#VOGUEMORE เปิดมุมมองอิสรภาพของคนยุคใหม่กับการเป็นตัวเองในทุกสถานการณ์ของ 'วี-วิโอเลต'

นางแบบ: วิโอเลต วอร์เทียร์
ช่างภาพ: เอกรัตน์ อุบลศรี
แฟชั่นไดเร็กเตอร์: จงกล พลาฤทธิ์
แต่งหน้า: วรวุฒิ วัชนุชา
ทำผม: หฤษฏ์ ปัญญาอ้าย
โททัลลุค: Coach

 

ความสำเร็จในชีวิตของ “วี-วิโอเลต วอเทียร์” มาในหลากหลายรูปแบบ ทั้งนักร้อง นักแสดง และมีโอกาสโลดแล่นในอุตสาหกรรมแฟชั่น มนต์เสน่ห์ของวีจึงไม่มีกรอบปิดกั้น เธอคือตัวแทนของการสะท้อนภาพแห่งอิสรภาพที่คนรุ่นใหม่ถวิลหา จุดเริ่มต้นที่โดดเด่น ตามด้วยวิถีทางอันเปี่ยมไปด้วยความท้าทาย และจุดมุ่งหมายในชีวิต ไม่ใช่ในฐานะศิลปิน นักแสดง หรืออะไรก็ตามแต่ตามคำนิยาม แต่เป็นของ “วี” หรือหมายถึงนี่คือชีวิตของวีเท่านั้นไม่จำเป็นต้องมีสถานะไหนมานิยามให้อิสระทางความคิด การแสดงออก และการใช้ชีวิตของเธอต้องอยู่ในพื้นที่คับแคบ

#VOGUEMORE ประจำเดือนตุลาคม 2022 นี้โว้กจึงเจาะลึกเกี่ยวกับชีวิตของวีในรูปแบบของวีจริงๆ พร้อมกับคำนิยามตัวตนที่แสดงให้เห็นว่าสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและเป็นตัวของตัวคนนี้จึงสามารถโดดเด่นอยู่ในแสงสปอตไลต์ได้อย่างยาวนานจนถึงตอนนี้และอาจจะต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต

อยากจะรู้จักตัวตนของวีจริงๆ คงต้องย้อนไปในอดีตเพื่อรู้จักกับ “Old Violette” เสียก่อน ซึ่งวีนิยามตัวเองว่า “ยังไร้เดียงสาอยู่” สะท้อนมุมมองความสดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาสู่แสงแรกของวงการบันเทิงประเทศไทย ความไร้ประสบการณ์ทำให้เธอเป็นเด็กไร้เดียงสาผู้พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่จนหล่อหลอมให้ตัวเองเป็นวีทุกวันนี้ “วีก็ยังเป็นวีคนเดิม เพียงแต่รู้อะไรเยอะขึ้น” ทำให้เราเห็นว่าจากเด็กที่ใหม่มากสามารถยืนหยัดรักษาตัวตนจนถึงวันนี้ย่อมต้องมีแง่มุมอะไรที่น่าสนใจอย่างแน่นอน ซึ่งวีกระโจนมาพร้อมความสดใหม่และมีเป้าหมายในชีวิตในอุตสาหกรรมบันเทิง ดังนั้นคำว่าเป้าหมายในชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย และวีเองก็พร้อมผลักดันตัวเองพร้อมเผยความฝันกับโว้กว่า “อยากทำสิ่งนี้(ทั้งการเป็นนักร้อง นักแสดง และคลุกคลีกับแวดวงแฟชั่น)ไปเรื่อยๆ ทำให้ดีกว่าเดิม”

