VOGUE SCOOP | Y/Project จากเส้นทางอันรุ่งโรจน์สู่การเปิดศักราช 2025 ด้วยการปิดตัว

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในโลกแฟชั่นตลอดปี 2024 หนึ่งในข่าวที่คนให้ความสนใจเกี่ยวกับแบรนด์ Y/Project ที่เพียบพร้อมด้วยไอเท็มแฟชั่นอันน่าดึงดูดและกระแสนิยมจากคนแฟชั่นทั่วโลกกลับมีทิศทางการเดินหน้าที่น่าแคลงใจ และเปิดศักราชใหม่ในปี 2025 แบรนด์ก็ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ทิ้งไว้เพียงตำนาน 14 พี่ที่โลดแล่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นด้วยการแทรกซึมเข้าสู่แฟชั่นกระแสหลัก การสร้างบรรทัดฐานของตัวเอง รวมถึงการขับเคลื่อนไปกับเทคโนโลยียุคใหม่ วันนี้ #VogueScoop จะพาย้อนกลับสู่เส้นทางของแบรนด์ที่เกิดขึ้น เติบโต และลาจากโลกนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

• THE FOUNDER

ประเด็นแรกที่ต้องพูดถึงสำหรับวายโปรเจกต์คือการก่อตั้งที่เกิดขึ้นและไม่ได้รับการจดจำเท่าที่ควร โดยตัวอักษร ‘Y’ ในชื่อแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์หมายถึงชื่อ Yohan Saferty ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งในปี 2010 ซึ่งเขาจับมือกับ Gilles Elalouf หุ้นส่วนทางธุรกิจเพื่อเปิดแบรนด์นำเสนอแฟชั่นที่ถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ในสไตล์ของโยฮันเอง รูปแบบแฟชั่นในช่วงแรกจึงเป็นเหมือนการแนะนำตัวดีไซเนอร์ผ่านงานศิลปะ ความเด่นชัดและเฉพาะเจาะจงไม่ได้ถูกทำให้กระจายเป็นวงกว้าง หากจะกล่าวว่าวายโปรเจกต์ในช่วงแรกคือแบรนด์น้องใหม่ที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักก็อาจจะไม่ผิดนัก แต่ก็ถือเป็นราฐานเดิมสำคัญในการสร้างบรรทัดฐานแฟชั่นรูปแบบใหม่ ถึงกระนั้นโยฮันก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร 3 ปีหลังจากก่อตั้งแบรนด์ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเขย่าโลกแฟชั่นเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา

• A MAN WHO LEAD THE WAY

เชื่อว่าสาวกแฟชั่นยุคใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น Gen X และ Gen Z จะต้องเคยผลงานวายโปรเจกต์ผ่านตามาบ้าง หรือมากกว่านั้นคือพวกเขาคือแฟนคลับของแบรนด์ ซึ่งเป็นผลพวงของการตัดสินใจกรุยทางให้ Glenn Martens ดีไซเนอร์ชาวเบลเยียมที่ไม่ได้ชื่อโด่งดังเปรี้ยงปร้างเข้ามากุมบังเหียนและทำให้วายโปรเจกต์เป็นผืนผ้าใบที่พร้อมให้เขาวาดลวดลายแฟชั่นอันน่าทึ่งได้อย่างอิสระ จุดเริ่มต้นการสร้างเส้นทางวายโปรเจกต์ภายใต้การกำกับดูแลของเกลนก็เริ่มตั้งแต่มิติความดาร์กตามแบบฉบับของโยฮัน และค่อยๆ เริ่มปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเชิงศิลป์และฟังก์ชั่นการสวมใส่ที่ตั้งอยู่บนรากฐานการใช้ชีวิตจริง ตลอดระยะเวลาเกินกว่าทศวรรษเกลนนำเสนอวิสัยทัศน์ที่สร้างมาตรฐานระดับสูงให้วายโปรเจกต์เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเสื้อผ้าแนวทดลองที่ยังสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน การปรับแต่งโครงสร้างซิลูเอตแบบเดิมให้มีองค์ประกอบที่มีเอกลักษณ์ เรื่อยไปจนถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่วายโปรเจกต์ก็สอดแทรกเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง ถ้าโยฮันคือผู้สร้าง เกลนคือผู้สืบทอดที่นำทางวายโปรเจกต์สู่ความสำเร็จขั้นสูง

