เสื้อคอกลมราคา 150,000 บาท! ล้วงความลับที่ทำให้ไอเท็มที่(ดู)แสนธรรมดาพิเศษที่สุดในโลก
แบรนด์ Loro Piana สรรสร้างไอเท็มจากวัสดุขนสัตว์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และเรื่องราวของมันก็พิเศษที่สุดเช่นกัน
ไอเท็มในแวดวงแฟชั่นที่มีราคาสูงทะลุเพดานอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ส่วนใหญ่มักแสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการ หรือการออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็นสินค้าหรูหราเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุ โลโก้ หรือแม้แต่ความหายากของสิ่งนั้นๆ เพราะฉะนั้นเมื่อพูดถึงสินค้าราคาหลักแสนหรือหลักล้านผู้คนจะนึกถึงสิ่งที่พิเศษและบ่งบอกถึงความลักชัวรีได้อย่างดี กระเป๋ารุ่น Kelly และ Birkin จาก Hermès หรือจะเป็นหีบไอคอนิกจาก Louis Vuitton ทุกคนรู้จักสิ่งเหล่านี้ดีและรับรู้ถึงราคาที่อยู่ในระดับท็อป หากไม่นับจิวเวลรีไอเท็มเหล่านี้คงเป็นไอเท็มที่มีราคาสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก
แคมเปญวันหยุดประจำปี 2022 ของ Loro Piana ที่มุ่งเน้นรายละเอียดของความหรูหราโดยเน้นเรื่องคุณภาพ / ภาพ: Loro Piana
สำหรับแบรนด์ยักษ์ใหญ่สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์บ่งบอกของระดับชั้นอันเหนือกว่า ไอเท็มเหล่านี้ถูกเพิ่มมูลค่าขึ้นจากเรื่องราวและความนิยมอันสวนทางกับการผลิตที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่แน่นอนว่าเมื่อใครมีไว้ครอบครองและนำไปใช้จริงทุกคนจะทราบได้ทันทีว่าเป็นไอเท็มหรูจากแบรนด์ระดับโลก ทว่าบางครั้งความหรูหราไม่ได้มาในรูปแบบของไอเท็มไอคอนิกหรือหายากเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหลายครั้งแบรนด์เก่าแก่จำนวนไม่น้อยที่เชิดชูสิ่งที่เรียกว่า “Quiet Luxury” หรือความลักชัวรีแบบไม่เอะอะ ซึ่งแบรนด์อย่าง Loro Piana ก็เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่ออย่างมากในการรังสรรค์สิ่งเหล่านี้
บิกุญญาสัตว์คุ้มครองระดับ 2 ขององค์กร CITES / ภาพ: ZDF Studios
เสื้อถักคอกลมราคาหลักแสน! อ่านไม่ผิดแน่นอน ลอโร่ เปียน่าคือแบรนด์ที่สามารถขายไอเท็มหน้าตาเบสิกธรรมดาได้ในราคามหาศาลเช่นนี้ แต่เดี๋ยวนี้นี่ไม่ใช่การโกงหรือหาผลประโยชน์โดยใช้ชื่อแบรนด์ เพราะแบรนด์สัญชาติอิตาลีกำลังสรรสร้างไอเท็มแสนเรียบง่ายด้วยวัสดุที่ดีที่สุด ซึ่งเสื้อถักคอกลมสีเบจที่ดูเหมือนเป็นไอเท็มสามัญประจำตู้เสื้อผ้าทั่วไปนั้นทำมาจากเนื้อผ้าวูลบิกุญญา (Vicuña Wool) โดยเนื้อผ้าชนิดนี้ครองตำแหน่งเนื้อผ้าที่มีราคาแพงและหายากที่สุดในโลก ในบทความนี้โว้กจะขยายความต่อว่าวูลบิกุญญาที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนนั้นพิเศษอย่างไร
WATCH
ผลงานศิลปะที่จำลองภาพการล่าบิกุญญาของคนท้องถิ่นในสมัยโบราณ / ภาพ: Science
จุดเริ่มต้นของผ้าวูลบิกุญญาต้องเดินทางข้ามไปไกลถึงบริเวณเทือกเขาแอนดีสที่ครอบคลุมประเทศเปรู โบลิเวีย และอาร์เจนติน่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ 4 ขาลักษณะคล้ายกวางและมีความเชื่อมโยงกับสัตว์สายพันธ์ลามะ โดยสัตว์ประเภทนี้มีขนที่มีลักษณะเด่นคือนุ่มเนียนละเอียด ขนของมันได้รับการจัดอันดับให้เป็นขนสัตว์ที่มีความละเอียดที่สุดในโลก แน่นอนว่าย้อนกลับไปหลักร้อยปีก่อนมันจึงเป็นสัตว์ยอดนิยมที่ถูกล่าอย่างไม่ลดละ ทำให้ประชากรลดลงอย่างน่าใจหาย และนั่นทำให้สายพันธ์บิกุญญาตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ ทำให้บิกุญญาถูกขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองระดับสูงสุดของ CITES เพื่อปกป้องมันไม่ให้สูญพันธุ์ก่อนจะสายเกินไป ดูเหมือนว่าผ้าวูลบิกุญญาจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่น่าจะหาได้อีกต่อไป
