FASHION
VOGUE SCOOP | โว้กสรุปรวบยอดสุดยอดปรากฏการณ์แห่งโลกแฟชั่นประจำปี 2024 ที่ไม่ควรพลาดปี 2024 คือขวบปีแห่งความยิ่งใหญ่ในโลกแฟชั่นทั้งในและต่างประเทศ โว้กจึงรวบรวมทุกประเด็นที่ไม่ควรพลาดมาไว้ที่นี่แล้ว |
ตลอดช่วงปี 2024 มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย หรือจะเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกก็ไม่ผิดนัก ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวที่ผูกโยงกับโลกแฟชั่นโดยตรง ทว่ายังมีเรื่องราวมากมายที่เป็นดั่งความยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนไม่อาจคลาดสายตา ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่อย่างเต็มรูปแบบ มากไปกว่านั้นยังเป็นเหมือนการหวนคืนของสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์ นางแบบ หรือแม้กระทั่งความงดงามในอดีต ต่อยอดสู่การเฉลิมฉลองความสำเร็จของแบรนด์และดีไซเนอร์อย่างต่อเนื่อง Vogue Scoop ครั้งนี้ผู้เขียนจะพาไปรวบยอดสุดยอดปรากฏการณ์แฟชั่นระดับโลกที่สร้างแรงสั่นสะเทือนและกระแสนิยมตลอดปีที่ผ่านมา จะมีปรากฏการณ์ใดหรือเหตุการณ์ใดบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้
- THAILAND IS HAPPENING
เริ่มเปิดฉากลิสต์ปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ด้วยกระแสการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยและการเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอุตสาหกรรม เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งตลอดปีที่ผ่านมา เพราะแบรนด์ระดับแถวหน้าต่างเลือกกรุงเทพมหานครและประเทศไทยเป็นดั่งจุดหมายปลายทางที่พร้อมส่งสัญญาณความพร้อมการเปิดตลาดอย่างใหญ่โตมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ LV The Place แห่งแรกของโลกที่รวบรวมความยอดเยี่ยมไว้ทั้งคาเฟ่ นิทรรศการ บูติก รวมถึงร้านอาหารไว้แบบครบวงจร สถานที่ ณ Gaysorn Amarin เปรียบดั่งโลกเต็มใบของ Louis Vuitton ที่พร้อมให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่งและซึมซับวิถีแห่งเมซงจากฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันช่วงกลางปี 2024 Chanel ก็จัดงาน Chanel Summer Tour ที่พร้อมถ่ายทอดเรื่องศิลปะอันผูกประสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับแนวทางอันเด่นชัดของแบรนด์ งานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่เน้นย้ำเรื่องศิลปะดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดนตรีท้องถิ่นที่สามารถสอดประสานเข้ากับดนตรีสากลได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับงานครั้งนี้ถือเป็นอีเวนต์ยิ่งใหญ่ประจำปีที่สะท้อนภาพการเติบโตของแฟชั่นในประเทศ เรื่อยไปจนถึงการผลักดันวัฒนธรรมที่เป็นประจักษ์ ทั้งนี้ยังมีงาน WWD x Siam Piwat กับการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรื่องราวเชิงลึก รวมถึงแง่มุมทางธุรกิจ ดำเนินรายการโดยสื่อแฟชั่นชั้นนำระดับโลกอย่าง WWD เพียบพร้อมด้วยช่วงการพูดคุยครบถ้วนทุกองศา สร้างบรรทัดฐานและการสื่อสารรูปโฉมใหม่ในวงการแฟชั่นที่เปิดเส้นทางการพัฒนาด้านแฟชั่นในทุกด้านอย่างจริงจังมากขึ้น