ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่กลับมาจัดเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากครั้งก่อนโดนพิษโควิด-19 จนกลายเป็นโอลิมปิกที่เงียบเหงาและถูกจัดขึ้นแบบไม่สมบูรณ์นัก การกลับมาของโอลิมปิกที่มีเจ้าภาพเป็นเมืองแห่งแฟชั่นและประวัติศาสตร์ทำให้มนต์เสน่ห์ของมหกรรมครั้งนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ซึ่งหลังจากพิธีเปิดที่สร้างความตื่นตะลึงด้วยวิธีการนำเสนอริมแม่น้ำแซนแล้ว ยังมีเรื่องเกมกีฬาที่สนุกจัดจ้านไม่แพ้กัน ทั้งการชิงเหรียญรางวัล การทำลายสถิติ โมเมนต์ไวรัลอันสะท้อนถึงรูปแบบของโลกดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทในโอลิมปิกครั้งนี้เต็มรูปแบบ เรื่อยไปจนถึงการสร้างตำนาน และเรื่องราวความรักอันน่าทึ่ง ที่ขาดไม่ได้คือเหล่านักกีฬาตัวแทนประเทศไทยที่สามารถสร้างชื่อด้วยการคว้าเหรียญทองได้อย่างเต็มภาคภูมิ

• CLOSING CEREMONY

ถือเป็นที่จับตาของคนทั่วโลกว่าเจ้าภาพฝรั่งเศสจะนำเสนอพิธีปิด ณ สนาม Stade de France ในรูปแบบใด หลังจากเปลี่ยนโฉมพิธีเปิดโอลิมปิกที่ได้รับการพูดถึงในหลากหลายแง่มุม พิธีการสำคัญของการปิดฉากโอลิมปิกยังอยู่ครบถ้วน อาจจะมีเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย เริ่มตั้งแต่การนำไฟจากแอร์บอลลูน ณ สวนตุยเลอรี่ เดินทางสู่สนามกีฬาแห่งชาติโดย Léon Marchand ก่อนจะนำมาสู่พาเหรดธงชาติ และการรวมตัวกันของเหล่านักกีฬาที่ไม่เรียงลำดับของชาติ นอกจากนี้ยังมีการแสดงอย่างน่าตื่นเต้นจากศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น Alain Roche นักเปียโนชาวสวิสกับการเล่นเปียโนกลับหัว การแสดงเชิงสัญญะกับตัวละคร Le Golden Voyager เทพี Nike และสัญลักษณ์ Winged Victory of Samothrace ก่อนเข้าสู่การเฉลิมฉลองด้วยการแสดงจาก Angèla ศิลปินเบลเยี่ยม วง Phoenix ที่มาพร้อมเพลง Lisztomania ฟรอนต์แมนวง Vampire Weekend อย่าง Ezra Koenig แร็ปเปอร์ชาวกัมพูชาอย่าง Vann Da และที่ขาดไม่ได้คือ Kavinsky ตำนานแห่งโลกดนตรีของฝรั่งเศส พิธีปิดมีเซอร์ไพรส์จาก Tom Cruise ในการโหนสลิงเล่นสตั๊นต์เพื่อมารับธงโอลิมปิกเพื่อเดินทางมอบต่อเจ้าลอสแอนเจลิส เจ้าภาพครั้งต่อไปในปี 2028 ก่อนจะเข้าสู่การส่งต่อด้วยวิดีโอที่เชื่อมสัมพันธ์ด้วยนักกีฬาระดับไอคอนและนักกีฬารุ่นใหม่ และเข้าสู่ช่วงมินิคอนเสิร์ตฉลองการส่งต่อโอลิมปิก 2028 กับ Red Hot Chili Peppers, Billie Eilish และ Snoop Dog ปิดท้ายด้วยพิธีดับไฟเป็นอันสิ้นสุดโอลิมปิกครั้งนี้อย่างเป็นทางการ

