FASHION

VOGUE HISTORY | โมเมนต์ร่วมกันบนรันเวย์ครั้งท้ายๆ ของพี่น้อง Versace ที่กลายเป็นตำนาน

ภาพสะท้อนความกลมเกลียวของ Gianni Versace และ Donatella Versace บนรันเวย์ VERSUS เมื่อปี 1996 คือเหตุการณ์ไอคอนิก เพราะมันไม่สามารถผลิตซ้ำหลังจากนั้นได้อีกแล้ว

ในโลกแฟชั่นที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง รากฐานสำคัญที่ขาดไม่ได้คือดีเอ็นเอของแบรนด์ที่ถ่ายทอดกันมายาวนานหลายทศวรรษ หรือสำหรับบางแบรนด์อาจยาวนานถึงหลักศตวรรษ ในอดีตแบรนด์แฟชั่นระดับแถวหน้ามากมายริเริ่มจากฝีมือกูตูริเยร์หรือดีไซเนอร์ระดับไอคอน ก่อนจะส่งมรดกตกทอดถึงคนในครอบครัว แม้หลายแบรนด์จะเลือกขายกิจการหรือควบรวมอยู่ในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และเสียอำนาจทางการบริหาร เรื่อยไปจนถึงแนวทางการทำงานที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน เพราะมีการเปลี่ยนดีไซเนอร์ผู้กุมบังเหียน สำหรับ Versace นั้นกลับไม่เป็นเช่นนั้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งแรก ทว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งระลอกที่ 2 และทำให้แบรนด์อาจกำลังเปลี่ยนโฉมไปตลอดกาล

เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์แฟชั่นคือการจากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับอย่างหดหู่และน่าตกใจที่สุดของ Gianni Versace ดีไซเนอร์ผู้สรรสร้างอาณาจักรภายใต้ชื่อนามสกุลตนเองได้โด่งดังระดับโลก โดยเขาถูกฆาตกรรมหน้าบ้านพักของตนเอง ณ เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 1997 เหตุการณ์ดังกล่าวช็อกวงการแฟชั่นอย่างมาก (อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ ที่นี่) และผู้มารับไม้ต่อคือสมาชิกในครอบครัวอย่าง Donatella Versace ซึ่งต่อยอดความสำเร็จและพัฒนาธุรกิจของแบรนด์จนเติบโตและอยู่เคียงคู่จักรวาลแฟชั่นต่อเนื่องกว่า 30 ปีภายใต้การคุมหางเสือของเธอ

เรื่องราวความทรงจำของพี่น้องตระกูลเวอร์ซาเช่ต้องย้อนกลับไปสมัยกลางยุค 1990s เพราะดอนนาเทลล่าเข้ามามีบทบาทในเส้นทางของแบรนด์มากขึ้น กลายเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังและอยู่เคียงข้างพี่ชายเสมอมา ตลอดระยะเวลาหลายปีสาวกแฟชั่นจะได้เห็นพี่น้องคู่น้องปรากฏตัวตามหน้าสื่อ นิตยสาร หรืองานสังคมนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งเมื่อโชว์เวอร์ซาเช่(ไลน์หลัก)จบลง ส่วนมากจะมีเพียงพี่ชายที่ออกมารับเสียงปรบมือของแขกคนสำคัญจากทั่วโลกเสมอ โมเมนต์บนรันเวย์ของทั้งคู่จึงเป็นภาพหาชมยาก และหลังจากกลางปี 1997 ก็เป็นไปไม่ได้เพราะจานนีเสียชีวิตไปแล้ว