ปิดท้ายด้วยปรากฏการณ์ส่งท้ายปีกับ Dior Gold House อาคารทองอร่ามเลียบถนนเพลินจิต แลนด์มาร์กด้านแฟชั่นแห่งใหม่ที่นำเสนอความยิ่งใหญ่อลังการ นำเสนอความยอดเยี่ยมของ Dior สอดประสานไปกับการจับมือศิลปินไทยจำนวนมากพัฒนาแลนด์มาร์กแห่งนี้ให้รุ่มรวยด้วยศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ตั้งแต่งานฝีมือจักรสานไปจนถึงการสร้างผลงานจากวัสดุรีไซเคิล ห้องพิเศษจำนวน 7 ห้องรวม Dior Café จึงถือเป็นจุดศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมและนำมาสู่การเฉลิมฉลองปิดท้ายปีในโลกแฟชั่น ณ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่เพียบพร้อมด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์ไทยและแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกอย่าง Jisoo
- VICTORIA’S SECRET COMEBACK
คงไม่ต้องสาธยายสรรพคุณอะไรกันมากสำหรับแฟชั่นโชว์ Victoria’s Secret เพราะนี่ถือเป็นโชว์นอกเหนือตารางแฟชั่นวีกที่คนทั่วโลกรอคอยมากที่สุดตลอดกาล หลังจากห่างหายไปอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2018 ดูเหมือนว่าทิศทางการพัฒนาและการหวนคืนสู่แนวทางการนำเสนอแบบดั้งเดิมที่ถูกตีความและปรับโฉมใหม่จะได้จังหวะเวลาที่เหมาะสมพอดี โชว์ดังกล่าวสร้างกระแสนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะมีการประกาศชื่อศิลปินที่จะร่วมโชว์ไม่ว่าจะเป็น ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล, Tyla และ Cher ซึ่งทั้ง 3 คนก็สามารถสร้างบรรยากาศความสนุกเคล้าเสน่ห์ได้อย่างงดงามบนตั้งแต่เปิดจนปิดโชว์ นอกจากนี้ยังมีการกลับมารวมตัวกันของเหล่านางฟ้าวิกตอเรียรุ่นเก๋าที่หลายคนคิดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Tyra Banks ที่ห่างหายไปนานกว่า 20 ปี และจุดที่น่าสนใจคือการเลือกนำเสนอแนวทางความหลากหลายที่เป็นประจักษ์มากขึ้น ทั้งเรื่องรูปร่าง สีผิว และอื่นๆ ทำให้โชว์ครั้งนี้ได้เสียงตอบรับจากล้นหลามในมิติต่างๆ อย่างคึกคัก และถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในปีนี้
WATCH
- ANNIVERSARY SHOWS
ปี 2024 นี้ถือเป็นปีทองของการครบรอบเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดปีมีโชว์เฉลิมฉลองความสำเร็จของทั้งแบรนด์และเหล่าดีไซเนอร์กันอย่างคับคั่ง โชว์ช่วงส่งท้ายปลายปีคงหนีไม่พ้นความยิ่งใหญ่กับโชว์มากกว่า 300 ลุคที่เฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีแบรนด์ Elie Saab ณ เมืองริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่นอกจากจะขนลุคจำนวนมหาศาลมาโชว์อย่างยิ่งใหญ่แล้วยังมีศิลปินระดับโลกมาแสดงบนรันเวย์กันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Celine Dion, Camila Cabello และ Jennifer Lopez รวมถึง Halle Berry ที่นำชุดที่สวมบนเวทีออสการ์เมื่อช่วงปลายยุค ‘90s กลับมาอวดโฉมอีกครั้ง นอกจากโชว์ดังกล่าวยังมีโชว์ของ Louis Vuitton ที่เฉลิมฉลองความสำเร็จให้กับ Nicolas Ghesquière ที่กุมบังเหียนสร้างผลงานแฟชั่นอันโดดเด่นมาครบทศวรรษพอดิบพอดีกับโชว์ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ซึ่งได้ Félix จากวง Stray Kids มาเป็นนางแบบสร้างปรากฏการณ์ความคึกคักบนโลกออนไลน์ ในปีเดียวกันอีกหนึ่งดีไซเนอร์ที่เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีคือ Jonathan Anderson กับแบรนด์ Loewe ที่เขาสร้างบรรทัดฐานเรื่องงานคราฟต์อันเป็นหัวใจของแบรนด์สัญชาติสเปนมาเสมอ ให้เข้ากับแนวทางด้านแฟชั่นอันมีเสน่ห์ และผลักดันให้โลเอเว่เป็นแบรนด์ฮิตติดลมบนถูกใจคอแฟชั่นทุกเพศทุกวัยทั่วโลก ขยับก้าวมาสู่อีกแนวแฟชั่นจะพบกับ Rick Owens ที่ฉลองขวบปีที่ 30 ในปี 2024 ด้วยเช่นกัน ซึ่งแบรนด์ไม่เพียงแต่สร้างแฟชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจเสิร์ฟคนแฟชั่นมาอย่างยาวนานเท่านั้น เพราะแบรนด์ได้สร้างวิถีและกลุ่มวัฒนธรรมอันโดดเด่นจนได้รับการกล่าวถึงว่า “ริก โอเวนส์ไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่คือศาสนา” นอกเหนือจากที่กล่าวมายังมีแบรนด์ Isabel Marant และ Tory Burch ที่เถลิงความยิ่งใหญ่ในระดับ 3 ทศวรรษเช่นเดียวกัน และมีแบรนด์อย่าง Sunnei ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ที่นำเสนอวิถีแฟชั่นอันแปลกใหม่กับแนวคิดว่า “10 ปีที่ให้ความรู้สึกเหมือน 100 ปี”
- ALESSANDRO MICHELE’S FIRST VALENTINO SHOW
หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงดีไซเนอร์กันให้ควักในปีนี้ Alessandro Michele ที่ลงหลักปักฐาน ณ Valentino แทนที่ Pierpaolo Piccioli ก็เตรียมสร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่นเฉพาะตัว และทำให้สาวกแฟชั่นรอคอยว่าเขาจะตีความแนวคิดแฟชั่นของแบรนด์ออกมามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งเปิดฉากแรกกับ Avant Les Débuts ในรูปแบบลุคบุ๊กที่สร้างความตื่นตะลึงด้วยการโละภาพจำของดีไซเนอร์คนก่อนหน้าออกอย่างชัดเจน และทำให้แฟนๆ จำนวนไม่น้อยหวนนึกถึงผลงานครั้งเก่ากับแบรนด์เดิมของดีไซเนอร์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้เขาจะบรรยายและกล่าวถึงการล้วงลึกถึงคลังเก่าเก็บของวาเลนติโน่เมื่อหลายทศวรรษก่อนกับแนวทางแฟชั่นสไตล์แม็กซิมัลที่ Valentino Garavani เคยรังสรรค์ไว้เมื่อนานมาแล้วก็ตาม ก้าวมาถึงโชว์แรกกับ Pavillon des Folies ที่ถือเป็นโชว์แรกอย่างเป็นทางการและประกาศแนวทางการนำเสนอแฟชั่น ณ เมซงแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ สาวกแฟชั่นได้เห็นทั้งแนวแฟชั่นแม็กซิมัล ย้อนยุคสู่ช่วง ‘80s พร้อมบรรยากาศความดราม่าที่เป็นเสน่ห์อันเด่นชัดเจนของอเลสซานโดร นอกจากนี้ยังเห็นแขกคนสำคัญจำนวนมากที่ยกทัพตามดีไซเนอร์กันมาติดๆ ยกตัวอย่างเช่น Harry Styles และ Jared Leto เป็นต้น
- OLYMPICS
มหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่ที่ 4 ปีมีครั้งเดียวจะพลาดหลุดออกจากปรากฏารณ์แห่งปี 2024 ไปไม่ได้ แม้จะไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับโลกแฟชั่นโดยตรงก็ตาม ทว่าเรื่องราวของโอลิมปิก ณ กรุงปารีสกลับมาความสอดคล้องกับแฟชั่น ศิลปวัฒนธรรม เรื่อยไปจนถึงจิวเวลรี และประวัติศาสตร์ดั้งเดิมเป็นพิเศษ เพราะนี่คือเมืองหลวงด้านแฟชั่น จุดเริ่มต้นมีตั้งแต่การเข้ามาสนับสนุนอย่างเป็นทางการของ LVMH ที่ทำให้แบรนด์ในเครืออย่าง Chaumet