แน่นอนว่าความแตกต่างในเรื่องบทบาทท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องจะเป็นเรื่องที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายรูปแบบ ความหลากหลายนี้เป็นดั่งมาตรวัดความอิสระในตัวเอง รวมถึงเป็นกระจกให้วีมองตัวเองตามแนวความคิดโดยไม่มีข้อจำกัด “ดนตรีทำให้วีรู้สึกมีชีวิต ตอบโจทย์แพสชั่นความเป็นวี เพราะวีรู้สึกเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้จึงรู้สึกว่าดนตรีเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต” พร้อมเสริมว่า “การแสดงเหมือนเป็นการผจญภัยที่ได้พบเจอกับอะไรใหม่ๆ ทุกครั้งที่สวมบทบาทคือการนับ 1 ใหม่เสมอ และสุดท้ายแฟชั่นของวีมากับเรื่องดนตรี เพราะนี่คือการสะท้อนการเป็นวีจริงๆ แม้ว่าจะได้เปิดโลกใหม่ๆ แต่ก็เหมือนกับการทดลองว่าเราสามารถเป็นวีแบบไหนได้บ้าง แต่ก็ยังเป็นตัวเองอยู่” ทั้งหมดพาทุกคนเข้าใจแนวคิดแเปิดกว้างโดยยังรักษาตัวตนอยู่เสมอของวีได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“มั่นใจและเป็นตัวเองไปเลย!” มุมมองความคิดของวีเกี่ยวกับการแสดงออกในโลกปัจจุบันกำลังนำทางให้คนรุ่นใหม่เข้าใจบริบทของโลกมากขึ้น เพราะสุดท้ายวีมั่นใจในการรับบทบาทท่ามกลางแสงไฟ แต่วีกล่าวอย่างน่าสนใจว่า “ตัวตนของเราคือการที่เป็นลูกแม่ การเป็นเพื่อนกับเพื่อนคนหนึ่ง” เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องฉากหน้าที่จะแสดงออกอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องหลังฉากในชีวิตที่รักษาความเป็นตัวเองเอาไว้ได้มากที่สุดท่ามกลางความคาดหวังมากมายจากคนภายนอก ซึ่งยังต่อยอดไปถึงความเป็นธรรมชาติและแสดงตัวตนออกมาจริงๆ ตั้งแต่เริ่ม เพราะวีไม่มีอุปสรรคขัดขวางในการแสดงตัวตนของตัวเอง “อาจจะมีเพียงกำแพงบางๆ เราก็ยังเป็นตัวเองอยู่ เพียงแค่รู้สึกว่าทำไมบางอย่างเราต้องเป็นอย่างที่คนอื่นคาดหวัง” เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่แฟนๆ และคนที่เห็นวีจะรู้สึกว่าวีเป็นวีอยู่เสมอ ไม่เคยต้องพยายามต้องเป็นวีในเวอร์ชั่นใดเวอร์ชั่นหนึ่งที่คนอยากให้เป็น “ไม่ต้องคิดว่าเป็นอุปสรรค” นี่คือคติประจำตัวที่วีใช้รับมือกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

“ใส่ที่ชอบ” คติประจำใจแสนเรียบง่ายแต่เป็นตัวเองที่สุด แนวคิดนี้สอดคล้องกับแฟชั่นยุคปัจจุบันที่ไม่มีเทรนด์ตายตัว ทุกคนกำหนดวิถีทางของตัวเองได้เสมอ “ตราบใดที่เราจัดการเสื้อผ้าบนตัวเราได้ วีรู้สึกว่ามันไม่มีทางผิดเลย” เรื่องนี้พาเราย้อนกลับไปหามุมมองที่ว่าแฟชั่นทำให้วีได้เปิดโลก ซึ่งหมายถึงการแสดงตัวตนความเป็นตัวเอง “แม้จะมีการตกแต่งหน่อยๆ แต่ก็ยังแสดงตัวตนของเราออกมาอย่างเต็มที่” วีฝากนิยามประจำใจเรื่องแฟชั่นให้ทุกคนมั่นใจกับการนำเสนอเซนส์ความสนุกของตัวเองผ่านลุคที่มั่นใจ “อยากแต่งสีสันแสดงความสนุก อยากจะเท่ๆ คูลๆ ด้วยลุคสีดำ หรือจะเท่ในแบบสีสันจัดจ้าน ทำได้หมด สุดท้ายเป็นตัวเองค่ะ”