ความละเอียดของขนบิกุญญาที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตเสื้อผ้าระดับสูง / ภาพ: Loro Piana
ปี 1994 จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น บิกุญญาฟื้นฟูระดับประชากรได้อย่างน่าพึงพอใจ ทำให้องค์กร CITES เปลี่ยนจากระดับสูงสุดมาสู่ระดับรองลงมา ซึ่งหมายถึงสามารถเก็บเกี่ยวขนของมันได้แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัด ผู้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับสัตว์ภายใต้การคุ้มครองจะต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันนอกจากลอโร่ เปียน่า ก็มี Agnona และ Incalpaca TPX เท่านั้นที่สามารถเก็บขนของบิกุญญาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และแน่นอนว่าด้วยข้อจำกัดและการควบคุมทำให้มันมีราคาสูงทะลุเพดานยิ่งใหญ่ขนสัตว์ชนิดใดในโลก
เสื้อคอกลมแขนสั้นแบรนด์ Loro Piana ที่สนนราคาราวๆ 131,000 บาท / ภาพ: Loro Piana
ความซับซ้อนในการผลิตและจำนวนอันน้อยนิดคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ราคานั้นยากจะเอื้อมถึง บิกุญญาแต่ละตัวจะสร้างขนขึ้นมาน้ำหนักเพียง 250-450 กรัมต่อ 2 ปีเท่านั้น และไม่ใช่ว่าขนทุกส่วนจะสามารถทำมาผลิตผ้าวูลได้ เพราะหลังจากเก็บขนด้านนอกต้องมาแยกขน “Down Hair” หรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่าเฟอร์ออกมาต่างหาก ก่อนจะนำเข้าสู่กระบวนการทำสีธรรมชาติ เพราะขนของมันละเอียดและไม่เป็นมิตรต่อการฟอกสีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ขนของมันยังสั้นและยากต่อการปั่นผ้าด้วย ความสลับซับซ้อนตรงนี้จึงเพิ่มมูลค่าของวูลบิกุญญาขึ้นไปอีกขั้น
ชุดเดรสถักของผ้าวูลบิกุญญาที่สนนราคาราวประมาณ 307,000 บาท / ภาพ: Loro Piana
ความล้ำลึกตรงนี้ลอโร่ เปียน่าลงทุนไปมากเช่นกัน เพราะแบรนด์มี Reserve Dr. Franca Loro Piana สถานที่เขตสงวนทางธรรมชาติแบบส่วนตัวที่แรกประเทศเปรู พวกเขาดูแลและพัฒนาเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์บิกุญญาเอาไว้อย่างดีที่สุด ทาง Ermenegildo Zegna เองก็พัฒนาระบบน้ำให้กับชุมชนแถบนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ของบิกุญญาต่อไป เรียกว่าแบรนด์ชั้นนำต่างลงทุนและพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง นั่นก็เพราะผ้าวูลบิกุญญามันเลอค่าเหนือระดับอย่างแท้จริง
Loro Piana Arvel Coat เนื้อผ้าวูลบิกุญญาที่มีราคาค่าตัวร่วม 1,000,000 บาท / ภาพ: Loro Piana
หากพูดมาถึงตรงนี้ก็ต้องพูดถึงเรื่องราคากันบ้าง เสื้อโค้ตที่ทำในเขตท้องถิ่นของเปรูเองจะสนนราคาเริ่มต้นราวๆ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่ถ้าในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปเสื้อแจ็กเก็ตจะเริ่มที่ประมาณ 21,000 เหรียญสหรัฐฯ และสูททั้งชุดสนนราคาที่ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นไป นั่นหมายถึงหากใครต้องการชุดสูทเนื้อผ้าบิกุญญาต้องควักกระเป๋าหลักล้านบาทเลยทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลให้เสื้อถักคอกลมแขนสั้นของแบรนด์ลอโร่ เปียน่ามีราคาสูงถึง 3,500 ยูโร หรือประมาณ 131,000 บาท และเสื้อโค้ตตัวยาวรุ่น Arvel เพียงตัวเดียวมีราคาสูงถึง 25,200 ยูโร หรือเกือบ 1,000,000 บาท และเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่มีการแต่งแต้มรายละเอียดที่บ่งบอกถึงแบรนด์หรือป่าวประกาศถึงความพิเศษของเนื้อผ้า มีเพียงผู้สวมใส่ที่จะได้สัมผัสความนุ่มสบายราวกับสวมปุยเมฆ ประสบการณ์เหนือระดับแบบนี้ทำให้คำว่า “Quiet Luxury” เป็นนิยามความหรูหราที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์อันพิเศษโดยไม่ต้องตะโกนเอะอะบอกใครอย่างแท้จริง
ข้อมูล:
WATCH