เป็นผู้ดูแลเรื่องเหรียญรางวัลที่นำชิ้นส่วนหอไอเฟลมารังสรรค์จนเป็นเหรียญล้ำค่าที่มีเอกลักษณ์ที่สุดครั้งหนึ่ง รวมไปถึงชุดพิธีมอบเหรียญที่ออกแบบโดย Louis Vuitton นอกจากนี้โอลิมปิกครั้งนี้ยังมีโมเมนต์อันน่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเกมกีฬา การแสดง เรื่อยไปจนถึงโมเมนต์ไวรัลที่เกิดขึ้นไม่ซ้ำแต่ละวัน มากไปกว่านั้นยังรวมถึงพิธีเปิดนอกสนามกีฬาเป็นครั้งแรก สายฝนเทชุ่มฉ่ำ ณ ช่วงพิธีเปิดกลายเป็นช่วงเวลาที่เป็นดั่ง “ครั้งหนึ่งในชีวิต” และก้าวข้ามมาถึงพิธีปิดที่ส่งไม้ต่อด้วยการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงการปรากฏตัวของ Tom Cruise นักแสดงระดับตำนานผู้เชื่อมประสานโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส และส่งต่อสู่มหกรรมโอลิมปิกครั้งต่อไปในปี 2028 ณ ลอสแอเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการขมวดจบปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ประจำปี 2024 ที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับแฟชั่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็พลาดการพูดถึงไม่ได้จริงๆ
- SPORT THEME FEVER
บรรยากาศต่อเนื่องจากโอลิมปิก (และก่อนหน้า) สิ่งที่ทำให้โลกแฟชั่นขับเคลื่อนไปได้ในปีนี้คงหนีไม่พ้นแรงบันดาลใจจากเกมกีฬา และองค์ประกอบทั้งหลายในโลกกีฬาเช่นกัน เพราะรูปแบบการนำเสนอแฟชั่นล้วนหยิบยกเอาเรื่องกีฬามาเล่นสอดผสานกับปีแห่งมหกรรมประจำมวลมนุษยชาติ แบรนด์อย่าง Thom Browne ที่จัดจ้านเรื่องคอนเซปต์ก็สร้างสรรค์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ที่จำลองเหรียญและโพเดียมรับรางวัลในสไตล์ของตัวเอง Dior กับกีฬายิงธนูที่สร้างความน่าสนใจได้ตลอดรันเวย์โชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 หรือจะเป็น AVAVAV แบรนด์กิมมิกจ๋าที่มาพร้อมการตีความกีฬาและการจับมือร่วมกับ Adidas ตลอดปีนี้ยังมีแบรนด์อีกมากมายที่นำเสนอทั้งคอลเล็กชั่น โปรเจกต์พิเศษ เรื่อยไปจนถึงแคมเปญสอดผสานกับโลกกีฬา คงจะพูดได้ว่าปี 2024 คือปีแห่งความฟีเวอร์ด้านกีฬาเพราะโอลิมปิกอย่างไม่ต้องสงสัย
- COPERNI AT DISNEYLAND
สถานที่จัดโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจประจำปีนี้คงต้องพูดถึงดิสนีแลนด์ของแบรนด์ Coperni คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่สร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังมหาศาลให้กับทั้งสาวกแฟชั่นและแฟนคลับดิสนีย์ตัวยง การเตรียมการระยะเวลานานหลายเดือนกับการเปิด Fantasyland เพื่อรองรับแขกคนสำคัญและนำเสนอคอลเล็กชั่นที่เพียบพร้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของดิสนีย์เต็มพิกัด ทว่าผลตอบรับที่ได้รับกลับมาอาจไม่ได้สวยหรูอย่างที่คาดหวัง เพราะโชว์นี้ได้รับคำวิจารณ์อยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เรื่องการเดินทางไปจนถึงเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ที่บางคนถึงขั้นนิยามว่าคล้ายของฝากติดไม้ติดมือทั่วไปจากดิสนีย์แลนด์ ถึงกระนั้นด้วยความยิ่งใหญ่อลังการและถือเป็นโชว์แรกในประวัติศาสตร์กับการสร้างโลกที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แสนคลาสสิกที่หลายคนหลงรักไปโดยปริยายไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาสมหวังหรือน่าผิดหวังเท่าใดก็ตาม