 
ต่อยอดมาจากเรื่องแฟชั่นอันสอดคล้องกับศิลปะ “สำหรับวีชอบคือชอบ ไม่ชอบก็จบ” ทุกอย่างหล่อเลี้ยงวีคนนี้ด้วยมุมมองอันอิสระ ไม่จำเป็นต้องตีกรอบหรือสร้างนิยามให้ศิลปะเยอะแยะมากมาย เพียงแค่สะท้อนมันออกมาผ่านความชื่นชอบของตัวเอง ไม่ว่าจะแฟชั่นหรือศิลปะล้วนหล่อเลี้ยงวีและใครก็ตามในรูปแบบความเต็มใจที่จะเลือกเสพมันด้วยตัวเอง “เราอาจจะลำเอียงบ้างในเรื่องศิลปะและแฟชั่น อย่างแบรนด์ Coach เองที่ทำให้เราถูกใจได้ตลอด เราก็จะมีความลำเอียงนิดหน่อย สุดท้ายถ้าเราชอบมันก็จะเป็นตัวเอง” เพราะฉะนั้นศิลปะไม่จำเป็นต้องมองเป็นเส้นตรงหรือสิ่งสมมาตร เพราะเรื่องนามธรรมแบบนี้ล้วนเป็นสิ่งอัตวิสัย การจะมีความเอนเอียงหรืออคติจึงไม่ใช่เรื่องผิด เพราะนี่คืออิสรภาพทางความคิดที่เปิดกว้างที่สุดของมวลมนุษย์ เฉกเช่นเดียวกับความสวยอันเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยมิติความคลาสสิกที่เฉิดฉายในโลกแฟชั่นยุคใหม่ของกระเป๋ารุ่น Bandit Shoulder Bag ของโค้ชในแฟชั่นเซ็ตนี้ ซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้โดดเด่นด้วยทรงกระเป๋าสะพายข้าง หนังเรียบคุณภาพดี มาพร้อมกลิ่นอายความโดดเด่นที่เป็นอมตะเหนือกาลเวลา ความอิสระอันเปิดกว้างที่ไม่ปิดกั้นความชื่นชอบไอเท็มคลาสสิกและรูปแบบแฟชั่นที่สะท้อนเอกลักษณ์ของโค้ชอย่างเต็มที่ เหมือนกับตัววีที่ไม่เคยละทิ้งวีในอดีต แต่พัฒนาให้เลียนล้อไปกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของสังคมยุคนี้โดยปราศจากกำแพงหรือข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น มากไปกว่านั้นยังกล้าจะเปิดเผยความชัดเจนเหมือนกับโลโก้ C ที่ประทับอยู่บริเวณด้านหน้าของกระเป๋าอย่างไรอย่างนั้น

และอิสรภาพทางความคิดนี้สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยแนวคิดแสนอิสระ ซึ่งวีก็มองว่า “คนรุ่นใหม่ อิสรภาพ และความเป็นปัจเจกบุคคลเป็นเรื่องเดียวกัน” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “วีเห็นว่าคนรุ่นใหม่เติบโตมาแบบมีอิสระมากเลย ไม่มีอะไรมาตีกรอบเขา แล้วทำให้เขาเป็นปัจเจกบุคคล เป็นตัวตนของเขาได้ชัดเจนมากๆ มันทำให้เขาเปิดกับอะไรหลายๆ อย่าง และพร้อมจะเรียนรู้อะไรมากขึ้น” โดยวียกตัวอย่างและชื่นชมถึง ‘มิลลิ’ ว่านี่คือเด็กที่สะท้อนมุมมองความเป็นปัจเจกบุคคลอันเปี่ยมไปด้วยอิสรภาพ

สุดท้ายพูดถึงเรื่องแฟชั่น ศิลปะ แนวความคิด และอิสรภาพของวีกันไปแล้ว โว้กก็ไม่พลาดมุ่งหาจุดเริ่มต้นของวีอย่างเสียงเพลง ซึ่งคติประจำใจและนิยามที่สะท้อนเพลงของวีได้ดีที่สุดคือ “จริงใจ” ด้วยเนื้อหาของเพลงพูดถึงความเป็นมนุษย์บางอย่างที่จับต้องได้ สะท้อนความรู้สึกออกมาผ่านบทเพลง และดนตรีเองก็ยังเป็นตัวเองแต่ก็เปิดโอกาสให้ค้นหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นเพลงของวีจึงเต็มไปด้วยความหลากหลายที่เข้าถึงคนฟังอย่างลึกซึ้ง จังหวะดนตรีที่แปลกใหม่ ทว่ายังคงกลิ่นอายความเป็นวีเฉกเช่นทุกครั้ง เธอคนนี้ก็ไม่ลืมฝากผลงานเพลงใหม่ชื่อ “จินตนาการ” และฝากอัลบั้มใหม่ไว้ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวตนของ  ‘วี-วิโอเลต วอเทียร์’ ศิลปินสาวผู้เปรียบดั่งตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เป็นตัวเองในโลกยุคใหม่อันเปิดกว้างเรื่องอิสรภาพอย่างแท้จริง