• CAPTURING LIFE THROUGH CAMPAIGNS

นอกจากเรื่องการนำเสนอคอลเล็กชั่นแล้ว สิ่งที่น่าสนใจของแบรนด์วายโปรเจกต์คือการนำเสนอสิ่งเหล่านั้นในรูปแบบของแคมเปญที่มีชีวิตชีวา ปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวทางการสร้างชีวิตให้กับคอลเล็กชั่นต่างๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีการตีความออกแบบสอดคล้องกับกลุ่มผู้สวมใส่ วัฒนธรรมดั้งเดิม บรรยากาศ องค์ประกอบทางธรรมชาติ เรื่อยไปจนถึงงานศิลปะ แคมเปญต่างๆ ของวายโปรเจกต์จึงไม่ใช่เพียงการนำเสนอความเก๋มีสไตล์ของแบรนด์ หรือความเด่นชัดของไอเท็มแต่ละชิ้น เพราะแคมเปญทั้งหลายถูกสร้างมาเพื่อมอบชีวิตให้กับแต่ละคอลเล็กชั่นรวมถึงตัวแบรนด์เองด้วย ดังนั้นสาวกแฟชั่นที่เสพผลงานวายโปรเจกต์จะพบกันชั้นเชิงการตีความ การสร้างงานศิลปะรูปแบบใหม่ สอดประสานไปกับแฟชั่นที่ชวนสะกดตาเสมอมา

• DENIM GAME

แน่นอนว่าหากพูดถึงเกลน เชื่อว่าหลายคนจะมีภาพจำเกี่ยวกับการทำงานแฟชั่นด้วยการชูความโดดเด่นของวัสดุเดนิม ความน่าสนใจคือวัสดุเดนิมถือเป็นวัสดุสุดคลาสสิกที่ถูกผลิตซ้ำและมีมาตรฐานการสร้างสรรค์ที่สูงแตะระดับยอดพีระมิด แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญในการเล่นเกมเดนิมอันแข็งแกร่งของวายโปรเจกต์ เห็นได้ชัดว่าความจัดจ้านของวายโปรเจกต์ไม่ได้ลวดลาย สีสัน (มีแต่ยังไม่ใช่สิ่งเด่นชัดที่สุด)หรือแม้แต่วัสดุเดนิมทอพิเศษ แต่หมายถึงการใช้รูปทรง แพตเทิร์นการตัดเย็บ นำมาสู่ซิลูเอตที่แปลกใหม่ของไอเท็มเดนิมชิ้นดั้งเดิม ต่อยอดไปจนถึงการสร้างไอเท็มเดนิมรูปแบบใหม่ที่ปรากฏขึ้นบนรันเวย์ของวายโปรเจกต์โดยเฉพาะ ความกล้าที่จะเสริมเติมแต่ง ฉีกกรอบสไตล์เสื้อผ้าแบบเดนิมเดิมๆ ที่สามารถเปิดประสาทสัมผัสของเหล่าสาวกแฟชั่นได้ด้วยลายเซ็นเฉพาะตัว

• MORE THAN JUST COLLABORATIONS

สิ่งที่วายโปรเจกต์ภูมิใจนำเสนอตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือการจับมือนำเสนอโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นชั้นยอดอย่างต่อเนื่อง รูปแบบการจับมือกันสร้างสรรค์ผลงานไม่ใช่เพียงการแลกเปลี่ยนโลโก้หรือนำเอกลักษณ์จุดใดจุดหนึ่งมาเชื่อมประสานต่อกันเท่านั้น เพราะวายโปรเจกต์พร้อมรื้อสร้างและนำเสนอไอเท็มต่างๆ แบบสดใหม่ไม่เหมือนใคร รองเท้าแบรนด์ Ugg ที่คงเรื่องสีและวัสดุ แต่เปลี่ยนโฉมไปแบบไม่ทันได้ทำความคุ้นเคย รองเท้าแบรนด์ Melissa ที่ปกติเรียบง่ายและมีรูปทรงคลาสสิกเป็นส่วนใหญ่ก็ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นรองเท้าที่โดดเด่นด้วยลักษณะเชิงศิลปะและกราฟิก หรือจะเป็นแบรนด์อย่าง Canada Goose, Fila หรือแม้แต่ Salomon ก็คลุกเคล้าไปด้วยองค์ประกอบของวายโปรเจกต์ที่ชวนสนใจอย่างยิ่ง