- MAISON MARGIELA BY JOHN GALLIANO
สุดยอดโมเมนต์บนรันเวย์ประจำปี 2024 ที่ทำให้ทุกสายตาจับจ้องและเป็นกระแสฮิตไปทั่วโลกโดยแทบไม่ต้องง้อเหล่าเซเลบริตื้ชื่อดังเลยคือโชว์โอตกูตูร์ของ Maison Margiela โดย John Galliano ที่เติมความสมบูรณ์แบบด้วยเมกอัพจาก Pat McGrath นี่คือโชว์เปิดช่วงต้นศักราชแฟชั่นได้อย่างคึกคัก ชุดทั้งหลายถูกเนรมิตขึ้นในแบบเหนือจินตนาการ สอดผสานกับเรื่องรูปทรง สีสัน และรายละเอียดที่จัดจ้านน่าดึงดูดอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีการปรากฏกายของ Gwendoline Christie นักแสดงหญิงชาวอังกฤษที่แปลงโฉมเป็นนางแบบบนรันเวย์ที่เปี่ยมล้นด้วยพลังแห่งแฟชั่น นอกจากนี้ยังมีเรื่องแคสติ้งที่หลากหลาย ความลึกล้ำน่าค้นหา และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้โชว์นี้กลายเป็นโชว์ที่มีมูลค่าทางสื่อระดับสูงเทียบเท่าเหล่าโชว์ที่อัดแน่นด้วยเซเลบริตี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทีเด็ดของยุคนี้เลยทีเดียว
- CHANEL RETURNS TO GRAND PALAIS
Chanel โยกย้ายสถานที่จัดโชว์ออกจากความคุ้นเคยแบบเดิมเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี ระหว่างที่กรองด์ ปาเลส์บูรณะซ่อมแซม ซึ่งเมซงก็เป็นผู้สนับสนุนการบูรณะครั้งนี้และร่วมรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ไว้อย่างหนักแน่น โชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 จึงเหมือนเป็นการหวนกลับคืนสถานที่แห่งความทรงจำของชาเนลอีกครั้ง โชว์การโล้ชิงช้า การแสดงดนตรี และที่ขาดไม่ได้คือโชว์แฟชั่นบนรันเวย์ท่ามกลางบรรยากาศพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้โชว์ดังกล่าวถือเป็นการเฉลิมฉลองการกลับมาสู่สถานที่อันคุ้นเคยและเป็นดั่งสัญลักษณ์ของโชว์ชาเนล ณ กรุงปารีสอีกครั้ง
- DRIES VAN NOTEN RETIRE ANNOUCEMENT
เมื่อมีการเปิดฉากก็ต้องมีการปิดฉากเปรียบเหมือนงานเลี้ยงที่ต้องมีวันเลิกรา สำหรับแบรนด์แฟชั่นชื่อผู้ก่อตั้งจะคงดำเนินสืบต่อไปพร้อมคนที่เข้ามาสานต่อความสำเร็จ แต่สำหรับดีไซเนอร์รุ่นเก๋าบางคนอาจถึงคราววางมือ Dries Van Noten คือหนึ่งในนักสร้างสรรค์แฟชั่นที่สร้างความประทับใจผ่านผลงานเสื้อผ้ามานานหลายทศวรรษ และยังคงเป็นรากฐานความดงงามในสไตล์เฉพาะตัว ข่าวใหญ่สำคัญประจำปีนี้คือเขาประกาศเกษียณออกจากแบรนด์ตัวเองช่วงเดือนมีนาคม ก่อนจะมาโค้งคำนับครั้งสุดท้ายในโชว์เสื้อผ้าบุรุษช่วงเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นเขาก็มาให้กำลังใจทีมสตูดิโอออกแบบในช่วงเดือนกันยายน แม้จะวางมือจากหัวเรือใหญ่แบรนด์ภายใต้ชื่อตัวเองไปแล้ว แต่เขายังคงเป็นผู้ยึดเหนี่ยวจิตใจและคอยเฝ้ารอการพัฒนของแบรนด์ตลอดมาและตลอดไป ปีหน้าอาจต้องคอยจับตาดูว่าแบรนด์ที่ไม่มีดรีสจะดำเนินไปอย่างไรในอนาคต
- BRAT VS DEMURE
