เจาะลึกเรื่อง “ราชินีฟันดาบ” Vivian Kong กับประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำ ณ Grand Palais

     สุดยอดการแข่งขันกีฬาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 หลายประเภทถูกจับตามองเพราะเหล่านักกีฬาฝีมือชั้นนำระดับโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อช่วงชิงความยิ่งใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนพิเศษ ณ กรุงปารีส เช่นเดียวกับกีฬาฟันดาบที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากหลายเหตุผล ตั้งแต่สถานที่จัดการแข่งขันอย่าง Grand Palais ที่เพิ่งรีโนเวตด้วยงบประมาณมหาศาลเสร็จหมาดๆ อีกทั้งกีฬาฟันดาบยังเป็นกีฬายอดนิยมและกีฬาความหวังเจ้าภาพฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาขวัญใจมหาชนที่ได้รับความสนใจลงแข่งอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ราชินีฟันดาบ” Vivian Kong ที่เรากำลังจะพูดถึงในบทความนี้

     วิเวียน กง นักฟันดาบวัย 30 ปีจากฮ่องกงถือเป็นขวัญใจมหาชนของวงการฟันดาบโดยแท้ ซึ่งเธอได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีฟันดาบ” จากทั้งรูปลักษณ์อันโดดเด่นและฝีมือการวาดเพลงดาบที่สวยงดงาม มาครั้งนี้เธอมาในฐานะตัวเต็งของรายการฟันดาบชนิดเอเป้ (Epée) เธอคือเจ้าของแชมป์เอเชีย3 สมัย และแชมป์ “FIE Women's Épée World Cup” เมื่อปี 2019 ก่อนหน้านี้เธอเข้าร่วมโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้งแต่ก็ยังไม่เคยมีเหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านไปเลยแม้แต่เหรียญเดียว ความหวังในโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีสจึงเป็นเหมือนเส้นทางสานฝันครั้งสำคัญที่เธอก้าวเดินพร้อมแรงสนับสนุนมหาศาล

     บรรยากาศ ณ กรองด์ ปาเลส์คึกคักอย่างมาก สแตนด์เชียร์ขนาดใหญ่ถูกสรรสร้างขึ้นเพื่อบรรยากาศอันการแข่งขันที่เข้มข้นและมีเสน่ห์แบบยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบ วิเวียน กงถือเป็นนักกีฬาความหวังของฮ่องกงและต้องแบกรับความกดดัน เธอเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ตั้งแต่รอบ 32 คน ก่อนจะฝ่าฟันผ่านด่านหินจนกระทั่งโคจรมาพบกับ Auriane Mallo-Breton นักฟันดาบฝีมือเยี่ยมจากชาติเจ้าภาพ ด้วยสถานการณ์ความกดดันประกอบกับการแข่งขันท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มของเจ้าภาพนี่คืองานหินของวิเวียน กงโดยแท้จริง ซึ่งความหวังเหรียญทองโอลิมปิกของเธอแทบจะเลือนลางไปอย่างน่าใจหายและหลายคนเชื่อว่าเธอจะพลาดโอกาสสำคัญในชีวิต

โมเมนต์การแข่งขันดุเดือดระหว่าง Vivian Kong (ขวา) กับ Auriane Mallo-Breton (ซ้าย) ในรอบชิงเหรียญทองการแข่งขันฟันดาบประเภทเอเป้ หญิงเดี่ยว โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส / ภาพ: South China Morning Post

     เริ่มต้นเกมวิเวียน กงตกเป็นรองนักดาบชาวฝรั่งเศสไปแบบทิ้งห่างด้วยคะแนน 1-7 เสียงเชียร์กระหึ่มของเหล่าแฟนกีฬาเจ้าภาพ และเสียงเชียร์ “Allez Les Bleus” สร้างบรรยากาศความกดดันถึงขีดสุด จนกระทั่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่งของการแข่งขันวิเวียน กงตัดสินใจเปลี่ยนดาบ ฉากนี้เหมือนในภาพยนตร์ นิยาย หรือแม้กระทั่งการ์ตูนเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเธอเปลี่ยนอาวุธเข้าสนามประลองอีกครั้ง เธอสามารถไล่คะแนนจนมาคู่คี่สูสี และในท้ายที่สุดเธอก็เฉือนชนะไปด้วยคะแนน 13-12 ฝากความปราชัยให้ชาติเจ้าภาพไปอย่างเข้มข้น

     ราชินีฟันดาบที่เคยเป็นฉายาที่ทุกคนเรียกขาน วันนี้พิสูจน์ฝีมือและก้าวสู่จุดสูงสุดของเส้นทางนักฟันดาบกับเหรียญทองโอลิมปิก และยังเป็นผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญที่ 3 ในประวัติศาสตร์ฮ่องกง ถือเป็นโมเมนต์อันยิ่งใหญ่ที่ฉากหลังแห่งการเฉลิมฉลองเป็นกรองด์ ปาเลส์ สุดยอดสนามแข่งขันที่จะต้องจารึกในความทรงจำของแฟนกีฬาทั่วโลกอย่างแน่นอน ประวัติศาสตร์ครั้งนี้วิเวียน กงเขียนบันทึกมันลงด้วยตัวเอง ความยิ่งใหญ่ในฐานะนักฟันดาบถูกพิสูจน์แล้วด้วยตำแหน่งสูงสุดบนโพเดียมมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ และเธอก็สมกับตำแหน่ง “ราชินีฟันดาบ” ด้วยประการทั้งปวง

โมเมนต์การฉลองชัยของ Vivian Kong กับโค้ชหลังคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2024 / ภาพ: South China Morning Post

     เรื่องนอกสนามของวิเวียน กงก็น่าสนใจไม่แพ้ผลงานอันยอดเยี่ยมเช่นกัน หลังจากคว้าชัยทั่วโลกต่างค้นหาประวัติของราชินีนักดาบคนนี้กันยกใหญ่ ซึ่งเธอคือตัวอย่างนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จรอบด้านอย่างแท้จริง ด้านการศึกษาเธอจบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกาและของโลก ต่อด้วยปริญญาโทด้านกฎหมาย พร้อมทั้งต่อยอดสู่ระดับปริญญาเอกด้านเดียวกันจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง นับว่าราชินีฟันดาบผู้นี้เก่งกาจรอบด้านและสามารถสร้างความสำเร็จพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังชีวิตแห่งความสมบูรณ์แบบ

     นอกจากเรื่องฝีมืออันเก่งฉกาจและประวัติส่วนตัวอันดีเลิศแล้ว วิเวียน กงยังได้รับเสียงชื่นชมโดยเฉพาะจากคนฮ่องกงอย่างล้นหลาม เพราะด้วยฝีไม้ลายมือการดวลดาบทำให้ประเทศแคนาดาเชื้อเชิญให้เธอเลือกโอนสัญชาติเพื่อแข่งขันในนามทีมชาติแคนาดา ด้วยองค์ประกอบความพร้อมของการกีฬาแคนาดาอาจทำให้เธอมีโอกาสก้าวสู่ฝั่งฝันได้เร็วกว่าเดิม ทว่าเธอกลับปฏิเสธและต้องการแข่งขันในนามนักกีฬาฟันดาบฮ่องกง จนในท้ายที่สุดเธอก็สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองและฮ่องกง กับเหรียญทองโอลิมปิกแห่งความทรงจำ และเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญที่ 3 ของฮ่องกง บนโพเดียมสุดแสนพิเศษ ณ กรองด์ ปาเลส์