ย้อนกลับไปปี 1996 ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองสุดขีดของอาณาจักรเวอร์ซาเช่ ท่ามกลางกระแสนิยมอันล้นหลาม แบรนด์สัญชาติอิตาเลียนเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถเปิดตลาดฝั่งสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังมีแบรนด์ VERSUS ที่เริ่มสร้างเส้นทางความสำเร็จในฐานะแบรนด์ลูก ซึ่งแบรนด์นี้เป็นของขวัญที่พี่ชายมอบให้น้องสาวเป็นผู้ดูแล และต่อมาก็เป็นดั่งการกรุยทางสู่เส้นทางดีไซเนอร์ระดับพระกาฬไม่ต่างจากตัวเขาเอง และโชว์ของแบรนด์เวอร์ซัสครั้งหนึ่งก็เป็นห้วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์แฟชั่นโลก เพราะภาพถ่ายคู่กันบนรันเวย์ที่ดูปกติธรรมดา จะกลายเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ไม่สามารถผลิตซ้ำได้อีกหลังจากนั้น

โมเมนต์โชว์คอเลล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 1996 แบรนด์เวอร์ซัส ณ Bryant Park กลางมหานครนิวยอร์ก ถือเป็นโชว์ที่เต็มไปด้วยความคึกคัก จัดจ้านด้วยสีสันแฟชั่นบนรันเวย์ และแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จน้องสาวตระกูลเวอร์ซาเช่ที่มีพี่ชายสนับสนุนอยู่เสมอ วันที่ 27 มีนาคม 1996 ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ได้ถูกบันทึก จานนีและดอนนาเทลล่าออกมารับเสียงปรบมือกึกก้องบนรันเวย์หลังโชว์จบ แม้อาจจะดูแสนธรรมดาในแวดวงแฟชั่น แต่เชื่อไหมว่านี่เป็นภาพถ่ายบนรันเวย์ร่วมกันของทั้งคู่ครั้งท้ายๆ ในชีวิต พี่น้องตระกูลเวอร์ซาเช่ที่สาวกแฟชั่นพันธุ์แท้เห็นภาพการปรากฏตัวในบริบทต่างมามากมาย แต่การปรากฏตัวพร้อมกันบนรันเวย์ครั้งนี้ถือเป็นโมเมนต์หายาก และกลายเป็นโมเมนต์ร่วมกันครั้งท้ายๆ บนรันเวย์ร่วมกันของทั้งคู่จริงๆ

หลังจากพี่ชายเสียชีวิต น้องสาวเข้ามากุมบังเหียนแบรนด์ต่อนานถึง 3 ทศวรรษ ก่อนจะก้าวลงจากตำแหน่งแบบช็อกวงการ การเข้ามาของดีไซเนอร์คนใหม่อย่าง Dario Vitale กลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เวอร์ซาเช่ที่หัวเรือใหญ่ด้านงานศิลป์ไม่ใช่คนจากตระกูลเวอร์ซาเช่ (แบรนด์เวอร์ซัสเคยมีผู้อำนวยการสร้างสรรค์อย่าง Christopher Kane และ Anthony Vaccarello แต่ไลน์ใหญ่ของอาณาจักรเวอร์ซาเช่ไม่เคยมีมาก่อน) ภาพเหตุการณ์เมื่อปี 1996 จึงชวนให้โว้กย้อนรำลึกถึงโมเมนต์ความกลมเกลียวของครอบครัวเวอร์ซาเช่บนรันเวย์เป็นครั้งสุดท้าย และแม้จะไม่ใช่โมเมนต์จากแบรนด์หลัก แต่เชื่อเลยว่าพี่น้องตระกูลเวอร์ซาเช่ที่เป็นดั่งตำนานของโลกแฟชั่นกับการปรากฏตัวร่วมกันบนรันเวย์จึงต้องเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของพี่น้องบนเส้นทางสายแฟชั่น และเป็นภาพถ่ายไอคอนิกที่จะถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์ตราบนานเท่านาน ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้าตระกูลเวอร์ซาเช่อาจไม่ได้มีส่วนกับแบรนด์เวอร์ซาเช่อีกแล้ว ทว่านี่จะเป็นเครื่องเตือนความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงระลอกแรก ก่อนจะเปลี่ยนผ่านในระลอกที่ 2 ซึ่งสมาชิกของเวอร์ซาเช่อาจกำลังถอยห่างจากนามสกุลตัวเองไปเรื่อยๆ ในอนาคต

กราฟิก : จินาภา ฟองกษีร
ภาพ : Catherine McGann / Getty Images

WATCH

 
Close menu