• MEDAL CONQUEROR

ศึกชิงเจ้าเหรียญทองของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเข้มข้นเสมอ โดยสหรัฐอเมริกาคือตัวเต็งที่มาพร้อมศักยภาพด้านกีฬาหลากหลายประเภท แต่เน้นย้ำที่ว่ายน้ำและกรีฑา ส่วนประเทศจีนก็ครองความยิ่งใหญ่ในหลายประเภท อาทิ เทเบิลเทนนิส กระโดดน้ำ และยิงปืน เป็นต้น เริ่มต้นด้วยความหวังในการฉีกจำนวนเหรียญของสหรัฐอเมริกากับกีฬาว่ายน้ำ ทว่าเมื่อมองตามความจริงหลายชาติพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีฉลามและเงือกจาออสเตรเลียความรั้งความยิ่งใหญ่ ทำให้สหรัฐอเมริกาพลาดเหรียญรางวัลไปไม่น้อย ในขณะเดียวกันจีนก็พลาดท่าในกีฬายิมนาสติกเช่นเดียวกัน ต้องบอกว่าแม้ทั้ง 2 ประเทศจะคว้าเหรียญมามากมายแต่ก็ถือว่าพลาดไปไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นการขับเคี่ยวตำแหน่งเจ้าเหรียญทองจึงดำเนินมาถึงช่วงท้ายของโอลิมปิก จีนปิดฉากด้วยเหรียญทองกีฬายกน้ำหนักหนักหญิง ก่อนรอลุ้นให้สหรัฐอเมริกาพลาดในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่รวมถึงบาสเกตบอลทีมหญิงที่เรียกว่าเชื่อขนมกิน ก่อนที่ Jennifer Valente จะเขย่าขวัญทีมชาติจีนด้วยการคว้าเหรียญทองแบบปริ่มต้นคอ ที่ 39 เหรียญทอง (จีน 40 เหรียญทอง) ซึ่งในเกมบาสเกตบอลหญิงสหรัฐอเมริกาพบเจ้าภาพฝรั่งเศส เกมที่ทุกคนคาดว่าจะจบลงอย่างง่ายดายกลับเป็นแมตช์แห่งความทรงจำ เหล่านักบาสฯ หญิงฝรั่งเศสสู้ไม่ถอยเพื่อเถลิงชัยในบ้าน ทว่าก็ต้านความแข็งแกร่งไม่ไหวพ่ายให้สหรัฐอเมริกา พร้อมกับยกตำแหน่งเจ้าเหรียญทองประจำโอลิมปิกครั้งนี้ให้สหรัฐอเมริกา ซึ่งนี่เป็นการชิงชัยเหรียญทองที่สูสีที่สุด เพราะจีนและสหรัฐอเมริกามีจำนวนเหรียญทองเท่ากันที่ 40 เหรียญ แต่สหรัฐอเมริกามีเหรียญเงินมากถึง 44 เหรียญ ในขณะที่จีนมี 27 เหรียญ ทำให้ตำแหน่งเจ้าเหรียญทองของสหรัฐอเมริกายังคงสืบต่อไปสู่โอลิมปิกครั้งนี้ หลังจากเคยพลาดท่าเสียตำแหน่งให้จีน เมื่อครั้งแดนมังกรเป็นเจ้าภาพ ณ กรุงปักกิ่งปี 2008