หากจะสรรหาคำฮิตที่สอดแทรกด้วยแนวทางอันเป็นไวรัลเข้าถึงทุกสังคมทั่วโลกคงต้องพูดถึงกระแส Brat จาก Charli XCX ที่สร้างปรากฏการณ์ให้แนวทางความจัดจ้าน สันทนาการสุดขีด และมีนิยามการแต่งกายรวมถึงรูปแบบวัฒนธรรมที่แม้จะมีรากศัพท์จากคำว่า “เหลือขอ” แต่มันก็สะท้อนภาพความดื้อดึงและก๋ากั๋นในการตีความรูปแบบใหม่ ความสุดเหวี่ยงเหล่านี้เชื่อมโยงมาถึงโลกแฟชั่นที่นำเสนอภาพความขบถอิสระเหนือคำบรรยายเอาไว้อย่างน่าสนใจ เสื้อผ้าที่นำเสนอแนวทางคาแร็กเตอร์ของคนรุ่นใหม่จึงสอดผสานกับแนวทางนี้จนกลายเป็นความฮิตที่หยุดไม่อยู่ อีกด้านหนึ่งกับแนวทาง Demure มาจากวลี “Very Demure, Very Mindful” ความนิ่งที่วางตัวอย่างเหมาะสม ความถ่อมตัวไม่เวอร์วัง เชื่อมประสานกับแนวแฟชั่นแบบลักชัวรีที่หรูหราแบบไม่ตะโกน ต่อยอดมาจาก “Quiet Luxury” ได้แบบพอดิบพอดี ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่หวือหวาและหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง ใส่ใจสิ่งเรียบง่ายแต่ทรงคุณค่าคือแนวทางใหม่ที่มาปะทะกันในสงครามแบบตรงไปตรงมากับ Brat แบบไม่ต้องสงสัย
- PRIZE OF THE YEAR
บทสรุปปลายปีของทุกวงการจะพลาดเรื่องรางวัลประจำปีไปไม่ได้ ซึ่งวงการแฟชั่นเองก็มีรางวัลอันทรงเกียรตินี้เช่นเดียวกัน รางวัลใหญ่สำคัญที่พลาดไม่ได้คือดีไซเนอร์แห่งปี โดย Jonathan Anderson แห่ง Loewe คว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จจากวิธีการพัฒนาแนวงานคราฟต์เข้ากับดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมสอดผสานความลงตัวเข้ากับเทรนด์ได้อย่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ในขณะเดียวกัน Alex Consani นางแบบที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นต้นแบบของเด็กสาวยุคใหม่ก็ทะยานคว้ารางวัลนางแบบแห่งปีไปครอง ก้าวผ่านด่านหินกับนางแบบระดับแนวหน้าของวงการอย่างเข้มข้น หากจะพูดว่านี่คือปีทองของโจนาธานและอเล็กซ์คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะผู้เขียนนิยามให้ว่าเป็น “ยุคทอง” ไปเลยแล้วกัน
- CELEBRITIES ON RUNWAYS
อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นในปี 2024 ของการรวมตัวกันของเซเลบริตี้บนรันเวย์ โชว์หลักที่ทุกคนพูดถึงเรื่องเซเลบริตี้บนรันเวย์คงหนีไม่พ้น Miu Miu คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 นำโดย มินนี่-ณิชา, Hilary Swank, Willem Dafoe, Cara Delevingne, Sunday Rose Kidman นอกจากนี้ยังมีโชว์ในฤดูกาลเดียวกันของ Coperni ที่มีทั้ง Kylie Jenner และ Lila Moss ย้อนกลับไปอีกสักหน่อยช่วงต้นปีก็มี Félix กับโชว์ Louis Vuitton คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 เพิ่มเติมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ชาวไทยอย่าง พีพี-กฤษฎ์ กับโชว์ Balenciaga Spring 2025 ณ เซี่ยงไฮ้ และ มิว-ศุภศิษฏ์ กับโชว์ Boss ณ มิลานแฟชั่นวีก
- BELLA HADID’S RETURN
เซอร์ไพรส์ที่แฟนๆ หลายคนรอคอยคือการกลับมาของนางแบบระดับแนวหน้าของโลกยุคใหม่อย่าง Bella Hadid ที่ห่างหายจากรันเวย์แฟชั่นไปเป็นเวลานาน จนหลายคนคิดเธออาจบอกลาการเป็นนางแบบรันเวย์แล้ว ทว่าเมื่อโชว์ Saint Laurent คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิฤ/ฤดูร้อน 2025 เธอกลับมาพร้อมลุคทรงพลังด้วยแฟชั่นแบบฉบับของ Yves Saint Laurent ตัวดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้ง พร้อมทั้งถ่ายแคมเปญที่กลายเป็นที่พูดถึง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หวนคืนเวที Victoria’s Secret เรียกได้ว่า 2024 คือปีที่เบลล่ากลับมาประกาศศักดาอย่างเต็มรูปแบบ
