FASHION
VOGUE HISTORY | ย้อนรอยกระเป๋าของ Hermès เมื่อเจ้าหญิงโมนาโกใช้เป็นอาวุธบดบังท้องจากปาปารัซซี่!#VogueHistory ขอหยิบยกกระเป๋าจากแอร์เมสรุ่น ‘Kelly’ หนึ่งในไอเท็มชิ้นไอคอนิกที่เดิมทีมีชื่อว่า ‘Sac à dépêches’ แต่ชื่อของมันได้ถูกเปลี่ยนเมื่อเจ้าหญิง ‘Grace Kelly’ ถือกระเป๋าใบนี้ปิดหน้าท้องขณะตั้งครรภ์เพื่อปิดข่าว จนกระทั่งในปี 1977 กระเป๋าทรงคลาสสิกภายใต้ฝีมือการออกแบบของเอมิล-เมาริสจึงถูกเรียกว่า ‘Hermès Kelly’ อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงแห่งโมนาโกนั่นเอง |
วลีที่ว่า ‘เหนือกาลเวลา’ เพียงได้ยินก็พอจะรู้เบื้องต้นว่าเป็นสิ่งที่อยู่ข้ามยุคข้ามสมัยที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ชั่วอายุคนก็ไม่มีวันตกยุค ซึ่งแต่ละวงการนั้นมีสิ่งที่เป็นดั่งไอคอนิกประดับแวดวงมาอย่างยาวนานแตกต่างกันไป เฉกเช่นกับอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีหลายเรื่องราวเรียงร้อยความสวยงามของผลงาน เรื่อยไปจนถึงตัวบุคคลที่ส่งผลต่อชิ้นงานเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจให้ผลงานเหล่านั้นได้ถูกถ่ายทอดมายังรุ่นสู่รุ่นต่อไป
แบรนด์เก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศส ‘Hermès’ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้ยินชื่อบนโลกนี้มาแล้วร่วม 188 ปีนับตั้งแต่ปี 1837 โดย Thierry Hermès ได้ก่อตั้งขึ้น เดิมทีเป็นแบรนด์เครื่องหนังที่ผลิตอุปกรณ์สำหรับม้า ไม่ว่าจะเป็นบังเหียน สายคล้องและอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการแลกเปลี่ยนหนังเพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุและบังเหียน ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูงในประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากผลงานมีความละเอียดประณีตและคุณภาพสูง แต่แบรนด์ได้ทวีคูณความยิ่งใหญ่ชาร์ลส์-เอมิลดูแลกิจการเต็มตัวในปี 1880 และโยกย้ายร้านไปที่ 24 rue du Faubourg Saint-Honoré จนสามารถแผ่ขยายสินค้าแอร์เมสไปได้ทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอานม้าที่ถูกส่งไปแผ่นดินยุโรป เอเชียรวมถึงอเมริกา และไม่กี่ปีต่อมาก็กำเนิดกระเป๋าเพื่อแบกสัมภาระไปกับการเดินทางบนหลังม้าอย่าง Haut à Courroies ซึ่งเป็นรากฐานของกระเป๋าแอร์เมสหลายต่อหลายรุ่นในปัจจุบัน #VogueHistory สัปดาห์นี้จึงขอหยิบยกกระเป๋าจากแอร์เมสรุ่น ‘Kelly’ หนึ่งในไอเท็มชิ้นไอคอนิกอันได้แรงบันดาลใจมาจากเจ้าหญิงแห่งโมนาโกอย่าง ‘Grace Kelly’ มาเล่าความเป็นมาเพื่อสดุดีถึงผลงานและเกรซที่เคยสร้างชื่อกระเป๋ารุ่นนี้ให้ก้องโลกจวบจนปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปแต่ต้นว่าแอร์เมสในยุคแรกเริ่มเป็นเพียงแบรนด์เครื่องหนังเพื่อผลิตสำหรับอุปกรณ์ม้า แม้จะปรับเปลี่ยนให้เป็นกระเป๋าถือแล้วก็ยังเป็นกระเป๋าที่ใช้สำหรับการเดินทางบนหลังม้าเท่านั้น กระเป๋า Kelly ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกดัดแปลงมาให้กลายเป็นแฟชั่นไอเท็มมาจนถึงทุกวันนี้ โดยในช่วงปี 1930 กระเป๋าดังกล่าวถูกเปลี่ยนโฉมให้มีความเรียบง่ายมากขึ้นโดยออกแบบให้มีความยืดหยุ่น สามารถพับเก็บได้ และสะดวกต่อการใช้งานในชื่อ ‘Sac a courroie pour dames’ ซึ่งมีความหมายว่า กระเป๋าที่มีสายรัดสำหรับสุภาพสตรี จนต่อมาปี 1956 แอร์เมสได้เปิดตัวกระเป๋านี้อย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ ‘Sac à dépêches’ โดยนำองค์ประกอบการออกแบบมาจากกระเป๋า ‘Haut à Courroies’ รุ่นเก่าที่ถูกออกแบบในปี 1850 มาดัดแปลงใหม่