• WEDDING PROPOSAL MANIA

เมื่อพิธีปิดโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส มีการกล่าวถึงว่านี่เป็นมหกรรมโอลิมปิกที่มีการขอแต่งงานมากที่สุด โดยเหตุการณ์ไฮไลต์คือการ Liu Yuchen นักแบดมินตันทีมชาติจีน รอจังหวะหลัง Huang Ya Qiong ขึ้นเหรียญทองจากการแข่งขัดแบดมินตันประเภทคู่ผสม เขาคุกเข่าขอฝ่ายหญิงแต่งงาน และเธอก็ตอบตกลง นับเป็นโมเมนต์ไวรัลที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในโอลิมปิกครั้งนี้ ทว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับโดนวิจารณ์ว่าเป็นการขโมยซีนวันแห่งความสำเร็จของผู้หญิง ซึ่งหลายคนก็เห็นแย้งว่าฝ่ายชายรอจังหวะจนเวลาสุดท้ายเพื่อมอบวันแสนพิเศษให้กับฝ่ายหญิงจดจำไปตลอดกาล นอกจากเรื่องราวคู่รักนักแบดฯ แล้วยังมีการขอแต่งงานเกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้งในโอลิมปิกครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Pablo Simonet นักแฮนด์บอลทีมชาติอาร์เจนติน่าที่ขอ Maria Campoy นักกีฬาฮอกกี้เพื่อนร่วมชาติแต่งงาน หรือจะเป็นโมเมนต์ของคู่รักหญิงอย่าง Sarah Steyaert และ Charline Picon กับบรรยากาศหลังการแข่งขันเรือใบ ณ เมืองมาร์กเซย์ นอกจากนี้ยังมีนักพายเรือหัวใจโรแมนติกอย่าง Justin Best ที่ขอแฟนสาวผู้สนับสนุนเขามาตลอดอย่าง Lainey Duncan แต่งงานท่ามกลางบรรยากาศฉากหลังหอไอเฟล และยังมีโมเนต์น่าประทับใจอีกจากคู่รักอิตาเลียนอย่าง Massimo Bertelloni กับ Alessia Maurelli หนุ่มจอมพลังอย่าง Payton Otterdahl กับหวานใจ ปิดท้ายด้วย Alice Fonot ลมกรดจากประเทศเจ้าภาพที่แม้จะพลาดเหรียญทองแดง แต่ก็หาจังหวะสำคัญคุกเข่าขอแฟนหนุ่มนักไตรกีฬาจากสเปนแต่งงาน นับเป็นโมเมนต์ความประทับใจที่เต็มไปด้วยมิติแห่งความหลากหลายและเรื่องราวอันน่าจดจำ สิริรวมโอลิมปิกครั้งนี้มีการขอแต่งงานเกิดขึ้นถึง 7 ครั้ง

• RECORD BREAKERS

เมื่อพูดถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกจะพลาดเรื่องราวของการทำลายสถิติไปไม่ได้ เพราะโอลิมปิกแต่ละครั้งนักกีฬาพัฒนาศักยภาพจนสามารถท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ได้ในหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นไม่ว่าจะสถิติโลกหรือสถิติโอลิมปิกก็ล้วนได้รับการท้าทายจากเหล่ายอดนักกีฬาระดับโลก โดยโอลิมปิกครั้งนี้โดดเด่นอย่างมากกับการทำลายสถิติ พร้อมการจับเวลาอันแม่นยำ รวมถึงเทคโนโลยีประกอบต่างๆ จาก Omega ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ ซึ่งสถิติเด่นๆ ที่ถูกทำลายลงไปนั้นส่วนใหญ่มากจากกีฬาว่ายน้ำและกรีฑา โดยฝ่ายชายนั้น Léon Marchand สร้างปรากฏการณ์กวาด 4 เหรียญทองในโอลิมปิกครั้งเดียวและสร้างสถิติโอลิมปิกถึง 3 ประเภท (ว่ายท่ากบและท่าผีเสื้อ 200 เมตร และเมดเลย์ 400 เมตร) เจ้าสระหญิงอย่าง Kaylee McKeown ก็ฟาดสถิติท่ากรรเชียงขาดกระจุย สาวน่ารักขวัญใจหนุ่มๆ อย่าง Summer McIntosh ก็ทุบสถิติเป็นว่าเล่น นอกจากนี้ยังมี Pan Zhanle ที่ฟาดสถิติท่าฟรีสไตล์ 100 เมตร สร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกกับขวบวัยเพียง 19 ปี มากไปกว่านั้นยังอีกหลากหลายกรีฑาเช่น Sydney McLaughlin ที่กดสถิติโลกวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร หรือจะเป็นการพุ่งแหลนของ Arshad Nadeem จากปากีสถานที่คว้าเหรียญทองพร้อมทุบสถิติโอลิมปิก และยังมีเหล่านักกีฬาประเภทลู่และลานอีกจำนวนมากที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์และก้าวสู่ทำเนียบเจ้าของสถิติโลกและสถิติโอลิมปิก เช่น Armand ‘Mondo’ Duplantis กับปรากฏารณ์ทำลายสถิติโลกครั้งละ 1 เซนติมเตร และในขณะหลายคนสนใจกับกีฬายอดนิยมวงการธนูก็มีการทำลายสถิติโดยทีมและนักกีฬาเดี่ยวตัวแทนทีมชาติเกาหลีใต้ กีฬาพายเรือ จักรยานประเภทลู่ทั้งทีมหญิงและชาย กีฬายิ่งปืนที่ทุบสถิติกันเป็นว่าเล่นไม่แพ้ชนิดอื่นๆ ปิดท้ายด้วยกีฬาปีนผาที่ทุบสถิติความเร็วกันทั้งหญิงและชายเลยทีเดียว