- LISA’S FIRST SCENE AT LV & K-STARS SHUFFLE
เมื่อพูดถึงวงการแฟชั่นยุคนี้จะขาดเรื่องเกาหลีไปไม่ได้ แน่นอนว่ากระแสความคึกคักของเหล่าศิลปินเคป๊อปสร้างโมเมนต์อันน่าตื่นเต้นให้เหล่าแฟนคลับทั่วโลก แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือการสลับสับเปลี่ยนแบรนด์ที่พวกเขาและเธอร่วมงาน โดยเซอร์ไพรศืประจำปารีสแฟชั่นวีกช่วงต้นปีหนีไม่พ้น ลิซ่า-ลลิษา มโนบาลที่มาปรากฏโฉมในฐานะแขกคนสำคัญของ Louis Vuitton เป็นครั้งแรกหลังหมดสัญญากับ Celine ซึ่งแบรนด์หลังได้ตัว Danielle แห่งวง NewJeans มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เจาะตลาดกลุ่มใหม่แทน ด้าน Cha Eunwoo บุรุษสุดหล่อที่มีวลีจากแฟนๆ ชาวไทยว่า “ชาที่ดีคือชาอึนอู” ก็สลับเปลี่ยนมาร่วมงานกับ Saint Laurent หลังเคยร่วมงานกับ Dior มาสักระยะหนึ่ง ปิดท้ายด้วย I.N แห่งวง Stray Kids ที่เคยปรากฏโฉมในโชว์ Alexander McQueen แต่ก็ผันเปลี่ยนมาเป็นแขกคนสำคัญของ Bottega Veneta แทน ยังไม่นับอีกหลายต่อหลายคนที่ถูกตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แบบสดๆ ร้อนๆ และได้ร่วมงานกับแบรนด์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกอย่าง Jin แห่งวง BTS แบรนด์แอมบาสเดอร์ Gucci เป็นต้น
- ZENDAYA AS A FASHION ICON
สุดยอดแห่งแฟชั่นไอคอนประจำปี 2024 ต้องขอยกให้กับ Zendaya ภายใต้การดูแลของ Law Roach เพราะนี่คือนักแสดง ศิลปิน และเซเลบริตี้ที่ได้รับการจับตามองด้านแฟชั่นมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลุคหุ่นยนต์คลังเก่าของแบรนด์ Mugler ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกกับงานฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง Dune: Part Two ก่อนจะสร้างปรากฏการณ์แฟชั่นอันน่าทึ่งอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง The Challenger ดูเหมือนว่าเซนดาย่าจะเป็นแฟชั่นไอคอนที่มาพร้อมด้วยสไตล์และจังหวะเวลาที่เหมาะสมอย่างแท้จริง
- MADONNA AND CONE BRAS
การกลับมาของบราทรงโคนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบนเวทีคอนเสิร์ตแต่อย่างใด เพราะ Dolce & Gabbana หยิบยกดีไซน์ไอคอนิกแห่งโลกแฟชั่นมานำเสนอใหม่อีกครั้งภายใต้บรรยากาศเคล้ามนต์เสน่ห์แบบย้อนยุค สังเกตได้จากเซ็ตติ้งและการสไตลิ่งที่พานึกถึงช่วงเวลาอันหอมหวานในอดีตของ Madonna ซึ่งเจ้าตัวก็มาร่วมเป็นแขกคนสำคัญในโชว์ครั้งนี้และสอดแทรกความเร้นลับด้วยลุคแฟชั่นผ้าคลุมหน้า โชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 จากแบรนด์อิตาเลียนครั้งนี้จึงเหมือนการยกเอาโมเมนต์ไอคอนิกมาเล่าใหม่
- MET GALA 2024
อีเวนต์ยิ่งใหญ่ประจำโลกแฟชั่นทุกปีคือ Met Gala ซึ่งในปี 2024 มาในคอนเซปต์ธีม Sleeping Beauties: Reawakening Fashion และเดรสโค้ดคือ The Garden of Time เราจึงได้เห็นเหล่าเซเลบริตี้ชั้นนำของวงการนำเสนอลุคแฟชั่นที่ผสมผสานรายละเอียดทั้งดอกไม้และสัญญะต่างๆ เกี่ยวกับธรรมชาติ ซึ่ง Tyla มาพร้อมชุดทรายจากแบรนด์ Balmain ที่สะดุดตาทุกคน เสริมรายละเอียดด้วยคอนเซปต์การตีความ “ทรายแห่งเวลา” จนกลายเป็นลุคที่ใช้สัญญะในการนำเสนอได้อย่างมีชั้นเชิง ในขณะเดียวกันก็มีลุคเด่นจำนวนมากที่ทั้งตรงไปตรงมาและแอบซ่อนความหมายเอาไว้แล้วแต่บุคคล ถือเป็นอีกปีที่งานเมต กาล่าสร้างสีสันให้วงการแฟชั่นได้อย่างเต็มขีดจำกัดเฉกเช่นเสมอมา
