลือกใช้คาถาอาคมได้ ผู้พันเบิร์ดอยากมีคาถาอาคมอะไร

ผู้พันเบิร์ด  พลังช้างสารนี่แหละ คือผมคิดว่าคนเราเวลาที่มันอยู่ในชีวิตจริงๆ อยู่ยงคงกระพันไปบางครั้งอาจจะไม่มีความสุข โดยเฉพาะถ้าเป็นเสือจริงๆมันฆ่าคนมามากเขาก็คงไม่อยากอยู่ยงคงกระพันหรอก  ถ้าเลือกได้จริงอยากจะเลือกพลังช้างสารของเราใช้ในสิ่งที่มีประโยชน์เยอะๆช่วยเหลือคน พลังมันจะทำให้เราคิดจะทำอะไรได้อีกหลายๆอย่าง

 

เตรียมพบการกลับมาของมือปราบหนังเหนียว ดวลด้วยศรัทธา ล่าด้วยอาคม ใน  “ขุนพันธ์ 2”  23 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

 

เรื่อง: มานิตย์ มณีพันธกุล

ภาพ: ธาเกียรติ ศรีวุฒิชาญ, สหมงคลฟิล์ม

 

WATCH