• GREAT INSPIRATIONS

เรื่องราวของเหล่านักกีฬาผู้เข้าแข่งขันโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีสถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง เพราะมันสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้อย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่ช่วงแรกกับ Zeng Zhiying ที่เดบิวต์โอลิมปิกครั้งแรกในวัย 58 ปี ทีมวิ่งผลัดผสมของเนเธอร์แลนด์ที่ปาดหน้าคว้าเหรียญทองโดยการนำทัพของ Femke Bol ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจคอกรีฑา การกลับมาแข่งขันของ Gianmarco Tamberi อดีตเหรียญทองกระโดดสูงที่กลับมาจากอาการป่วยร้ายแรง Vivian Kong กับการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกด้วยความปลาบปลื้ม ณ กรองด์ ปาเลส์ Letsile Tebogo ลมกรดเจ้าของเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรที่อุทิศความสำเร็จให้แม่ผู้ล่วงลับที่คอยสนับสุนและตามติดขอบสนามเพื่อเชียร์ลูกชายมาตลอดชีวิต ทีมยิมนาสติกชายญี่ปุ่นที่ล้มบัลลังก์จีนได้สำเร็จ Rizki Juniansyah กับเหรียญทองแรกในกีฬายกน้ำหนักของประเทศอินโดนีเซีย หรือจะเป็น Cindy Ngamba นักกีฬาจากทีมผู้ลี้ภัยที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยเหรียญโอลิมปิกแรกของทีมนักกีฬาที่ได้รับการส่งเสริมโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล นอกจากเรื่องราวของพวกเขาและเธอเหล่านี้ยังมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจำนวนมากที่สะท้อนจิตวิญญาณโอลิมปิกโดยแท้จริง

• DIGITAL PHENOMENON

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีสคือมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติที่เชื่อมโยงทุกคนเข้าหากันผ่านโลกดิจิทัล ประเด็นร้อน เรื่องไวรัล หรือแม้แต่ความสวยงามของการแข่งขันถูกพูดถึงอย่างหนาหูและกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกเข้าถึงไปพร้อมกัน ปรากฏการณ์มีมและความไวรัลเกิดขึ้นตลอดระยะกว่า 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นนักแม่นปืนสาวมาดเท่ Kim Ye-ji จากเกาหลีใต้ Yusuf Dikeç มือปืนมาดลุงที่คว้าเหรียญไปแบบสบายๆ จนถูกแซวว่าแกล้งพลาดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นมือปืน โมเมนต์เซลฟี่ประวัติศาสตร์กับการเชื่อมสัมพันธ์เกาหลีเหนือและใต้ รวมถึงจีนที่ขึ้นชื่อเรืองความขัดแย้งแถบคาบสมุทรเกาหลี โมเมนต์ค้ำถ่อจากนักกีฬาฝรั่งเศสที่กลายเป็นความไวรัลในชั่วพริบตา และที่ขาดไม่ได้คือภาพถ่าย Gabriel Medina นักเซิร์ฟบนเกลียวคลื่นโดย Jerome Brouillet ช่างภาพชาวฝรั่งเศส และยังมีโมเมนต์น่ารักของนักยิมนาสติกหญิงจีนตัวน้อยผู้ใสซื่อกับธรรมเนียมการกัดเหรียญ ลุคเนิร์ดของ Stephen Nedoroscik ที่ถูกแซวว่าเป็นลุคเก็บตัวของซูเปอร์แมน และเขาก็ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มอเมริกันขวัญใจโลกโซเชียล ปิดท้ายด้วยหนุ่มนักว่ายน้ำชาวนอร์เวย์เจ้าของฉายา ‘Muffin Man’ ที่ทำเอามัฟฟินช็อกโกแลตกลายเป็นของหายากในหมู่บ้านนักกีฬา