• DISTINCTIVE VISION

เมื่อกล่าวถึงมาจุดนี้จะพบว่าวายโปรเจกต์คือแบรนด์ที่สร้างโลกของตัวเองและอ้าแขนต้อนรับสมาชิกทุกคน การนำเสนอไม่เพียงแต่สินค้า แต่หมายถึงการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของแบรนด์ทำให้คนเชื่ออย่างสุดใจว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดหรือฮอตฮิตที่สุด สาวกวายโปรเจกต์สามารถมั่นใจในกระแสนิยม ความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือการผสมรวมกลุ่มของผู้ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน วิธีการคิดคอนเซปต์โชว์ วิธีการสอดแทรกรายละเอียดชวนเตะตาบนเสื้อผ้า หรือแม้แต่การรังสรรค์จิวเวลรีก็ล้วนถูกคิดผ่านกรอบวิสัยทัศน์ที่เจือปนด้วยความขบถ แต่ก็เป็นความขบถที่ผลักดันให้วายโปรเจกต์มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และมีรากฐานของแฟนคลับทั่วทุกมุมโลกโดยที่อาจไม่ได้โปรโมตหรือสร้างปรากฏการณ์แบบเปรี้ยงปร้าง

• FAREWELL LOOKBOOK

ความยิ่งใหญ่มักมีปลายทางอยู่เสมอ เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของวายโปรเจกต์จะพบว่าคอลเล็กที่นำเสนอในรูปแบบลุคบุ๊กครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นกับคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นหลายคนก็คาดว่าเกลนเตรียมส่งท้ายก่อนโบกมือลาตำแหน่งหัวเรือใหญ่กับวายโปรเจกต์ด้วยผลงานชิ้นนี้ เอกลักษณ์ของวายโปรเจกต์ในการนำเสนอแพตเทิร์นและซิลูเอตนั้นครบถ้วนสมบูรณ์ มาพร้อมกับเหล่านางแบบที่เป็นเซเลบริตี้คุ้นตาทั้ง Charli XCX, Mia Khalifa และ Irina Shayk เป็นต้น นับว่าเป็นผลงานแทบจะส่งท้าย และในที่สุดการจากลาก็มาถึงแบบช็อกแฟนๆ ทั่วโลกเป็นเปราะแรก

• SIGNS OF GOODBYE…

เมื่อย้อนเวลากลับไปมองเหตุการณ์ต่างๆ ดูเหมือนทุกอย่างจะลงล็อกพอดิบพอดี แต่นั่นไม่ใช่เมื่อผู้เสพข่าวอยู่ในห้วงเวลานั้นๆ แบบเรียลไทม์ ตอนลุคบุ๊กคอลเล็กชั่นสุดท้ายออกมายังไม่มีใครล่วงรู้ว่าวายโปรเจกต์จะเป็นอย่างไรต่อไป จนกระทั่งมาถึงวันที่เกลนอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนั้นกระแสข่าวถาโถมถึงการเปลี่ยนมือหลังรับผิดชอบหน้าที่สำคัญนี้มาอย่างยาวนานร่วมหลักทศวรรษ นอกจากนี้ยังรวมถึงการคาดเดาว่าใครจะมารับตำแหน่งนี้ในอนาคต ช่วงปลายปี 2024 ที่เกมเก้าอี้ดนตรีดำเนินไปอย่างไม่หยุดพัก แต่สำหรับวายโปรเจกต์กลับเงียบเหงาและไม่ใช่จุดหมายของดีไซเนอร์ บทสุดท้ายของวายโปรเจกต์กำลังก่อตัวขึ้น และเปิดศักราชปี 2025 ข่าวร้ายก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการว่าวายโปรเจกต์ไม่ไปต่อ...สร้างความตกใจให้กับสาวกแฟชั่นจำนวนมาก เหตุผลสำคัญคือไม่สามารถหาผู้ซื้อเข้ามาครอบครองกิจการได้ สะท้อนภาพการชะลอตัวของธุรกิจแฟชั่นที่กำลังเป็นเงามืดคืบคลานเข้ามา ทั้งยังปฏิเสธไม่ได้ว่าการจากไปของกิลส์ ผู้ร่วมก่อตัเงแบรนด์กับโยฮันเมื่อ 14 ปีก่อน และการลงจากตำแหน่งของเกลนส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจและดำเนินธุรกิจต่อไป สัญญาณที่ส่งต่อมาเรื่อยๆ ทีละนิด ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น จนกระทั่งนำมาสู่ภาวะบอลลูนแตกด้วยการปิดตัวลงของวายโปรเจกต์ ซึ่งการปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในช่วงครึ่งแรกของเดือนมกราคม 2025 และถือเป็นข่าวช็อกวงการแฟชั่นที่คนทั่วโลกตื่นตะลึง