ทว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้กระเป๋าใบนี้ได้รับความสนใจไปทั่วโลกไม่ใช่แค่ความโดดเด่นของไอเท็มที่สร้างขึ้นด้วยตัวของมันเอง หนำซ้ำยังเป็นช่วงซบเซาของแบรนด์แอร์เมสที่ยอดขายดิ่งลงจนเหล่าสาวกใจหาย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเมื่อปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์ปี 1956 ได้เปิดภาพแรกของอดีตนักแสดงสาวชื่อดังในยุคนั้นนาม ‘Grace Kelly’ หรือเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ คู่หมั้นของเจ้าชาย Rainier แห่งโมนาโก ถือกระเป๋า Sac à dépêches ปิดหน้าท้องขณะตั้งครรภ์เพื่อปิดข่าวเป็นหน้าปกนิตยสาร หลังจากนั้นเหล่าสาวกแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสต่างถามหา “Kelly Bag” กันอย่างถ้วนหน้า พร้อมเปลี่ยนทิศทางรายได้ที่ดิ่งลงเหวกลับคืนสู่ยอดเขาได้น่าเหลือเชื่อ เมื่อแบรนด์เห็นโอกาสอันดีในการเปลี่ยนเพื่อกระแสและความเข้าใจง่าย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในปี 1977 กระเป๋าทรงคลาสสิกภายใต้ฝีมือการออกแบบของเอมิล-เมาริสจึงถูกเรียกว่า ‘Hermès Kelly’ อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงแห่งโมนาโกนั่นเอง
ถึงแม้ความโด่งดังชั่วข้ามคืนจะมาจากปกนิตยสารไลฟ์ที่แปะภาพของเกรซไว้ แต่แท้จริงแล้วเธอในฐานะนักแสดงเคยจับกระเป๋าใบนี้ตั้งแต่การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘To Catch a Thief’ ในปี 1954 เมื่อ Edith Head ผู้เป็นดั่งสไตลิสต์ของกองถ่ายได้จัดสรรเรื่องแอ็กเซสเซอรี่รวมถึงกระเป๋าใบนี้ให้เกรซได้ถือเข้าประกอบฉาก ทำให้เธอตกหลุมรักไอเท็มชิ้นนี้และนำมาสู่การเป็นกระเป๋าคู่ใจที่ถือเคียงกายอยู่เสมอเมื่อปรากฏตัวต่อสาธารณะ โดยเอกลักษณ์ที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบันคือรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่สมัยนั้นได้รังสรรค์ขึ้นจากหนังจำนวนทั้งสิ้น 36 ชิ้น พร้อมฝีเข็มทั้งหมดจำนวน 680 ฝีเข็มจากช่างฝีมือเพียงคนเดียวซึ่งการผลิตกระเป๋าหนึ่งใบจะใช้เวลา 18-24 ชั่วโมง หลังจากที่เจ้าหญิงเกรซได้สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ สิริพระชนมายุได้ 52 พรรษาในปี 1982 กระเป๋าใบนี้ของพระองค์ได้ถูกจัดตั้งอยู่ที่พระราชวังโมนาโก จนเมื่อปี 2010 ได้นำมาจัดแสดงที่ Victoria and Albert Museum ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นต้นมา ซึ่งมีการจัดแสดงร่วมกับของใช้ส่วนพระองค์อีกหลายชิ้นอีกด้วย
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้กระเป๋า ‘Hermès Kelly’ ก็ยังคงเป็นไอเท็มที่เหล่าสาวกล้วนอยากจับจองเป็นเจ้าของ ทั้งความสวยงามของรูปลักษณ์ และความละเอียดประณีตของชิ้นงาน ผู้เขียนจึงไม่แปลกใจที่ใครหลายคนยกให้กระเป๋าใบนี้ขึ้นแท่นเป็นกระเป๋าใบโปรดเช่นเดียวกับเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ ผู้สร้างตำนานให้แก่กระเป๋าใบนี้ให้มีชีวิตยาวนานร่วมศตวรรษไม่รู้ลืม…
สามารถติดตาม #VogueHistory ได้ทุกวันศุกร์ ทุกช่องทางของ Vogue Thailand
ภาพ : Bettmann / Getty Image
กราฟิก : จินาภา ฟองกษีร
WATCH