• PROUD OF THAILAND

แฟนกีฬาชาวไทยก็มีความหวังในโอลิมปิกครั้งนี้อยู่ไม่น้อย เพราะเหล่านักกีฬาล้วนอยู่ในระดับโลกหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดดีกรีแชมป์โลกและเหรียญทองโอลิมปิกจากโตเกียวที่สามารถคว้าเหรียญทองสร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่อีกครั้งก่อนจะประกาศวางมือจากการแข่งอย่างเป็นทางการ ด้านแบดมินตัน วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานย์ ก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้สำเร็จ ถึงแม้จะพ่ายแพ้ในรอบชิงกับ Viktor Axelsen แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่และสร้างชื่อให้ประเทศไทยอย่างสมเกียรติ การกลับมาของทัพนักกีฬายกน้ำหนักล้วนนำมาพาความสำเร็จมาหลังจากโดนแบนไปเมื่อครั้งก่อน โดย ฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย และ เวฟ-วีรพล วิชุมา นักยกน้ำหนักชายในรุ่น 61 และ 73 กิโลกรัมชายก็คว้าเหรียญเงินได้อย่างเซอร์ไพรส์ อีกทั้งยังมี ออย-สุรจนา คำเบ้า จากรุ่น 49 กิโลกรัมหญิงที่เถลิงชัยขึ้นโพเดียมรับเหรียญทองแดง นอกจากนี้ยังนักกีฬาอีกหลายคนที่เข้าร่วมโอลิมปิกครั้งนี้ แม้จะไม่ได้เหรียญรางวัลแต่ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและก้าวมาถึงการแข่งขันระดับโลกได้อย่างน่าชื่นชม