- VOGUE WORLD PARIS
ปิดท้ายด้วยมหกรรมความยิ่งใหญ่จากโว้ก ซึ่ง Vogue World จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน นับจากนิวยอร์ก ลอนดอน จนกระทั่งถึงปารีส โดยธีมครั้งนี้ผูกโยงกับประวัติศาสตร์แฟชั่นและเรื่องกีฬา สอดผสานกับดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าที่พัฒนาผลงานด้านแฟชั่นสอดคล้องกันมาในแต่ละยุค ทั้งยังเลือกสรรเสน่ห์ของเกมกีฬาทั้งในอดีตและปัจจุบันมาสร้างความโดดเด่นครั้งใหม่ท่ามกลางบรรยากาศของ Place Vendômeความคึกคักของเหล่าเซเลบริตี้ นางแบบ และศิลปินจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Sabrina Carpenter ไปจนถึง Bad Bunny ก็ยิ่งทวีความยิ่งใหญ่ 1 วันก่อนโอตกูตูร์แฟชั่นวีกจะเริ่มขึ้น และ 1 เดือนก่อนโอลิมปิกจะเริ่มขึ้นเท่านั้น
- HONORABLE MENTIONS
ASIAN DESIGNERS - ประเด็นที่น่าสนใจประจำปี 2024 คือโมเมนต์ความสำเร็จของเหล่าดีไซเนอร์สายเลือดเอเชียที่ตบเท้ากันสร้างสรรค์ผลงานอันเต็มไปด้วยสีสันและความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Peter Do กับผลงานภายใต้แบรนด์ Helmut Lang และแบรนด์ตัวเอง Mark Gong กับรูปแบบการนำเสนอแฟชั่นที่ผูกโยงเข้ากับวัฒนธรรมป๊อป และยังมีดีไซเนอร์เอเชียอื่นๆ ที่เติบโตขึ้นมาอย่างน่าสนใจ
ALAÏA’S GOLDEN PERIOD – ปี 2024 ถือเป็นปีทองต่อยอดจากความสำเร็จเมื่อไม่กีปีที่ผ่านมาของแบรนด์ Alaïa โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโชว์ ณ มหานครนิวยอร์ก ประจำคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่เป็นปรากฏการณ์จนตราตรึงสาวกแฟชั่
YEAR OF COLLABORATION – ปีนี้เป็นอีกปีแห่งการต่อยอดเรื่องโปรเจกต์คอแลบอเรชั่น เพราะแบรนด์แฟชั่นน้อยใหญ่ต่างร่วมจับมือกันเอง หรือจับมือกับแบรนด์ต่างอุตสาหกรรมที่พร้อมนำเสนอความสดใหม่ เรียกว่าปี 2024 มีโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นมหาศาลจนเกินจะนับ หรือถ้าโฟกัสลงมาแค่แบรนด์กีฬาก็มีตั้งแต่ Adidas, Nike, Puma รวมถึง Camper ที่มีการจับมือกับแบรนด์รังสรรค์ผลงานที่จะต้องเป็นที่ต้องการจากทั่วโลก
สุดท้ายนี่คือการสรุปรวบยอดปิดท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ ปี 2024 คือปีแห่งความคึกคักที่มีปรากฏการณ์เกิดขึ้นมากมายในวงการแฟชั่น และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราจะเห็นแนวทางความสดใหม่ รวมถึงการเดินหน้าของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกมากขึ้นอีกระดับ ประเทศไทยอาจเป็นจุดหมายปลายทางของงานสำคัญอย่างต่อเนื่อง และจับตาดูกันว่าการหมุนเวียนสับเปลี่ยนของเหล่าเซเลบริตี้ทั้งบนรันเวย์ บนหน้าแคมเปญแฟชั่น หรือแม้กระทั่งฟรอนต์โรว์จะสร้างอิทธิพลได้มากน้อยเพียงใด มากไปกว่านั้นจะมีปรากฏการณ์อะไรหวนคืนกลับมาหรือลาจากไปอีกบ้างหรือไม่ ให้ปี 2025 เป็นคำตอบ
WATCH