เซนส์ด้านสไตล์ตามแบบฉบับ ‘แฟชั่น’ ของเวียดนามคืออะไร

ต้องบอกว่าปี 2023 ต่อเนื่องถึงปี 2024 ถือเป็นปีทองของดีไซเนอร์เวียดนามเลยก็ว่าได้ เพราะสาวๆ ในภูมิภาคเอเชียต่างคลั่งไคล้กับแนวทางการสร้างสรรค์แฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ แม้จะไม่ได้ก้าวสู่ระดับแถวหน้าเหมือนแบรนด์ลักชัวรีที่มีชื่อเสียงจากฟากตะวันตก แต่ก็สามารถสร้างมิติความหลากหลายในการนำเสนอจนทำให้สาวๆ เอเชียจำนวนมากได้สัมผัสกับวิถีแฟชั่นจากฝั่งเอเชียด้วย และสามารถนำเสนอคาแร็กเตอร์ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้หญิงรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันดีไซเนอร์เวียดนามอีกจำนวนไม่น้อยก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ทดลองเปิดกว้างสู่แฟชั่นที่ได้รับการจับตามองอย่างต่อเนื่อง

แฟชั่น Y2K ในแบบฉบับสาวเวียดนาม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์กระแสแฟชั่น Y2K คือแนวทางที่ทำให้โลกแฟชั่นแถบภูมิภาคเอเชียเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปพร้อมกับการค้นหาสไตล์ของเด็กเจนเนอเรชั่นใหม่ แฟชั่น Y2K ที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายแบบ Nostalgic สู่ยุคมิลเลนเนียล (ที่บางคนอาจไม่เคยสัมผัสโดยตรง แต่หลงใหลกับมรดกที่หลงเหลือมา) การตีความแฟชั่นเหล่านี้จึงมีความสดใหม่ปนกับแรงบันดาลใจจากเมื่อสัก 2 ทศวรรษก่อน ยิ่งสอดประสานกับกระแสนิยมแล้วจะเห็นผลผลิตที่มีสไตล์อันโดดเด่น ซึ่งลวดลายโบว์ผูกที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองก็มาจากแบรนด์ Huelley Rose, L Seoul หรือจะเป็น Wet Avocado ก็ล้วนถูกใจสาวๆ จำนวนมาก

แฟชั่นผู้หญิง ในมิติที่หลากหลายและไร้เส้นแบ่งด้านเพศ

หากจะพูดถึงดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จและมีกระแสโด่งดังที่สุดจากเวียดนาม คงต้องพูดถึงชื่อ Peter Do ที่เคยถึงขั้นขึ้นกุมบังเหียนแบรนด์ชื่อดังอย่าง Helmut Lang มาแล้ว แฟชั่นของปีเตอร์อาจเน้นไปเรื่องงานเทเลอริ่งและอาจถูกมองว่ามีรากฐานจากการสร้างสรรค์แฟชั่นสำหรับผู้ชาย ทว่าในขณะเดียวกันมันก็สามารถปรับแต่งเพื่อให้ผู้หญิงสวมใส่ได้เช่นกัน แฟชั่นผู้หญิงในแบบของปีเตอร์ถือเป็นมิติใหม่ของแวดวงดีไซเนอร์จากเวียดนาม เพราะชุดเวียดนาม แฟชั่นจึงไม่ได้มีแค่ชุดผูกโบว์สายหวานเฟมินีนจ๋า แต่อาจมีผลงานเทเลอริ่งคมกริบที่สอดแทรกรายละเอียดความเฟมินีนเย้ายวนชวนให้ทุกคนได้ลองสวมใส่สักครั้ง

แฟชั่นยุค 80 กับ แฟชั่นยุค 90 ตามมุมมองการรื้อสร้างใหม่สไตล์เวียดนาม

รูปแบบความสวยงามของชุดเวียดนาม แฟชั่นสัญลักษณ์รูปแบบใหม่ที่ปรากฏขึ้นในสารบบแฟชั่นผู้หญิงเอเชียยุคใหม่ กลิ่นอายความวินเทจถูกผลิตซ้ำอีกครั้งอย่างมีนัยสำคัญ เสื้อผ้าที่มีความย้อนยุคไม่ได้มาจากร้านขายของวินเทจเสมอไป แต่หมายถึงการปรับแต่งสื้อผ้าให้มีกลิ่นอายความวินเทจมากขึ้น ซึ่งนั่นปรากฏขึ้นกับชุดเวียดนาม แฟชั่นฮิตของคนยุคใหม่หลากหลายแบรนด์ อาทิ Vintage.gout หรือ CLÉLIE เป็นต้น

 

หากใครกำลังมองหาแฟชั่นเก๋ๆ ในสไตล์หลากหลาย ต้องบอกว่าแบรนด์เวียดนาม หรือชุดจากดีไซเนอร์เวียดนามสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลากมิติ ไม่ได้มีเพียงชุดเวียดนาม แฟชั่นในแบบที่อาจเป็นภาพจำของความหวานปนเซ็กซี่เท่านั้น แต่ยังมีตัวเลือกให้ได้เสาะหาความเหมาะลงตัวกับคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว รับรองว่าพอได้ลองท่องไปในโลกของแฟชั่นเวียดนาม อย่างน้อยก็ได้สนุกสนานกับแฟชั่นในแบบฉบับที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์แน่นอน