• TIME FOR LEGENDS

ต้องบอกว่าโอลิมปิกทุกครั้งคือช่วงเวลาของตำนานและว่าที่ตำนานแห่งวงการกีฬาโดยแท้ ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันเพราะมีโมเมนต์อันน่าจดจำมากมายสำหรับตำนานจากหลายชนิดกีฬา เริ่มตั้งแต่สุดยอดนักเทนนิสอย่าง Novak Djokovic ที่มาโอลิมปิกครั้งสุดท้ายเพื่อไล่ล่าเหรียญทอง และทำให้ Career Golden Slam สมบูรณ์แบบหลังรอคอยมาทั้งชีวิต Teddy Riner สุดยอดนักยูโดของเจ้าภาพฝรั่งเศสที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ทั้งประเภทเดี่ยวและทีม ปิดฉากเส้นทางยูโดอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด Paula Egonu นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติอิตาลีที่มาพร้อมความมุ่งมั่นหลังเคยประกาศรีไทร์ แต่โอลิมปิกครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้ทัพอัซซูรี่ ด้านกีฬาว่ายน้ำ Katie Ledecky ก็สร้างสถิติโอลิมปิกกับการว่ายระยะ 1,500 เมตร อีกทั้งยังเป็นนักกีฬาหญิงชาวอเมริกันที่ครองสถิติคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุดถึง 14 เหรียญ ซึ่งเป็นเหรียญทองถึง 9 เหรียญ (2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จากกรุงปารีส) มาพร้อมกับ Léon Marchand ว่าที่ตำนานแห่งวงการว่ายน้ำที่คว้า 4 เหรียญทองและได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นสุดยอดซูเปอร์สตาร์เทียบระดับ Michael Phelps ส่วนวงการกรีฑาปฏิเสธไม่ได้ชื่อของ Femke Bol ได้รับการขนานนามอยู่บ่อยครั้งในโอลิมปิกครั้งนี้ เพราะเธอคว้าเหรียญฟอร์มการวิ่งจัดจ้านให้การทีมผลัดผสมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และยังเป็นสมาชิกที่ทำให้ทีมผลัดหญิงคว้าเหรียญเงินไปอย่างลุ้นระทึก หากพูดถึงโอลิมปิก 2024 จะขาด Simone Biles ไปไม่ได้ ซึ่งเธอกลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่พร้อมกับงัดฟอร์มเก่งและขึ้นโพเดียมคว้าเหรียญรางวัลเป็นว่าเล่น คว้า 3 เหรียญทองจากประเภททีม ม้ากระโดด และรวมอุปกรณ์หญิง อีกทั้งยังคว้าเหรียญเงินในประเภทฟลอร์เอ็กเซอไซส์ ทำให้เธอเป็นนักยิมนาสติกที่คว้าเหรียญเยอะสุดในประวัติศาสตร์ กับจำนวน 7 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง และวงการยิมนาสติกยังมี Carlos Edriel Yulo ที่จารึกชื่อเป็นผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกจากยิมนาสติกเป็นครั้งแรกให้กับประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีตำนานแห่งวงกามวยปล้ำที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 5 สมัยติดต่อกันเป็นครั้งแรกของโลกอย่าง Mijain Lopez หรือ Diana Taurusi นักบาสเกตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นแท่นคว้าเหรียญทอง 6 สมัยรวด ยังมี Laura Kraut นักขี่ม้าวัย 58 ปีที่ยังคงโลดแล่นขึ้นโพเดียมได้อย่างสมศักดิ์ศรี

• YOUNG GENERATION’S PASSION

โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีสถือเป็นมหกรรมกีฬาที่โอบรับความหลากหลายในทุกมิติ ซึ่งเรื่องความหลากหลายของโลกคนรุ่นใหม่ก็มีสอดแทรกให้เห็นได้อย่างชัดเจน เหล่ากีฬาเอ็กซ์ตรีมทั้งจักรยาน BMX และสเก็ตบอร์ดถูกบรรจุต่อในโอลิมปิกครั้งนี้และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม กีฬาบาสเกตบอลสไตล์ 3x3 ที่ออกแบบมาจากกีฬาสตรีต กีฬา ‘Breaking’ หรือการเต้นเบรกแดนซ์ที่ถูกบรรจุเป็นครั้งแรกล้วนสะท้อนภาพของความหลากหลายและแพสชั่นของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถ่ายทอดผ่านกีฬาร่วมสมัยเหล่านี้ สังเกตได้จากเหล่านักกีฬาที่เข้าแข่งขันอายุน้อยและพร้อมพัฒนาวงการต่อไปในอนาคต ด้านกีฬาดั้งเดิมทั้งหลายก็ยังคงได้รับความนิยม ผู้คว้าเหรียญรางวัลและขึ้นโพเดียมจำนวนไม่น้อยก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นและเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าทุกคนจับจ้องกับความยิ่งใหญ่ของนักกีฬาระดับไอคอน ทว่าสำหรับโอลิมปิกครั้งนี้เหล่าดาวรุ่งดวงใหม่จากสายกีฬาต่างๆ ก็สร้างความประทับใจให้ผู้ติดตามกีฬาได้อย่างน่าตื่นเต้น และนี่คือสัญญาณอันดีที่เราจะเห็นการพัฒนา รวมถึงมิติการพัฒนาอันเปิดกว้างเกิดขึ้นในโอลิมปิกต่อไปในอนาคต